ยังมีภาคต่อออกมาเรื่อยๆ สำหรับเรื่องของเธอคนนี้ เฌอเอม ชญาธนุส หลังเกิดดราม่านางงาม จนโดนประกาศขอตัดสิทธิ์การเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ของ เฌอเอม แล้ว
ล่าสุดในรายการ โหนกระแส ทางช่อง 3 หนุ่ม กรรชัย ได้สัมภาษณ์ เฌอเอม กับ เคน ว่า
คิดว่าตัวเองจะได้มั้ยถ้ายังอยู่?
เอม “จริงๆ ก็คิดว่าอาจจะได้หรือไม่ได้เพราะก็มีหลายๆ อย่างที่เราไม่เทียบเท่าคนอื่น”
คู่แข่งของคุณคือใคร?
เอม “อแมนด้าค่ะ เราวางเขาเป็นที่ 1 มาตลอด”
วีณาล่ะ?
เอม “วีณาหนูชอบเขา แต่ถ้าถามถึงความรู้สึกส่วนตัวของเรา ในสเปกเราคนแบบไหนที่น่าจะได้ก็ต้องเป็นอแมนด้า”
ถ้าอแมนด้าได้คุณจะเจ็บใจมาก?
เอม “เจ็บใจเพราะเขากับหนูมีอะไรที่คล้ายกัน เขาเป็นคนที่หนูพยายามเทียบด้วยตลอดเวลา คือแม้ว่าเราจะแข่งขัน โอเคเราอาจจะไม่ต้องได้ที่ 1 แต่เราต้องแข่งให้มากที่สุด ใครจะเป็นจุดสูงสุดที่เราต้องขึ้นไปเทียบ มันต้องเป็นอแมนด้า”
ถ้าวีณาได้คุณจะให้พระเจ้าพิพากษา?
เอม “พิพากษาหนูนี่ละค่ะ ไม่ใช่เขา พิพากษาที่หนูเคยอคติกับเขา”
รู้จักได้ไง?
เคน “จากน้องสนิทของผมคนหนึ่ง รู้จักกันมาประมาณ 2 ปี โดยที่ปีแรกเราไม่ได้เจอหน้ากันเลย แค่รู้ว่าน้องเป็นเพื่อนกับคนนี้ เริ่มจะรู้จักกันจริงๆ ปีที่แล้วหลังจากที่เจอมรสุมชีวิตแล้วเดินมาพูดคุยกัน”
เคยบอกกองมั้ย?
เคน “ไม่เคย (ทำไมถึงไม่บอก?) บอกเพื่อ เพราะมันคือเรื่องส่วนตัวของคนทั่วไปครับ มันก็คือคนที่เรารู้จัก”
มันดูเป็นการแฝงมั้ย?
เคน “ถ้าจะแฝงขนาดนั้น ผมแอบให้มิดชิดดีกว่า ไม่ต้องให้เกิดเรื่องแบบนี้ดีกว่า”
ใครส่งเข้าประกวด?
เอม “มีอยู่ในแชตที่หลุดเลยค่ะ”
ใช่ คิทตี้ ชิชา มั้ย?
เอม “ค่ะ ตามตัวอักษรก็ดูได้เลยค่ะ”
เอาตรงๆ คิทตี้ ชิชา ใช่มั้ย?
เอม “2 พยางค์หลังไม่มีนะคะ”
งั้นก็เอา คิทตี้ อย่างเดียวแล้วกัน?
เอม “ค่ะ”
ใครจะคิดยังไงก็แล้วแต่?
เอม “ค่ะ”
รู้จักกับ เคน มาตั้งแต่เมื่อไหร่?
เอม “รู้จักกันมา 2 ปีแล้วค่ะ แต่ว่ารู้จักกันมาเฉยๆ ไม่ได้คุยกันมากมาย เพราะว่าเขาก็ขายงานไม่ได้ แล้ว 90% เอมมักจะอยู่ต่างประเทศเป็นหลัก แต่บินไปบินมาค่ะ”
พอไปอยู่กองประกวดทำไมถึงได้เข้ามาอยู่ด้วยกันได้?
