ปีที่ผ่านมาแม้จะเป็นปีที่ยากลำบากของคนบันเทิงเพราะวิกฤติไวรัสถล่มโลกทำเอางานการหยุดชะงักไปตามๆกัน แต่การขับเคลื่อนในวงการบันเทิงก็ไม่ได้หยุดนิ่งสนิทยังมีกระแสความเคลื่อนไหวให้จับจ้อง ซึ่งสถานีทีวีพูลก็จับกระแสความเคลื่อนไหวตลอดปี 2563/2020 ที่ผ่านมาพร้อมนำมารวบรวมถ่ายทอดความเป็นที่สุดวงการบันเทิงแห่งปีไว้ดังนี้
1.ปีแห่งการโยกค่ายย้ายช่องเป็นดาราอิสระมากที่สุด
ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่มีการโบกมือลาบ้านเก่าของดารามากที่สุดมีทั้งโยกย้ายไปบ้านใหม่ มีทั้งขอเป็นดาราอิสระ อาทิดาราช่อง 3 ที่ตัดสินใจไม่ต่อสัญญา เช่น “เคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุ, ไอซ์-อามีนา กูล, มิว-ลักษณ์นารา เปี้ยทา, ริชชี่-อรเณศร์ ดีคาบาเลศ, วาววา-ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด, มิ้นท์-ณัฐวรา วงศ์วาสนา” ทั้งหมดขอเป็นดาราอิสระ
ดารา ช่อง 7 สี อย่าง “โบว์-เมลดา สุศรี” และ “ตูน-พิมพ์ปวีณ์ โคกระบินทร์” ก็โผไปที่ช่อง 3 ขณะที่ “ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์” ไปที่พีพีทีวี ส่วน “มิน-พีชญา วัฒนามนตรี, พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์, พิม-พิมพ์ประภา ตั้งประภาพร” และ “แซมมี่ เคาเวลล์” ออกมาเป็นดาราอิสระ
ดาราวิกลาดพร้าว “เอี๊ยง-สิทา สภานุชาติ” ก็ขอลาบ้านเก่า ไปประเดิมงานใหม่กับละคร “บังเกิดเกล้า” ที่ อมรินทร์ทีวี โดย “ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” ก็ไปประเดิม คลับฟรายเดย์ ทางจีเอ็มเอ็ม25
ไปที่พีพีทีวี “ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ วัชระตระกูล” อดีตนางเอก 7 สีที่ไปเซ็นสัญญากับพีพีทีวี ตอนนี้ขอยุติสัญญาออกมาเป็นดาราอิสระแล้ว ส่วน “ดีเจ.พุฒิ-พุฒิชัย เกษตรสิน” หมดสัญญาค่ายเก่าช่องวันนานแล้ว แต่ก็เพิ่งจะไปเซ็นสัญญาเป็นดาราทางช่องพีพีทีวี ช่วงสั้นๆ แค่ 2 ปี โดยมี “จุ๋ย-วรัทยา” ภรรยาเป็นผู้จัดละครช่องเดียวกัน
2.ปีแห่งโอกาสของพระนางเลือดใหม่
เหมือนกับจะเป็นผลพวงมาจากการโยกค่ายย้ายช่องของดารารุ่นพี่ๆ เลยเป็นโอกาสดีที่จะได้เห็นดาราดาวรุ่งพุ่งขึ้นมาแทนที่ โดยเฉพาะที่ช่อง 7 สี ขยับแถวพระนางเลือดใหม่ลงจอรับบทนำกันให้พรึ่บอาทิ “เข้ม-หัสวีร์, มุกดา-นรินทร์รักษ์” คู่จิ้นจาก โซ่เวรี, “พระพาย-รมิดา, โดนัท-ภัทรพลฒ์” คู่ตบจูบจากฟ้ามีตะวัน, “แบงค์-อาทิตย์, พิ้งค์พลอย-ปภาวดี” คู่กัดจากรหัสริษยา, “บูม-กิตติ์ก้อง” ขึ้นแท่นพระเอกนำเดี่ยวในพรหมพิศวาส, “ปูเป้-เกศรินทร์” นางเอกดาวรุ่งจากละครเรตติ้งสูงสุด ร้อยป่า
