เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

อย่างที่หลายคนคอยติดตามหลังจากมีข่าวออกมาว่า “หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์” และภรรยาสาว “ติ๊ก กนิษฐรินทร์ เทพพิทักษ์” หรือ “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” นั้นมีการหย่าร้าง แถมเปลี่ยนนามสกุลกันแล้วจริงๆ ซึ่งหลังจากมีข่าวเมาท์มอยดังกล่าวออกมา ทั้งคู่ก็ไม่ได้มีการชี้แจงอะไรกับข่าว ยังคงใช้ชีวิตกันตามปกติ มีการออกมาไลฟ์สดร่วมกันบ้าง เหมือนจะเป็นการสยบข่าวลือกลายๆ จนกระทั่งล่าสุดทำเอาหลายคนถึงกับช็อกไปตามๆกัน เมื่อ หนุ่ม ศรราม ได้โชว์ใบหย่า ออกมาโพสต์ร่ายยาว ด้วยข้อความระบุว่า… “เนื่องจากในระยะ​ 2-3​ สัปดาห์​ที่ผ่านมามีบุคคล​มาตามหาคุณ​ติ้กที่บ้านและโทรศัพท์​มาหาผมหลายครั้ง​ ซึ่งผมเองก้อทำงานเกือบทุกวัน​ จึงขอความกรุณา​ผู้ใดก้อตามที่ได้ทำสัญญา​หรือ​ทำธุรกรรม​ทางด้านการเงินหรือด้านต่างๆกับคุณ​ติ้ก​ กนิษฐ์​รินทร์​ พัชร​ภักดี​โชติช่วยติดต่อ​กับคุณ​ติ้กโดยตรงและไม่ต้องมาที่บ้านผมกับลูก​ เพราะ​ผมกับลูก​ไม่ทราบเรื่องใดๆทั้งสิ้น​ เพราะสถานภาพของเราทั้งสองได้หย่าขาดกันอย่างเป็นทางการเรียบร้อยตามวัน​ เวลา​ ดังกล่าว​และคุณติ้กก้อไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านของผม​แล้ว​ เราสองคนต่างทำแค่หน้าที่​พ่อกับแม่ของวีจิตามข้อตกลง​ที่ระบุตามเอกสารที่ระบุไว้เท่านั้น​ ขอบพระคุณ​ครับ​ผม​ @mama.veeji​ @veeji_theappitak @sornramfanclub #STVeeji”

ทางด้าน หนุ่ม ศรราม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า… “สิ่งที่ติ๊กพูดในรายการ มีบางอย่างที่จริงบ้างและไม่จริงบ้าง แต่ขอให้ปล่อยผ่านจุดนี้ไป เพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด ยืนยันจะไม่ออกมาให้สัมภาษณ์ เพราะอยากให้เรื่องจบแค่นี้ หากติ๊กตั้งใจทำงาน เป็นคนใหม่ มีชีวิตที่ดี ตนก็โอเคเพราะเป็นแม่ของลูก อยากให้เขาดูแลลูก แต่หากเป็นตอนนี้ดูแล้วคงไม่พร้อม”

“ส่วนสภาพจิตใจ มองว่าคงไม่มีใครสนุกกับเรื่องนี้แน่นอน ต่างคนต่างเสียใจ โดยส่วนตัวเป็นคนทุ่มเทให้ทุกเรื่อง หลักๆ คือครอบครัวยิ่งมี วีจิ ลูกสาว ก็ยิ่งทุ่มเท เงินทองทั้งหมดทุ่มที่บ้าน ดูแลติ๊กและวีจิ ส่วนใหญ่ก็เข้าใจว่าเป็นคนดัง ผู้คนเลยติดตาม แต่อยากให้จบแค่นี้ เรื่องที่เกิดเป็นความทุกข์พอแล้ว” 

“ชีวิตหลังจากนี้คือเลี้ยงวีจิ ตอนนี้มีพี่เลี้ยงดูแลเรียบร้อย หมดกังวลแล้วว่าใครจะมาทวงหนี้ ส่วนที่ต้องออกมาโพสต์ ยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ต้องเลือกและต้องแลก เพื่อที่ให้เขาปรับปรุงพฤติกรรม และมีชีวิตที่ดีขึ้น เผื่อวันหนึ่งจะได้กลับมาดูแลลูกได้”