เอม “หลังจากที่เราแยกย้ายจากคนที่ส่งเราคนแรกแล้ว เราอยู่คนเดียว แต่ว่ามันไม่ไหว มันหนักเกินกว่าที่เราจะทำคนเดียว สปอนเซอร์เราก็มีไม่เยอะ หลายคนคิดว่าเอมมีเยอะ แต่ความจริงคนที่ทำงานเต็มเวลาให้เอมได้ มันไม่ได้มีค่ะ ทีนี้เรารู้จักเขาในฐานะโบรกเกอร์มาก่อน ความสนิทสนมระดับหนึ่ง แต่ว่าเราไม่ได้พูดคุยเรื่องในกอง ถ้าจะเป็นคนนี้เราต้องไปคุยกับกอง”
โบรกเกอร์ข้อแตกต่างยังไง
เอม “เอมมองว่า โบรกเกอร์ขายแต่งาน ซึ่งมันขายให้ได้คนอีกเยอะมาก แต่เอมใส่เบอร์เขาไว้ เพราะว่าไม่ชอบดีลงานเอง ใส่ไว้หน้าไอจีและไม่เคยเอาลง ตั้งแต่ก่อนประกวดค่ะ”
แต่เรื่องนี้มันหลุดมาตอนที่เข้าไปประกวดแล้ว?
เอม “มันก็อยู่ตรงนั้นค่ะ”
ข้อเท็จจริงมันไม่ค่อยจะชัดเท่าไร?
เอม “คิดว่ามันคือเรื่องความคลุมเครือค่ะ เรารู้สึกว่ามันไม่มีคนอื่นจริงๆ อยู่ที่คนจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เราเหมือนคนรู้จักเยอะแล้วคนจะมาทำงานร่วมกับเราในเวลานี้ได้”
ยืนยันว่ารู้จักกันก่อนประกวด?
เอม “ใช่ค่ะ”
ทำไมไม่บอกกองประกวด?
เคน “ทำไมถึงไม่บอกกองประกวด มันคือความบริสุทธิ์ใจที่เราไม่ได้ปกปิด และก่อนหน้านี้ผมไม่รู้ตัวด้วยว่าเราจะได้เข้าไปทำงานในกองประกวดเต็ม 100% หรือไม่ และไม่ใช่คนในกองประกวด ผมไม่เคยเซ็นสัญญากับกองประกวด ผมไม่เคยได้รับเงินค่าจ้างจากกองประกวดเลย มันคือการที่ผมรู้จักกับคนที่เค้าบอกว่า นับแต่นี้เราเป็นแค่คนรู้จักกัน ผมรู้จักกับเค้าตอนปี 2018 จากผู้จัดการนางงามท่านหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นเราก็พูดคุยติดต่อกัน
หลังจากนั้นมีช่วงปี 2019 ที่เราพาพี่คนที่เคยรู้จักไปของบจากหน่วยงานหนึ่ง นั่นคือจุดที่เราเริ่มต้นทำงานด้วยกันจริงๆ ในฐานะที่เป็นกัลยาณมิตรกัน”
คุณอั้มคือเพื่อนหรือเจ้านาย?