ขณะที่ วิกพระราม 4 ก็มี “พาย-รินรดา, อุ้ม-อิษยา” สองนางเอกดาวรุ่งจาก ทุ่งเสน่หา, “ไอซ์-ภาณุวัฒน์, โบ้ท-ธารา” สองหนุ่มเลือดใหม่จาก วาสนารัก, “มาสุ จรรยางค์ดีกุล” ขึ้นแท่นพระเอกใน ผมอาถรรพ์, “ภณ-ณวัสน์, น้ำหวาน-ภูริตา” จับคู่พระนางใน ฟากฟ้าคีรีดาว ที่มีพระรองฟอร์มเด่น “อิน-สาริณ, จ๊อบ-ธัชพล, ยี่หวา-ปรียากานต์” พระนางจากระบำเมฆ, “กัมมัญ์-กลมแก้ว” จากละครเย็นมือปราบข้าวสารเสก
ไปที่ช่องวัน ละครเย็นแจ้งเกิดพระนางเลือดใหม่ทั้ง “เซียงเซียง-พรสรวง, ปีโป้-ณัชพัณณ์” จากมงกุฎดอกหญ้า, “ไข่มุก-รุ่งรัตน์” ที่ปังมาจากเสียงเอื้อนสะเทือนดาว เมื่อปีที่แล้ว ก็มาจับคู่กับ “ทอย-ปฐมพงศ์” ปังไปอีกจากละครเย็นเรตติ้งอันดับ 1 นางฟ้าลำแคน, “ตงตง-กฤษกร, เพชร-โบราณินทร์, ซูริ-ซูซานน่า, ก้อง-วิทยา” จากละครเย็นแนวซูเปอร์ฮีโร่ 4 เทพผู้พิทักษ์ และยังมี “มุก-ณปภัช” นางเอกวัย 16 ขวบ ทายาทดาราเก่า “นุ่น-ดารัณ ฐิตะกวิน” ที่จับคู่ “ตงตง-กฤษกร” ในสูตรรักแซ่บอีหลี ละครเรตติ้งฮอทอีกคนที่แจ้งเกิดไปแล้ว
ส่วนทางอมรินทร์ทีวี ก็ได้เห็นนางเอกแววดี “ฟ้า-ยงวารี” จากละครโรแมนติกดราม่ารสชาติเข้มข้น “ทะเลแปร” ฝีมือค่ายเช้นจ์ 2561 ซึ่งประกบพระเอก “นิว-วงศกร” อดีตพระเอก 7 สีได้แบบเคมีลงตัว
3.ปีแห่งละครรีรันพรึ่บเต็มจอที่สุด
ปีนี้มีละครรีรันผุดขึ้นบนผังรายการเต็มไปหมดทั้งช่วงเช้าสายบ่ายค่ำ นอกจากที่ออกอากาศตามปกติแล้ว ทั้งนี้ก็ด้วยสถานการณ์โควิด 19 ที่ทำเอาต้องเบรกกองถ่าย ทำให้หลายเรื่องถ่ายไม่ทันลงจอ เลยต้องใช้บริการละครรีรันขัดตาทัพไปพลางๆ
เริ่ม ที่ช่อง 3 จากเดิมที่มีช่วงละครดังข้ามเวลา ตั้งแต่เช้า ประมาณ 8.25 ให้ดูแล้วช่วงบ่ายสองก็มีให้ดูอีกเรื่อง ปีที่ผ่านมาด้วยการปรับแผนละครเย็นใหม่เพราะเจอศึกหนักทั้งแชมป์เก่า และน้องใหม่มาแรง ทำให้ละครเย็นช่อง 3 หันมาใช้บริการละครรีรันมาช่วยอุดรอยรั่วบนผัง ซึ่งกระแสตอบรับถือว่าดีทีเดียว ขณะที่ละครหลังข่าว ก็ต้องอัดละครรีรันมาขัดตาทัพไปพลางๆ ก่อน เนื่องจากวิกฤติโควิด19 ละครถ่ายไม่ทัน ซึ่งละครรีรันขัดตาทัพในช่วงหลังข่าวอย่าง “บุพเพสันนิวาส” ก็โกยเรตติ้งกระหน่ำให้ช่อง 3 ได้ซะด้วย
