เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากนักแสดงสู่ ขึ้นแท่นโคโปรดิวซ์เป็นครั้งแรก

ฮอตไม่หยุดฉุดไม่อยู่!! นักแสดงหนุ่มหน้าหวาน เซ้นต์ ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา โด่งดังมาจาก “ซีรีส์วาย” จนปังเปรี้ยงปร้าง โดยมีผลงานเป็นที่รู้จักในบท “พีท” (พิชญะ) จากละครซีรีส์ บังเอิญรัก Love By Chance

ล่าสุดหนุ่มเซ้นต์ จับงานเบื้องหลัง ขึ้นแท่นโคโปรดิวซ์เป็นครั้งแรก ซีรีส์เรื่อง “แอบหลงรัก” จากค่าย idol factory thailand (ไอดอล แฟคทอรี่ ไทยแลนด์) พร้อมจุดประกายความฝัน ให้พี่ๆน้องๆอย่าง บิลลี่-ภัทรชนน อ่อนสะอาด, เซ้ง-วิชัย แซ่ฟ่าน และเซอร์ไพรส์-ปิฐิกร ศิริพรสวรรค์ ได้พิสูจน์ความสามารถ เพราะเข้าอกเข้าใจคนมีฝัน แต่ไม่มี “โอกาส” เพราะครั้งนึงก็เลยท้อแต่โชคดีไม่ถอย หนุ่มเซ้นต์บอกเล่ามุมมองและความคิดตามประสาคนรุ่นใหม่ไม่คิดย่ำอยู่กับกรอบเดิมๆ …ใน “คนดังนั่งคุย”

ทำงานหลายอย่างมากแล้ว ซีรีส์ในเรื่องนี้เซ้นต์ต้องทำอะไรยังไงบ้าง

“กับซีรีส์เรื่อง “แอบหลงรัก” คือผมตกลงกับผู้จัดการว่าเราจะเปิดเป็นค่ายนักแสดงขึ้นมา เป็นค่ายเพื่อผลิตซีรีส์ เราเลือกที่จะทำซีรีส์ขึ้นมาเลยเลือกนิยาย ผมจะเป็นโคโปรดิวซ์ในโปรเจกต์นี้”

ซีรีส์เรื่องนี้เรามีแรงบันดาลใจอะไรถึงคิดจะทำเรื่องนี้ขึ้นมา

“เกิดจากการคุยกับน้องๆ หลายคน เพื่อนในวงการหลายคน แล้วเรารู้สึกว่าเรามีความฝันกันแหละ หลายคนตามหาความฝัน หลายคนความฝันถูกทำร้ายมา หรือช้ำมา หรือแบบ เคยได้คำคำนี้มา…คือผมก็เป็นคนนึงที่ได้คำนี้ เราเป็นตัวเต็งเรื่องนี้ เราจะได้เล่นซึ่งผมรู้สึกว่า กว่าเราจะมีโอกาสมันเป็นสิ่งที่เราจะต้องพยายามอย่างหนักมาก จนวันนึงเราโชคดีได้โอกาส พอเรามีช่องทางที่เราจะสร้างโอกาสได้ เราอยากสร้างโอกาสให้กับน้องๆ หรือความฝัน ของน้องๆ ที่ผมรู้สึกว่าอยากให้เค้าศรัทธาในความฝันและเดินจนถึงเส้นชัยเพราะเรารู้สึกว่า เราก็ผ่านตรงนั้นมาแต่เราผ่านที่หนักๆ กว่านั้นเยอะ แต่เราอยากหยิบยื่นโอกาสให้กับน้องๆ ในรูปแบบที่เราลองถูกลองผิดมาแล้วให้มันง่ายขึ้น ให้มันดีขึ้น”