เคน “คือรุ่นพี่ครับ เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทสตาร์ดอม ผมไม่ได้เป็นลูกจ้าง ไม่ได้เป็นเงินเดือน ยอมรับว่า เราอยากเสนอหน้าเพราะเราชอบการประกวด และมีโอกาสเข้าไปจริงๆ
ที่เข้าไปประชุม ด้วยความที่เรารู้จักคนเยอะ ตอนแรกจะช่วยเขาขายสปอนเซอร์ ในช่วงที่เราประชุมกันแรกๆ คือก่อนโควิด เราประชุมรอบนั้น แล้วรอบที่ 2 เรามาดูทิศทางกันว่าเราขายอะไรได้บ้าง แล้วจากนั้นก็โดนโควิดและปิดเงียบเลย จนผมก็ยังไปตามลูกค้าให้ สรุปแล้วผมขายอะไรไม่ได้เลย จนเราคิดว่าเราขายอะไรไม่ได้เลย เราคงไม่ได้ร่วมงานแล้ว จนสุดท้ายหลังจากที่กองประกวดจัดการแถลงข่าว ก็มีการติดต่อเข้ามาว่าอยากได้ผลิตภัณฑ์ที่ผมไปหามา เข้าไปร่วมงาน”
การที่คุณอยากเข้าไป ไม่ได้อยากไปดูนางงาม แต่อยากเอาไปดูข้อมูลออกมาให้น้อง?
เคน “โห เห็นอยู่ๆ ว่าน้องฉลาดกว่าผม ผมจะไปสอนอะไรน้องได้”
ไลน์กลุ่มเริ่ม 11 ก.ค.?
เอม “กลุ่มนั้นมี 7-8 คน เอมอยู่ในนั้นด้วยค่ะ”
มีเอาคำถามหรือข้อสอบเก่า ไปถามเฌอเอมในนั้นด้วย เอามาจากไหน?
เคน “ในบริบทคำถามการประกวดนางงาม คำถาม 30 วิ โดยมาตรฐานแต่ละปีใช้แนวเดียวกันหมด มันเลยเป็นไกด์ไลน์ได้”
ไปเอามาจากไหน?
เอม “ยูทูบค่ะ ก็เปิดดูเวทีเก่าๆ ไม่มีใครเทรนเอมเลย”
เคน “ยืนยันว่าไม่ได้เอาข้อมูลจากกองประกวดออกมาให้เขาเลย ขอบคุณแชตหลุดที่ออกมา ถ้าอ่านจากแต่แรกถึงสุดท้ายจะเห็นได้ว่าผมไม่ได้เอาข้อมูลมาบอกใครเลย”
อิโมติคอนรูปงู เป็นของคุณใช่มั้ย?
เอม “ใช่ค่ะ ที่คนนั้นใช้อิโมติคอนรูปงู เพราะเขารู้ว่าเอมชอบงู เลยใช้สัญลักษณ์รูปงู เขาสนิทเอมมากค่ะ”
หลายคนสงสัยว่าก่อนหน้านี้ วันนั้นดูเหมือนคุณยังพูดชัดกว่านี้ วันนี้พูดไม่ชัดแล้ว เพิ่งมาพูดไม่ชัดรึเปล่า?
เอม “เอางี้แล้วกันค่ะ ยังไม่มีใครเคยเห็นเอมพูดเยอะเท่านี้ ต้องถามคนที่อยู่กับเอมทุกวันว่าพูดชัดหรือไม่ชัด ไม่ใช่แค่ดูตอนที่เอมออกกล้อง ถ้าดูตอนประกวดก็มีบางคลิปที่ชัดหรือไม่ชัด”
วันที่เข้าไปในห้องที่มีพี่ปุ้ย พี่ณะ?
เคน “วันนั้นเข้าไปหลังจากที่น้องตกลงปลงใจแล้วว่าไม่ไหวแน่ๆ จะเอาพี่ไปได้มั้ย ถ้าถามว่าเข้าไปคุกเข่า โดยนิสัยเคนอยู่แล้วเป็นคนไม่ได้ยืนคำ้หัวผู้ใหญ่ ก็บอกว่าถ้าเคนจะทำในหน้าที่นี้จะต้องยังไงต่อ แต่ก็ไม่ได้คำตอบจากคุณปุ้ย เค้าก็หันไปถามเรื่องสุขภาพของน้อง”
เอม “ยังไม่ได้คุยกับพี่ปุ้ยโดยตรงค่ะ ถ้ามีโอกาสจะก็เข้าไปขอโทษ แสดงความเสียใจในเรื่องทำผิด”
เคน “ไม่ได้เป็นคนส่งเค้าประกวด และขอบคุณแชตหลุดในไลน์นั้นที่ได้ไขข้อข้องใจเราว่าไม่ได้เป็นคนส่ง และในแชตนั้นไม่ได้มีคำถามหรือประโยคไหนที่บอกว่าเป็นของกองประกวด”
ทำไมใส่ชุดไทยสีแดง รู้มาก่อนมั้ย?