เช่นเดียวกับช่อง 7 สี จากเดิมที่ประเดิมละครรีรันตั้งแต่เช้า 9 โมงครึ่งในช่วงละครดังที่คิดถึง แล้วช่วงประมาณบ่ายสองโมงครึ่งก็มีละครรีรันให้ดูอีกช่วง เมื่อเจอกับวิกฤติโควิด ก็เลยต้องนำละครรีรันมาแก้ไขสถานการณ์ในช่วงละครหลังข่าวไปพลางๆ ซึ่งละครรีรันอย่าง “มธุรสโลกันต์” ก็โกยเรตติ้งท่วมท้นทำสถิติละครรีรันเรตติ้งสูงสุดแห่งปีที 7.99
มาที่ช่องวัน ก็ไม่น้อยหน้าอัดละครรีรันแน่นผังเหมือนกัน จากเดิมมีละครรีรันให้ดูตั้งแต่ช่วง 8 โมงเช้า มาช่วงประมาณบ่ายสองโมงครึ่งมีให้ดูอีกเรื่อง และเมื่อต้องเจอวิกฤติโควิด 19 ก็ปรับเอาละครรีรันมาให้ดูเหมือนกับสองช่องใหญ่ เลยกลายเป็นว่าเกือบจะครึ่งปีหลังของปี 2563 คอละครทีวีดูละครรีรันกันจนอิ่มเลย
4.ปีแห่งซีรีส์สายวายและคู่จิ้นชายรักชาย
กลายเป็นเทรนด์ที่บูมขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ก็บรรดาซีรีส์สายวายชายรักชาย ซึ่งปีที่ผ่านมาเป็นอีกหนึ่งปีทองของซีรีส์แนวนี้ แม้จะมีกลุ่มคนดูไม่ได้กว้างเหมือนซีรีส์ทั่วๆ ไป แต่สำหรับคนดูที่นิยมแนวนี้ถือว่าเหนียวแน่นจริงๆ เรื่องไหนเรื่องนั้น ถูกส่งลงจอหรือทีวีออนไลน์เมื่อไหร่กระแสร้อนทันที ซึ่งปีที่ผ่านมาเรื่องที่ฮอทๆก็เต็มพรึ่บจอเลย
ช่องวัน มีซีรีส์ภาคต่อ TharnType The Series ซีซั่น 2(7 years of love) นำโดย “มิว-ศุภศิษฎ์, กลัฟ-คณาวุฒิ”, Why R U The Series เพราะรักใช่เปล่านำโดย “เซ้นต์-ศุภพงศ์, ซี-พฤกษ์, จิมมี่-กานต์, ทอมมี่-สิทธิโชค”, Oxygen The Series นำโดย “นัท-ศุภณัฐ, เพชร-ชนะภูมิ, บอส-ธนบัตร, นัตตี้-ธันยนันท์”
ไปที่ ช่องจีเอ็มเอ็ม25 มี เพราะเราคู่กัน 2gether The Series นำโดย “ไบร์ท-วชิรวิชญ์, วิน-เมธวิน, ต้นหน-ชลธี”
ส่วน ช่อง 3 ก็มี “วัยรุ่นวุ่นวายรัก Gen Y The Series” นำโดย “บาส-สุรเดช, คิมม่อน-วโรดม, คอปเตอร์-ภาณุวัฒน์, โบนัส-นเดช, แบงค์-ธรณินทร์, ดล-ร่มจำปา” ขณะที่ ช่อง 9 อสมท. MCOT30 ก็มี บทเพื่อนบทเพลง Friend Forever The Series นำโดย “เลโอ-พีรพันธ์, ไต๋-ธนภัทร, แบงค์-ณฐวัฒน์”
ทาง LINE TV ก็มีที่เด่นๆ อาทิ “The Moment Since” นำโดย “แบงก์-ธนาธิป, ภณ-ธนภณ, เจ็ท-เจษฎากร, เอเอ-ภัทรบุตร”, นิยามรัก So Much In Love นำโดย “สตรอง-ภคนน, โอ๊ต-ภาสกร, มาริว-ภัทรพงศ์, เบนซ์-จิรโรจน์”, Ghost Runner ค่ายเฮี้ยน เรียนรัก นำโดย “นะโม-จิณณะ, ลิ้งค์-ฐานวีร์, ธีร์-ภูมิธนะวัชร์” และ “เจิง-จื่อหลู”, แปลรักฉันด้วยใจเธอ (PPBK The Series) นำโดย คู่จิ้น “พีพี-กฤษณ์” และ “บิวกิ้น -พุฒิพงศ์”, โปรเจ็คท์ซีรีส์ En of Love รักวุ่นๆ ของหนุ่มวิศวะ 3 เรื่อง, Tossara วิศวะมีเกียร์น่ะเมียหมอ นำโดย “วิน-อาชวิน, โฟล์ค-ฐิติพัฒณ์”, Love Machanics กลรักรุ่นพี่ นำโดย “วอร์-วนรัตน์, หยิ่น-อานันท์” และ This is Love Story เหนือพระราม นำโดย “พร้อม-ราชภัทร, เบนซ์-ณัฐพงศ์”
