เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
ก่อนหน้านี้ ทำเอาคอบันเทิงตกอกตกใจไม่น้อย หลังจากที่ “ซาร่า คาซิงกินี” อดีตหวานใจของ “ไมค์ พิรัชต์” โพสต์ข้อความลงในโลกออนไลน์ จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่าฝ่ายชายไมค์ พิรัชต์ได้ยื่นคำร้องขออำนาจปกครองบุตร ให้เป็นบิดาของ “น้องแม็กซ์เวลล์” บุตรชายของทั้งคู่ โดยชอบด้วยกฎหมายล่าสุด “ซาร่า คาซิงกินี” ได้ตั้งทนายเพื่อเดินเรื่องดังกล่าว พร้อมระบุข้อความด้วยว่า

 

“ใบหน้าของพี่แม็กซ์ ดวงตาที่อบอุ่น รอยยิ้มที่มีความสุข ความไร้เดียงสาของเด็กน้อยคนนี้ ลูกของแม่…แม่มีความสุขทุกวัน…แม่รักลูกทุกวัน…ตั้งแต่วันที่รู้ ว่าในท้องของแม่ ยังมีอีกหนึ่งชีวิตน้อยๆ” “ตั้งแต่วันที่ลูกเกิด วันที่ลูกลืมตาขึ้นมา เสียงแรกที่ลูกร้อง รักแท้ของแม่ ดวงใจของแม่…แม่ทน แม่ยอมเสียสละได้ทุกอย่าง เพื่อความสุขของแม็กซ์เวลล์ แม่เป็นแค่ผู้หญิงคนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้มีอะไรวิเศษไปกว่าคนอื่น แม่ไม่อยากเสียลูกไป ไม่อยากให้ใคร…พรากแก้วตาดวงใจไปจากแม่ แม่จะเข้มแข็ง พร้อมสู้ด้วยใจที่เต็มไปด้วยความรักที่แม่มีต่อลูก”“#พี่แม็กซ์ครับแม่รักลูกสุดหัวใจ #แม่จะเข้มแข็งที่สุดเพื่อให้เราได้อยู่ด้วยกันเหมือนเดิม ตอนนี้ซาร่า แต่งตั้งทนาย และให้ผจก.ส่วนตัวไป ศาลนะคะ”
ไมค์ – พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” ได้เดินทางมายังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ในคดียื่นคำร้องขออำนาจปกครองบุตรร่วมกับ “ซาร่า คาซิกินี” นางแบบสาว เพื่อขอให้ศาลพิพากษาให้ไมค์ – พิรัชต์เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของลูกชาย โดยนักแสดงหนุ่มไมค์ – พิรัชต์ได้ร้องขอเพื่อจดทะเบียนรับรองบุตร ใช้อำนาจปกครอง
ไมค์ – พิรัชต์ออกมาเผยว่า”การมาศาลวันนี้มายื่นคำขอเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วก็อำนาจปกครองร่วม ถามว่าเครียดไหมก็มีบ้างเป็นธรรมดา ก่อนจะตัดสินใจมาวันนี้ ก็ได้มีการปรึกษาครอบครัวมาโดยตลอดว่าจะทำอย่างไรดี คิดว่าจะเคลียร์กันได้จบโดยเร็ว โดยที่ผ่านมาพยายามติดต่อซาร่าและลูกชาย ซึ่งตนเองไม่ได้เจอลูกมาหลายเดือนแล้ว หัวอกคนเป็นพ่อก็เป็นปกติที่จะต้องคิดถึงลูก และก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้มาตลอด แต่ในส่วนของรายละเอียดอื่นๆนั้น ตนเองขอชี้แจงทีเดียวหลังมีการพิจารณาแล้ว จริงๆแล้วอยากที่จะให้เคลียร์กันง่ายๆเพราะอยากจะเอาลูกเป็นหลัก” ด้าน นายสนิท ปัจจายา ทนายความเจ้าของคดี เผยถึงการมายื่นเรื่องรับรองบุตรว่า เพื่อให้ลูกชายของไมค์ เป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายและจะได้มีอำนาจในการปกครองบุตร สำหรับขั้นตอนวันนี้คือการนัดไต่สวนคำร้อง โดยทาง ซาร่า ได้ยื่นคัดค้าน ซึ่งข้อเท็จจริงจะมีการนัดไกล่เกลี่ยอีกครั้งในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 ที่ศาล ในส่วนของวันนี้ไม่มีการพูดคุยกัน เพราะเนื่องจากซาร่าไม่ได้มาที่ศาลด้วยตัวเอง มีเพียงทนายความที่ซาร่าแต่งตั้งให้ดูแลเรื่องนี้เดินทางมาแทน โดยมีการแจ้งต่อศาลว่า ขณะซาร่าอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ทนายเจมส์  ซึ่งเป็นทนายผู้รับมอบอำนาจของไมค์ – พิรัชต์ เผยว่า “คดีนี้จะยากหรือจะง่าย ขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่ายว่าจะลดทิฐิลงกันได้ไหม ไมค์พูดมาโดยตลอดว่า ขอให้เอาเรื่องส่วนตัวทิ้งไว้ก่อน ขอเอาเรื่องของลูกเป็นหลัก และการที่ฝ่ายชายร้องขอเป็นพ่อโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่ค่อยจะเจอสักเท่าไหร่ เพราะสาเหตุที่เป็นพ่อโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วจะมีหน้าที่ในการต้องอุปการะเลี้ยงดูเด็ก และหากเป็นพ่อที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่จ่ายเงิน จะมีผลทางกฎหมายทันที แม่อาจจะยื่นร้องขอบังคับให้ต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูบุตร
