เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีนักแสดงหนุ่มแทค ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม ถูกตำหนิว่า ไม่ดูแลแม่ จนผู้เป็นพ่อ สมชาย โรจนวุฒิธรรม ต้องเป็นคนออกโรงมาตอบโต้ บอกเล่าเรื่องราวในอดีตว่า หลังเลิกรากับแม่แทคแล้ว สองพ่อลูกต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิตด้วยกันเพียงลำพังเกือบ 30 ปี ขณะที่ผู้เป็นแม่แทบไม่ได้มาเหลียวแลเลย

คุณแม่หม่วย ชนิกา อภิชัย อายุ 58 ปี คุณแม่ของแทค ภรัณยู เปิดใจว่า ตัวเองล้มป่วยหนักด้วยโรคสมองเสื่อม ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตอนนี้อาการดีขึ้นเล็กน้อยแพทย์อนุญาตให้มาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน แต่ต้องรักษาตัวและกินยาต่อเนื่อง พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด มีค่าใช้จ่ายเฉพาะค่ากินอยู่ และค่ายาเดือนละประมาณ40,000 บาท และมีค่าผ่อนรถยนต์อีกเดือนละประมาณ 12,000 บาท ก่อนหน้านี้ยังพอสามารถหาเงินเลี้ยงดูตัวเองได้จากการทำอาชีพเป็นหมอดู แต่ช่วงหลังที่ล้มป่วยหนัก และโควิด-19 ระบาดทำให้ไม่มีรายได้เลย

ส่วนประเด็นที่เกิดขึ้น คุณแม่หม่วย ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาเรียกร้องขอเงิน หรือทำให้แทค ได้รับความเสียหาย และเสื่อมเสียชื่อเสียง เพียงแต่ตอนที่แม่ล้มป่วยหนัก ทางลูกศิษย์ที่ดูแลแม่อยู่ได้แจ้งให้แทคทราบ เพราะการรักษาต้องได้รับการยินยอมจากญาติ ซึ่งไม่แน่ใจว่า มีการตีความเจตนาคลาดเคลื่อนไปหรือไม่

จากนั้นแทคได้โอนเงินมาให้ครั้งแรก 20,000 บาท ซึ่งเริ่มเป็นประเด็น และจากนั้นได้โอนมาอีกครั้ง 20,000 บาท รวมทั้งสิ้น 40,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ตัวเองเพิ่งเคยได้รับจากแทคตั้งแต่ที่เข้าวงการบันเทิง ตลอดช่วงที่ผ่านมา ตัวเองไม่เคยได้เงินจากแทคเลย แม้จะมีส่วนช่วยในการสนับสนุนผลักดันแทคเข้าวงการบันเทิง ไม่เข้าใจว่าเหตุใดลูกชายจึงไม่เคยแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนเลย ถึงวันนี้ตัวเองไม่ได้เจอหน้าลูกชายมาเกือบ 10 ปีแล้ว แม้กระทั่งแต่งงานของลูกก็ไม่ทราบ และมีหลานก็ไม่เคยได้เจอตัวรวมทั้งโทรศัพท์ไปหาก็ไม่เคยรับสาย

ส่วนเรื่องที่มีการกล่าวหาว่าแม่ไม่เหลียวแลเลี้ยงดูแทคตอนเป็นเด็กนั้น คุณแม่หม่วย ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง หลังจากที่เลิกรากับอดีตสามีตัวเองได้แยกออกไปอยู่เองทำอาชีพหมอดูมีรายได้เลี้ยงดูตัวเองได้ตามสภาพ แต่ไม่ได้สุขสบายอย่างที่มีการกล่าวหา พร้อมทั้งยังคงแวะเวียนไปดูแลลูกชาย, ไปรับส่งที่โรงเรียน, พาไปซื้อของ และพามาเลี้ยงด้วย รวมทั้งช่วยออกค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ด้วย ทั้งค่าเทอม ค่าทำฟัน เป็นต้น

แต่ คุณแม่หม่วย ยอมรับว่า อาจจะไม่ได้ใกล้ชิดอย่างที่ต้องการ เพราะลูกชายอยู่กับพ่อตามข้อตกลงจนกระทั่งลูกชายไปอยู่กรุงเทพฯ และเข้าวงการบันเทิงก็ยังติดต่อกันตลอด จนกระทั่งระยะหลังที่ห่างหายไป เข้าใจว่าลูกชายอาจจะไม่มีเวลาจริงๆ และไม่เคยโกรธแม้จะรู้สึกน้อยใจบ้าง เพราะเคยมีครั้งหนึ่งที่ลูกชายมาทำบุญที่วัดใกล้บ้านแม่โดยไม่เคยบอกเลย แต่แม่มารู้เพราะขับรถตามหลังขบวนแห่ที่มีคนเดินเรี่ยไรให้ทำบุญ แล้วบอกว่าเป็นขบวนแห่ทำบุญของแทค

นอกจากนี้ คุณแม่หม่วย กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันใช้ชีวิตเพียงคนเดียวที่บ้านพัก โดยมีลูกศิษย์และผู้ช่วยพยาบาลดูแลเท่านั้น อยากฝากบอกลูกชายเพียงว่า ตอนนี้แม่ไม่สบายอยากให้มาเยี่ยมเยียน และดูแลกันบ้าง ก่อนที่โรคที่แม่ป่วยอยู่จะทำให้ความจำเลอะเลือน หรือตายจากไป พร้อมย้ำไม่ได้มีเจตนาให้ร้ายลูกเพียงแค่อยากบอกลูกเท่านั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ภาพและข้อมูลจาก อมรินทร์ทีวี