
ก่อนหน้านี้ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ออกมาเผย ยืนยันไม่เคยต่อต้านกลุ่มนักศึกษาที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเปลี่ยนแปลงหรือการขอให้นายกฯ ลาออก แค่ไม่เห็นด้วยกับการจาบจ้วงสถาบัน และไม่ได้เพิ่งรู้สึกจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ แต่เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นนานแล้ว เพราะมองว่าไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น สถาบันควรที่จะยืนหยัดคู่คนไทย “เราสองคนไม่เคยต่อต้านนักศึกษา ที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องการเปลี่ยนแปลง เรียกร้องให้นายกฯลาออก เราไม่เคยไปต่อต้าน แต่สิ่งที่คุณทำก้าวล้ำ ล่วงเกิน จาบจ้วง คือสถาบันพระมหากษัตริย์ ตรงนี้ผมไม่เห็นด้วย ข้อเรียกร้องของคุณ 10 ข้อ มันเป็นไปไม่ได้ คุณอย่าท้าท้ายคนที่เป็นพลังเงียบ คุณอย่าท้าท้ายคนที่รักสถาบัน ยังมีพลังเงียบอีกหลายสิบล้านคนที่พร้อมจะออกมา อย่าแตะต้อง”

ต่อมา บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้ไลฟ์ ชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยประกาศลาออกจากมูลนิธิร่วมกตัญญู โดยย้ำว่า ตนเองไม่สามารถทนต่อการจาบจ้วงได้ เพราะตนเองรักสถาบันยิ่งชีวิต ตนไม่เคยคิดจะตบเด็ก แต่พูดถึงเรื่องการชูนิ้วกลางให้ขบวน วันนี้ ถือว่าอัดอั้นมาก ต้องขอโทษมูลนิธิ อาสาสมัครทุกคน ที่เคยร่วมทำงานมาหลายสิบปี วันนี้ ขอลาออก ต้องมีจุดยืนกับตัวเอง เพราะต้องการต่อสู้กับคนที่จาบจ้วง ขออย่าให้ไปว่ามูลนิธิเลย “จะขอช่วยเหลือประชาชนเหมือนเดิม แต่คงไม่ได้ไปในนามมูลนิธิแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราต้องชัดเจน อย่าให้มันฮึกเหิม ไม่ใช่ใครออกมารักสถาบัน ก็ไปตามราวีเขา เชื่อว่า เด็ก 80% ไม่รู้เรื่องราว แต่ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องสู้”

ไทด์ เอกพันธ์ เผยว่าเห็นตอน บิณฑ์ไลฟ์เฟซบุ๊กแล้วค่อยๆถอดเครื่องแบบก็รู้สึกใจหาย มองว่าที่เขาทำก็ทำเพื่อสถาบันแต่คนกลับมองเขาแย่ในแง่ร้าย ตนคิดว่ามันไม่แฟร์ เขาต่อสู้เพื่อประชาชนเหน็ดเหนื่อยมาหลายปี แต่สภาพจิตใจ บิณฑ์ ก็เป็นคนเข้มแข็ง เห็นเขาร้องไห้ในไลฟ์ เขาก็ทำดีมาทุกอย่าง แต่กลับมีคนที่ไม่เข้าใจ
by TVPOOL ONLINE