ประเด็นของไมค์คือ ได้รับผิดชอบเลี้ยงดูบุตรโดยไม่ขาดตกบกพร่อง ก่อนที่จะมีปัญหากัน เพิ่งมีปัญหากันช่วงต้นปีที่ผ่านมา (2563) สิ่งที่ไมค์มายื่นในวันนี้ เพราะไม่อยากเป็นพ่อแค่การจ่ายเงิน ไมค์อยากจะเลี้ยงดูลูกด้วย รวมทั้งอยากมีส่วนร่วมในการตัดสินใจหลายๆอย่างของลูก เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีส่วนในการตัดสินใจเลย และในสิ่งที่เป็นอดีต ก็ขอให้เป็นอดีตไป จะคุยกันถึงเรื่องข้างหน้า ในการแก้ปัญหา อะไรที่สามารถทำได้เร็ว ให้ทำก่อน เพื่อประโยชน์ของเด็ก
ในส่วนที่ถามว่า ถ้าได้รับการรับรองสิทธิ์จะสามารถทำอะไรได้บ้างนั้น พอเป็นพ่อที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว จะมีการตกลงกันว่าค่าอุปการะเลี้ยงดู ใครจะเป็นคนจ่าย ไมค์ – พิรัชต์จะจ่ายทั้งหมดหรือจ่ายคนละครึ่ง ลูกจะเรียนที่ไหน   อำนาจปกครองเป็นครองใคร หรือจะเป็นร่วมกัน ในส่วนของถิ่นที่อยู่ ใครจะเป็นผู้กำหนด ใครจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายต่างๆ สำหรับเรื่องเหล่านี้  ต้องมาคุยกันเพื่อประโยชน์ของเด็ก ที่จะได้รับความอบอุ่นจากทั้งพ่อและแม่ ความเป็นพ่อ แม่ ลูก ลาออกกันไม่ได้ ที่ทำให้เด็กคนหนึ่งเกิดมาแล้ว เขาจะต้องรับผิดชอบร่วมกัน ไม่ใช่ทิ้งหน้าที่ให้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง”
“ทนายเจมส์” นิติธร แก้วโต ทนายความชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าบนเส้นทางสายกฎหมาย คดีนี้ นับเป็นคดีที่ ๓ ที่ ฝ่ายชายขอให้ศาลมีคำพิพากษาว่า เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งพบได้น้อยมากๆ ส่วนใหญ่มีแต่ฝ่ายหญิงที่ต้องฟ้องฝ่ายชายให้รับผิดชอบ ที่ผ่านมา ถ้าผู้ชายทำผู้หญิงท้อง โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส ผู้ชายมักจะปัดความรับผิดชอบทันที ไม่ช่วยเหลือค่าอุปการะเลี้ยงดูใดๆ ทั้งสิ้น จนฝ่ายหญิงจะต้องใช้สิทธิทางศาล เพื่อฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูจากฝ่าชาย ต่างจากเคสนี้ ฝ่ายชายแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูมาโดยตลอด ทั้งที่ ยังไม่มีหน้าที่ตามกฎหมาย ยังไม่ใช่บิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย และยังไม่มีสิทธิในการปกครองบุตรแม้แต่น้อย ในคดีครอบครัว สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากที่สุด คือ การใช้เด็กเป็นตัวประกัน เพื่อต่อรองเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร ถ้าไม่จ่ายเงิน หรือ จ่ายน้อย หรือ ไม่จ่ายตามที่ต้องการ ก็ไม่ให้เจอบุตร ซึ่งควรแยกแยะให้ออกระหว่างความสัมพันธ์ของบิดามารดาและบุตร กับความสะใจ การเอาชนะ หรือ เรื่องส่วนตัว ไม้ตายสุดท้ายของผู้ที่ต้องการให้บุตรอยู่กับตัวเอง คือ การปั่นหัวเด็กให้เกลียดอีกฝ่าย เพื่อไม่ให้เด็กไปอยู่กับอีกฝ่าย จนกว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ พ่อสาดโคลนใส่แม่ แม่สาดโคลนใส่พ่อ พ่อก็ไม่ดี แม่ก็ไม่ดี แล้วลูกจะเหลืออะไร ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องทำแบบนั้น เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่า ลูกเกิดมาจากสิ่งที่ไม่ดีงั้นหรอ ? ให้นึกถึงหน้าเด็กเวลาที่เห็นพ่อแม่เถียงกันในบัลลังก์ต่อหน้าศาล เป็นภาพที่หดหู่มากนะครับ เคสนี้ ผมนับถือน้ำใจน้องไมค์มากครับ ไม่เคยคิดจะเอาบุตรมาอยู่กับตัวเอง เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของบุตรเป็นสำคัญ เด็กย้ายที่อยู่บ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องดี เด็กอาจจะสับสน และเหนื่อยกับการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา วันนี้ น้องไมค์ ขอแค่ให้ศาลสั่งว่า เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย ขอมีอำนาจปกครองร่วมกับแม่เด็ก และขอสิทธิเยี่ยมเยียนตามสมควรบ้าง ไม่ใช่พรากแม่กับลูกออกจากกันนะครับ ถ้าอ่านคำขอท้ายฟ้องจะชัดเจนครับ ลายลักษณ์อักษรโกหกไม่เป็นแน่นอนครับ “แม้ว่าคนสองคนจะรักษาความรักเอาไว้ไม่ได้ แต่ยังคงเป็นพ่อแม่ที่ดีของลูกได้เสมอ” ให้ยึดประโยชน์ของเด็กเป็นที่ตั้ง อะไรจบได้ ก็จบ สาวใส้กันในศาลไม่ใช่เรื่องดีนะครับ อย่าหาทำ สงสารเด็กครับ ขอให้จบลงด้วยดีนะครับ

by TVPOOL ONLINE