หนีโควิด-19 ไปหาธรรมชาติที่จ.กาญจนบุรี ชีวิตดี๊ดี…
1.อีต่อง ปิล็อก
หมู่บ้านเล็กๆในหุบเขาปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นเมืองแห่งเหมืองแร่ที่เคยรุ่งเรืองในอดีตมาแต่ก่อน หลังจากตำนานอันรุ่งโรจน์ได้ปิดตัวลง คงไว้ซึ่งหมู่บ้านท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางกันไปพักผ่อนกันอย่างมากและยังเต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ เหมือนมีมนต์สะกดให้นักท่องเที่ยวผู้โหยหาธรรมชาติ เดินทางเข้ามาสัมผัสอากาศอันบริสุทธิ์ ยิ่งในช่วงฤดูฝนจะได้พบกับภาพไอหมอกปกคลุมทั้งหมู่บ้าน กลายเป็นภาพที่โรแมนติกงดงามเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการเปิดให้เข้าชมเหมืองแร่ หรือน้ำตกจ๊อกกระดิ่น และยังมีเส้นทางเดินขึ้นเขาเนินช้างสุดไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินสวยๆ ยามเย็นได้ด้วยจ้า ฟินสุด!!
การเดินทางไปยังหมู่บ้านอีต่อง
โดยรถยนต์ จากตัวเมืองกาญจนบุรี – อำเภอทองผาภูมิ 146 กิโลเมตร จากตัวอำเภอทองผาภูมิ – เหมืองปิล๊อก ประมาณ 70 กิโลเมตร เริ่มจากถนนสายหลักตัวเมืองกาญจนบุรี ถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน เลี้ยวซ้ายไปอำเภอไทรโยค – ทองผาภูมิ(หมายเลข 323) เส้นทางจะต่อกับเส้น 3272 เข้าอำเภอทองผาภูมิ วิ่งผ่านตัวอำเภอ (ตัวอำเภออยู่ทางขวา) เลียบอ่างเก็บน้ำในเขื่อนไปอีกประมาณ 30 กิโลเมตร จะถึงสามแยกบ้านไร่-ปิล๊อก ให้เลี้ยวซ้ายไปทางปิล๊อก จากจุดนี้จะเป็นเส้นทางคดเคี้ยวขึ้นเขา ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ผ่านอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิมาประมาณ 13 กิโลเมตร มาถึงน้ำตกจ๊อกกระดิ่ง เหมืองสมศักดิ์ เนินช้างศึก เส้นทางนี้จะไปสุดทางที่หมู่บ้านอีต่อง
เส้นทางจากทองผาภูมิไปยังตำบลปิล๊อกคดเคี้ยวและถนนแคบเลนเดียว แต่ทางไม่ชันมาก รถทุกชนิดสามารถขับได้ แต่ถนนบางช่วงชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อเยอะ เพื่อความปลอดภัยควรใช้ขับรถด้วยความเร็วต่ำและระมัดระวังในการขับขี่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน
โดยรถประจำทาง
มีรถโดยสารสีเหลืองทองผาภูมิ – อีต่อง จอดตรงตลาดทองผาภูมิ รถออกเวลาประมาณ 10.30 น. ค่าโดยสารคนละ 70 บาท(หากนั่งรถบขส. 999 จากกรุงเทพฯ – ด่านเจดีย์สามองค์ ต้องขึ้นรถเที่ยว 5.00 น.)
– ออกจากหมู่บ้านอีต่อง มีสองเที่ยวคือ เวลาประมาณ 6.30 น. และ 7.30 น.
2.สะพานมอญ
สังขละบุรีนั้นเป็นอำเภอที่มีหมอกทั้ง 3 ฤดู เพราะโอบล้อมด้วยภูเขา โดยมีแม่น้ำซองกาเลียไหลผ่าน และสะพานมอญนี่แหละที่เป็นตัวเชื่อมของผู้คนทั้ง 2 ฝั่ง คือชนชาติไทย และชนชาติมอญเข้า ซึ่งชาวมอญที่นี่ได้มาตั้งรกราก ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มานับร้อยปีแล้ว สะพานมอญนั้นยังถือว่าเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย มีความยาว 445 เมตร สร้างขึ้นโดยหลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ในปี พ.ศ. 2529 จนถึง พ.ศ. 2530 เพื่อใช้เป็นสะพานสำหรับสัญจรไปมาของชาวมอญ และชาวไทยที่อาศัยอยู่ที่นี่ ซึ่งเมื่อก่อนที่จะมีการสร้างสะพานนั้น ชาวบ้านแถวนี้จะใช้การต่อไม้ไผ่เป็นแพ แล้วใช้คนคอยชักลากข้ามแม่น้ำ โดยเก็บเงินข้ามฟากครั้งละ 1 บาท และเรียกว่า “สะพานบาทเดียว”
เปิดทำการ : ทุกวัน 06:00 – 18:00 น.
ที่ตั้ง : หมู่ที่ 2 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
by TVPOOL ONLINE