ถึงอย่างไรก็ตามล่าสุดหนุ่ม ศรราม ยอมเปิดใจสัมภาษณ์ผ่านรายการแฉ โดยเผยว่าตอนที่อีทีเอ็มหาย ตนต้องไปแจ้งความ และต้องอายัดบัตรที่ธนาคาร ทำให้ธนาคารชี้แจงว่าเป็นคนใกล้ชิด เขาก็ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจก่อน ว่าเขาไม่เกี่ยว ตนก็เข้าไปที่เจ้าหน้าที่ตร. คุยกับพนักงานสืบสวน ดูกล้องวงจรปิดเห็นว่าเป็นติ๊ก ว่า ณ เวลาไหนกดตู้ไหน แต่เส้นทางการเงิน พนักงานสืบสวนก็ให้ดูว่าเขาไปในทางพนันออนไลน์ ตนก็เลยถอนฟ้อง และขอให้ติ๊กแก้ไขและปรับปรุงตัว ถ้ามีหนี้สินเท่าไหร่ขอให้บอก ครั้งนั้นเคลียร์ให้ 7.5 แสน

เขามีปัญหาอะไรตนก็ช่วยได้ตามกำลังตลอดเวลา ช่วยตั้งแต่ก่อนแต่ง ไม่ทราบว่าเขาติดก่อนแต่งหรือเปล่า แต่ตนบอกให้เขาหยุด ปรับปรุงแก้ไข จำนวนเงินไม่เป็นไร แต่เจตนามันสำคัญ ก็เลยคิดว่าหย่า แต่ไม่อยากให้วีจิขาดใครคนใดคนหนึ่งในชีวิต เพราะลูกยังเล็ก ตนขอให้ปรับปรุงและแก้ไขมัน เขาก็บอกเรื่องหนี้ให้ทราบ ตนช่วยได้เท่าที่ช่วยได้ ทุกครั้งที่มีปัญหาเรื่องเงิน ตนได้แต่ฟังปัญหา แต่ไม่รู้ว่าปัญหาจริงๆ คืออะไร

หลังรู้ตอนปลายเหตุ พอมาถึงวันนี้ก็พอจะเดาได้ว่ามันไม่ได้ถูกแก้ไขและปรับปรุง ก็มีมาเรื่อยๆ จนมาถึงเรื่องหน้ากาก ตนไม่รู้เรื่องอะไรเลย รู้แค่ว่ามีคนมาฟ้องติ๊ก และตนต้องช่วยเขา อีกวันเอาเช็คเงินส่วนตัวนำมาชำระคืนให้ 9 แสน เอาเงินส่วนตัวไปปิดซะเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่โต หลังจากนั้นก็มีปัญหาเรื่อยๆปัญหามันไม่ถูกแก้ไข ระยะที่ไปรับงานเล่นคอนเสิร์ตเปิดร้านๆ นึง ตนก็เพิ่งทราบว่าเงินมัดจำติ๊กรับมาครึ่งนึง แต่ทราบจากติ๊กว่าเขาเลื่อนเงินมัดจำ พอตนโทรไปตามอีกครึ่งนึงถึงได้รู้ว่าเงินมัดจำโอนไปแล้ว

ขณะที่ตนไปถ่ายละคร มีคนมาที่บ้านทุกวัน มันไม่ปลอดภัย มีการโทรศัพท์มาทวงหนี้เยอะขึ้น ผมถึงต้องุยติความสัมพันธ์กับติ๊ก การใช้ชีวิตร่วมกันแบบนั้นไม่ได้ และเคยพูดว่าถ้าใช้หนี้ไม่พอ เอาทองไปขาย ถ้าต้องเอาเงินอนาคตวีจิไปใช้ ผมถามว่าถ้าเอาทองไปขายล่ะ เขาบอกทองขายไปหมดแล้ว ถึงแม้เขาบอกบางส่วนก็ตาม

จริงๆ ตนให้เงินเดือนติ๊กเดือนละ 3 หมื่น ไม่รวมค่ากินค่าอยู่ค่าซื้อของเครื่องใช้ในบ้าน เรื่องลูกผมรับผิดชอบ มันไม่ใช่ 300-500 บาทและผมเห็นว่าการปรับปรุงในการแก้ปัญหาจนถึงปัจจุบัน เราคงใช้ชีวิตรวมกันไม่ได้ ต่อให้ขายไปส่วนนึง แต่ทองเป็นของคนที่เขาให้เป็นน้ำใจ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพรักเท่าไหร่ คิดว่ากี่บาท พูดตรงๆ สลึงนึงก็ไม่ควรขาย ตนบอกว่าลองไปขายมั้ยแต่เขาบอกว่าไม่มีแล้ว

สิ่งที่จะบอกคือตนไม่ได้อยากออกมาพูดเรื่องส่วนตัว มันเจ็บทั้งคู เมื่อครอบครัวแตกมันพังอยู่แล้ว ตนก็แย่ ติ๊กก็แย่ แต่คนแย่ที่สุดคือลูก ณ วันนี้ติ๊กออกมาขอโทษตน สังคม วีจิ ทุกอย่างเรียบร้อย ตนขอดูการกระทำของเขาสักระยะว่ามีความปลอดภัยจริงมั้ย

by TVPOOL ONLINE

TV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool Online