กับซีรีส์แอบหลังรัก ที่เราเลือกเซ้ง-บิลลี่-เซอร์ไพรส์ มาเล่นเป็นเพราะอะไรล่ะ

“แต่ละคนมีคาแรกเตอร์ของตัวเองครับ อย่างเซ้ง จริงๆน้องผ่านอะไรมาเยอะ เข้าวงการมานาน เราเคยอยู่ค่ายเดียวกัน มีความฝัน เคยท้อไปหลายครั้ง ก็เลยดึงน้องกลับมา เรามีซีรีส์เราจะทำ เราอยากให้น้องจับมือมาร่วมความฝันอันนี้กับเรา เพื่อสู้ไปด้วยกัน น้องมีความฝันและมีเป้าหมายชัดเจน รู้สึกว่าความสำคัญของคนตรงนี้คือความทุ่มเท ความฝัน หรือตัวพี่บิลลี่ เรารู้สึกเราเจอเค้า เค้าก็มีความฝัน เค้าผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน ทำงานวงการบันเทิงมาสักพักนึงแล้ว เป็นคนที่มีประสบการณ์วงการบันเทิงมากที่สุดในกลุ่ม ผ่านอะไรมากบ้าง ความสามารถเค้า เราสามารถดึงเขามาเล่นตรงนี้ ทุกตัวละครวางไว้คาแรกเตอร์จะต้องเหมือนในนิสัย เหมือนในบทละคร สองคนนี้ตรงกับนิยาย คนสุดท้ายน้องเซอร์ไพรส์ เข้าอีก ความน่ารักของเค้า ดูผ่านๆ เวลายิ้ม มีคาแรกเตอร์ของตัวละคร เราก็ตามหาคนแบบนี้จะไปหาจากไหน มาวันนึง คุยกันเค้ามีความฝัน ผมไม่มีเป้าหมาย เรามาเล่นซีรีส์เรื่องนี้เรื่องเดียว เราจะก้าวต่อไปเรื่อยๆ ค่ายผมเป็นค่ายเล็กๆ แต่ไอดอล แฟคทอรี่ ผมจะบอกทุกวัน วันนึงเราจะโตไปด้วยกัน เราจะประสบความสำเร็จไปด้วยกัน เราคุยกัน ผู้ชายจะคุยกัน วันนึงเราตั้งใจทำงานกันนะ เก็บเงินซื้อรถ ซื้อบ้าน มันเป็นความสุขที่เกิดขึ้น ค่ายไอดอล แฟคทอรี่ เหมือนเป็นค่ายพี่น้องที่มาเจอกันในค่ายมาแชร์กัน คุยกันทุกเรื่อง”

จริงๆงานเบื้องหน้าของเซ้นต์ก็เยอะยังทำงานเบื้องหลังอีกแยกร่างยังไงเนี่ย

“ผมรู้สึกมันเป็นความฝันแหละ เราสนุกกับทุกสิ่งที่ทำ ส่วนตัวผมรู้สึกว่า ปีที่แล้วเรามีเวลาให้กับตัวเองเยอะ เราได้เรียนรู้ว่าชีวิตเราไม่ได้มีแค่เรื่องงานตรงนี้เพียงอย่างเดียว เราเลือกทำหลายๆ งานไม่ใช่ว่าเราว่าง ถ้าเราโฟกัสกับงานหลักของเรา โฟกัสหนัก เราสามารถเทเวลาไปกับตรงนั้นก็ได้ เรารู้สึกอยากแบ่งเวลาให้เป็นส่วนๆ ทำแบบนี้รวมถึงธุรกิจด้วย ผมมีความฝันอยากทำธุรกิจในทางเศรษฐศาสตร์ชุมชนเพื่อพัฒนาเศรษฐศาสตร์ระดับประเทศ ทุกอย่างเราทำตามความฝัน รู้สึกว่าเป็นการช่วยเศรษฐกิจในทุกๆที่ เศรษฐกิจระดับเล็กไปจนถึงเศรษฐกิจระดับโต ซึ่งตรงนี้เป้าหมายของเราทำไปเรื่อยๆ ตอนนี้มีการวิจัยหลายตัวไม่ได้บอกทางสื่อ เป็นธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ ธุรกิจที่เราชอบวันนึงประสบความสำเร็จขึ้นมาไม่ได้แค่ผลประโยชน์จากเราคนเดียวแต่มันคือทุกคนจะได้มากกว่า ผมเคยวิจัยน้ำตาลตัวนึงใช้ทดแทน คนเป็นเบาหวานก็กินได้ กินแล้ว 0 แคลอรี คือกินหวานแค่ไหนก็ได้ สุขภาพไม่เสีย แต่ราคามันยังสูงมากแต่เราดัมพ์ราคาให้ถูกกว่านี้ก็ไม่ได้”

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