เอม “มีคนบอกว่าใส่ชุดไหนก็ได้เอาที่ชอบ มั่นใจ เค้าบอกใส่สีลูกกวาด ลูกกวาดไหนก็ได้ไม่ใช่พาสเทล”
กลัวมั้ยว่าจะเอาหลักฐานออกมาโชว์?
เคน “หลักฐานอะไรครับ เรื่องเข้าประชุมจริงๆ หลักการทำงานของการประชุม มันต้องมีเซ็นชื่อก่อนเข้าประชุม หลังการประชุมมันต้องมีวาระที่เข้าประชุม ถ้าเป็นอย่างนั้นผมต้องรู้ทุกอย่าง แต่ผมไม่รู้ครับ 3 ครั้งแน่นอน ไม่เกิน ผมไม่ใช่คนของกองประกวดครับ เพราะว่าถ้าผมทำงานผมต้องได้ค่าตอบแทน”
เคน “ส่วนเกี่ยวข้องในที่นี้ต้องถามก่อนเลยว่ายังไง ถ้าแค่รู้จักมักคุ้นซวยเลยนะ เพราะมีน้องๆ หลายคนที่รู้จัก การทำงานผมต้องได้ค่าจ้าง ค่าตอบแทน เพราะเรามีแพชชั่นที่อยากทำ คนที่เราอยากทำด้วยเป็นพี่เรา”
เคน “ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสคุยกับคุณปุ้ยเลยครับ กระแสมันถาโถมเข้ามาด้วย”
เอม “ไม่คิดว่าจะไปเวทีอื่นแล้วค่ะ ตอนนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะทำอะไร แต่ไม่ประกวดอีกแล้ว เพราะปีนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องที่เกิดขึ้น ต้องกลับมาคิดว่ามันเหมาะกับเรารึเปล่า”
รู้สึกยังไงบ้าง จากที่คนชื่นชอบเรามาก พอมาวันนี้มีคนกลับหลังหัน?
เอม “จริงๆ แล้วมีพบก็ต้องมีจากนะคะ แต่คนที่พบเราจริงๆ หรือพบในอุดมคติ เพราะว่าตอนที่มีกระแสตีกลับครั้งแรก เรารู้อยู่แล้วอดีตเราเป็นยังไง สิ่งที่เอมทำคือไลน์ไปขอโทษวีณา”
วันนี้ผมเป็นคนบาปรึเปล่า
เคน “ก็เค้าบอกว่าผมเป็นคนบาป ผมว่านะเรื่องทั้งหมดทั้งมวลมันเริ่มจากความคลุมเครือในหน้าที่การงาน และความคลุมเครือในการรู้จักน้อง ว่าสรุปแล้วสถานะของผมคืออะไร แล้วสุดท้ายทุกอย่างมันหันมาหาเราพร้อมๆ เรา ถ้าเราเด็ดเดี่ยวเราต้องเข้มแข็งในจุดของเรา”
เอม อยากพูดอะไร?
เอม “ก่อนอื่นต้องขอโทษที่ทำให้ผิดหวังนะคะ แต่สิ่งที่เอมอยากบอกว่า คนเราไม่ได้มีด้านเดียว มันไม่ได้เป็น 100% สิ่งที่ไม่ดีของเรา เราต้องเรียนรู้ สิ่งที่ดีกับเรา เราเก็บไว้ดีกว่า”.