เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

 

เรื่องมีอยู่ แว่!! ตอนนั้นนะคะ เรียนหนังสืออยู่ชั้นปี 1 ตอนนั้นจอตังค์พ่อเรียน อาทิตย์ละ 500 ด้วยความที่บ้านเรา ไม่มีตังค์นะคะ ก็ไม่พอ ..

 

 

ทำยังไงดีล่ะ ไม่ง้อพ่อล่ะ ไม่ง้อตังค์พ่อล่ะ ก็เลยเก็บเสื้อผ้าไปขายตลาดนัด ปรากฎว่าวันแรกขายได้ 500 กว่าบาท พรุ่งนี้ก็ไปขายอีก ทำอย่างนี้อยู่ 2 วัน ได้ตัวค์เหมือนเดิม แต่เสื้อหมด แต่ร้านฝั่งตรงข้ามขายดีทุกวัน

หลังจากนั้นเลยไปประตูน้ำ ระหว่างที่ซื้อของก็ได้ยินคำนึงว่า “วันนี้ขายไม่ดีเลยอะ ได้ 30,000เอง”ก็หันไปหาเพื่อน แล้วถามว่าได้ยินปะ ก็คิดว่า เขาหาตังค์ง่ายจังว่ะ ความคิดนั้นก็ผ่านไป ก็กลับไปขายเหมือนเดิม จนกระทั่งมีอยู่วันนึง เพื่อนบอกว่า “พิม กูไม่ทำแล้วนะ แม่กูด่า” เพราะไม่มีงานส่งอาจารย์ตอนเช้า คิดดู ตอนเช้าขายของ แดกเบียร์ จะเอางานที่ไหนส่งอาจารย์

คิดทุกวันว่าทำยังไงจะได้เข้าไปขายที่ ประตูน้ำ ก็เริ่มหาข้อมูล จนรู้มาว่า ต้องไปซื้อผ้าที่สำเพ็ง แล้วหาช่างตัด ลุย!! มีตังค์อยู่ประมาณ 3,000กว่าบาท เดินเข้าสัมเพ็ง เราเคยขายสินค้าที่ซื้อมา แล้วขายได้ เราก็จับเนื้อผ้า ใช่เลยเนื้อผ้าเดิม ที่ขายได้ เขาบอก 65 บาท หลานึง ค่าตัดอีก ค่าที่อีก ค่ารถอีก จะได้ยังว่ะ

 

ก็กูซื้อมาตัวล่ะ100 .. เดินต่อ เดินทั้งวันเลย ไม่เจอเลยนั่งรถไฟกลับ เมื่อวานไม่ได้ซื้อเช้ามาไปใหม่ ไม่ได้อีก แพง ไม่มี เขาไล่บ้าง วันที่ 3 ไปสิ้นหวังมาก เพราะบรรยากาศเหมือนเดิม เดินผ่านร้านเดิม แบบเดิม ไม่กล้าถามกลัวเขาว่า ตอนขากลับเดินผ่านร้านนึง เหมือนกันเป๊ะ แต่ผ้าเขาน้อยมาก หลาล่ะ 24 บาท เออ 24 บาท แม่งใช่แล้วเว้ย เอาอันนี้ค่ะ เขาก็ดึงผ้าออกมา ปรากฏว่า ผ้าแม่งขาดเว้ย ปรากฎว่ามันเป็นผ้ามาผูกกัน ก็ไม่รู้เรื่อง ก็คิดว่า ยังไงก็เอาไปตัดเป็นเสื้อได้อยู่ แล้ว

สิ่ง ที่ต้องทำคือหาช่างตัดเสื้อ กูมีผ้าแล้ว เขาต้องตัดให้กูแล้ว ใช่ป่ะ !!? แหล่งช่างตัดเสื้อคือ “หมู่บ้าน เศรษฐกิจ บางแค”ถามวิน พี่ตรงไหนมีช่างตัดเสื้อ เขาก็พาไป ถึงที่ปุ๊บ พี่หวัดดีค่ะ นู่น นี่ นั่น เขาบอกว่า “ไม่รับน้อง” อ้องานพี่เต็มค่ะ คือปัดงานกูอะ เขาเห็นสภาพหิ้วผ้ามาไง เขาเลยไม่ทำ วันแรกกับ วันที่2 ไปที่เดิม กลับ วันที่3 เขาบอกว่า “แถวนี้ไม่รับหรอกน้อง เขาไม่รับกัน เขารับตัดเสื้อยืด หนูต้องไปที่ เพชรเกษม 107”ตั้งแต่หัวยันท้ายซอยไม่มีใครเอาซักคน

 

น้องไปเถอะงานพี่เยอะ ถ้าว่างพี่ติดต่อไป ท้อแท้มาก ร้อนมาก เหนื่อยมาก กูมาทำอะไรที่นี่ ที่นี่ไม่ใช่ที่ของกู กูต้องไปเรียนหนังสือ คิดในใจ เดินร้องไห้ ท้อ ปาดน้ำตามั้ง น้ำตาคลอมั้ง เดินเข้าไปในซอย ซอยนึง กดกริ่ง ปรากฎว่าพี่นัทก็ออกมา “มาทำอะไร”เอาผ้ามาตัดค่ะ เสียงแบบไม่มีความหวังแล้ว “ไหนมาดูหน่อยจะตัดอะไร”ตัดเสื้อค่ะ เสื้อกล้าม อะค่ะ “อ้อ โอเคร มีลายผ้ามาด้วยเลอะ” มีค่ะ “โอเคร เดี๋ยวพี่ทำให้ ” ใจแบบกูมีเสื้อไปขายแล้ว ดึงเสื้อออกมาจากถุงกลับหัว ขายไม่ได้เลยซักตัวเดียวค่ะ กลับมาหาพี่นัท แล้วบอกว่า “พิมขายไม่ได้เลย”

 

 

เขาบอกไม่เป็นไร ความผิดพี่ เดี๋ยวพี่รับผิดชอบเอง เดี๋ยวพี่ไปหาผ้าให้ พิมไปเรียนนะ แล้วศุกร์มาหาพี่ เอาของไปขายใหม่ อาทิตย์ต่อมาก็ไปหาพี่นัท ปรากฎว่า มันเป็นเสื้อแบบ สวยมากก เขาบอกของพิม 50 ตัว เอาไปขายเลย กูก็ถามเอาผ้ามาจากไหน เขาก็บอกเดี๋ยวพี่เคลียร์เอง แล้วมารู้ทีหลังว่าเขาเอาผ้าของลูกค้าเขามาลงบัญชีไว้ แล้วขายของได้ค่อยเอาเงินไปให้

ทำแบบนี้อยู่ประมาณ 3-4 ครั้ง ขายดีที่สุดในโลกเลยคือ 30,000 บาท ม้วนใส่กระเป๋า จับไว้ ว่าจะงีบแปบนึงจะกลับ ตื่นมาอีกที ตังหายหมดเลย!!!!

 

โทหาพี่นัทร้องไห้ บอก ตังหายหมดเลยทำไงดี พอกลับไปถึง ภาพที่เห็นคือ “พี่นัทร้องไห้” เขาก็กอดแล้วก็บอก ไม่เป็นไร เดี๋ยวสู้ไปด้วยกัน❤️😢