เมื่อซีรีส์กระแสฮอทดาราในเรื่องก็ฮอทตาม แล้วยังฮอทแบบแพ็คเกจเป็นคู่จิ้นสายวายซะด้วย ที่เด่นๆ ก็ “มิว-กลัฟ” จาก TharnType The Series ที่จิ้นต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว ขณะที่ “ไบร์ท-วิน” ก็ปังมากในปีนี้ จาก เพราะเราคู่กัน 2gether The Series หรือจะเป็นคู่จิ้นล่าสุดอย่าง “หยิ่น-วอร์” จาก กลรักรุ่นพี่ รวมถึง “พีพี-บิวกิ้น” จาก “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” ก็กำลังโด่งดังไม่แพ้กัน แฟนๆ กรี๊ดสนั่นไม่แพ้คู่จิ้นชายหญิงเลยล่ะ
5.ปีทองของรายการประกวดร้องเพลง
รายการบันเทิงจอแก้วนาทีนี้ ไม่มีรายการประเภทไหนจะดังคับจอไปกว่ารายการประกวดร้องเพลงอีกแล้ว มีอัดแน่นบนผังรายการชนิดที่ว่าละลานตาไปหมด ซึ่งรายการส่วนใหญ่กระแสตอบรับดี บางรายการแทบจะเป็นรายการหลักในการช่วยโกยเรตติ้งให้ช่องเอาซะด้วย
อย่างช่อง 3 ก็มีรายการ “มาสเตอร์คีย์ เวทีแจ้งเกิด” ที่ช่วงหลังๆ มานี้ปรับรูปแบบรายการเป็นประกวดร้องเพลงเต็มตัวไปแล้ว
ช่อง7 มี “ลูกทุ่งไอดอล” ที่เป็นรายการเด่นของช่องมีเรตติ้งเกาะกลุ่มหัวแถวในรายการแนวนี้ นอกจากนี้ก็ยังมีรายการดวลเพลงดังและรายการ “ชุมทางดาวทอง” ซึ่งก็ปรับรูปแบบมาจาก “รายการชุมทางเสียงทอง” ก่อนจะมาเป็น “ชุมทางคนเด่น” และ “เป็นชุมทางดาวทอง” ในที่สุด
ช่องวัน มีรายการดังเรตติ้งดีอย่าง “ดวลเพลงชิงทุน” ที่มีให้ดูเกือบทั้งสัปดาห์ และหลายช่วงเวลา ซึ่งตอนนี้ถือว่าเป็นรายการประกวดร้องเพลงที่มีเรตติ้งมาเป็นเบอร์ 1 อีกรายการทางช่องนี้ก็คือ “The Golden Song เวทีเพลงเพราะ” ที่เรตติ้งถือว่าใช้ได้เลย
ช่องเวิร์คพอยท์ มีรายการดังๆ เพียบทั้ง “ลูกทุ่งไมค์ทองคำ, ไมค์หมดหนี้ นักร้องนำโชค, เพชร 300” ที่เปลี่ยนรูปแบบมาจาก “เพชรตัดเพชร” ซึ่งเป็นรายการโกยเรตติ้งให้ช่องทั้งนั้น นอกจากนั้นก็ยังมี “The MaskSinger, I Can See Your Voice, ร้องข้ามกำแพง, เพลงเอก Best Song Contest”
ไปที่ พีพีทีวี มี “เดอะ วอยซ์ คิดส์ 2020” ส่วน ช่องจีเอ็มเอ็ม 25 มี “ลูกทุ่งสู้ฟัด, ลูกทุ่งตัวจริง”