เรียกได้ว่าธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นก็กำลังไปได้สวยสำหรับนางเอกสาว “พิ้งกี้ สาวิกา” ที่กำลังจะมีงานละครเรื่อง นางโชว์ กับช่องไทยทีวี งานนี้พบสาวพิ้งกี้ที่มาร่วมงานธุรกิจดารา งานนี้สาวพิ้งกี้ เปิดใจว่า
“จริง ๆ แล้วเป็นธุรกิจของครอบครัว ทางต้นตระกูลคุณพ่อมีร้านอาหารอยู่แล้ว แต่อันนี้เราให้พี่ชายทำกับพี่สะใภ้ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่นและมีอาหารไทยด้วยค่ะ ตอนนี้เปิดมาได้ประมาณ 6-7 เดือนแล้ว เรื่องเปิดสาขาสอง ถ้าเกิดเราเป็นคนทำเอง เราอาจจะคิดได้ว่า ทำสาขาต่อไปดีหรือเปล่า แต่ว่าตอนนี้พี่ชายทำกับพี่สะใภ้เราเลยยกกิจการให้ทั้งหมด เราก็จะช่วยดูแลในเรื่องของการบริหารและการตลาดมากกว่า”
งานละครเรื่องนางโชว์ ที่ต้องรับบทเป็นนางโชว์ หนักใจตรงไหนบ้าง สาวพิ้งกี้
“ตอนนี้ถ่ายทำไปได้ประมาณ 50 เปอร์เซนต์แล้ว ถามว่าหนักใจตรงไหนก็ไม่ได้หนักใจมาก เพียงแต่รู้สึกว่า เราต้องเล่นให้อยู่ในใจของทุกคนได้ ไม่ใช่ว่าเล่นแล้วไม่เข้า เราต้องพยายามเล่นให้คาแร็กเตอร์ชัด เรียกว่าเต็มที่เลยค่ะ ทำการบ้านค่อนข้างหนัก อย่างดูพวกพี่เขาลิปซิง อ้าปาก เวลาเขาแอคว่าทำกันยังไง เป็นการดูคาแร็กเตอร์จากคนหนึ่งให้มาเป็นตัวเรามากที่สุดค่ะ”
เรื่องบอลลีวูดที่พักหลังกระแสของพิ้งกี้ดูจะเงียบลงไป!!
“ทางนู่นคือจริง ๆ แล้วงานตอนนี้ที่เรากำลังทำอยู่ที่นี้มันเป็นระยะยาว เหมือนมีเรื่องนี้แล้วมาต่ออีกเรื่อง เพราะฉะนั้นที่นู่นเหมือนกับว่า ถ้าเราจะไปถ่ายอะไรสักอย่าง ก็คือต้องตัดทุกอย่างจากที่นี้หมด เวลามันเลยไม่ได้ ตอนนี้งานหลักคืองานที่บ้านของเราก่อนค่ะ
ถามว่ากลัวกระแสหายไปมั้ย
“ไม่กลัวเลย เรารู้สึกว่าเราไม่ได้มีชื่อเสียงดังอะไรขนาดนั้น แค่เราได้ไปเล่นถือว่าดีใจแล้ว ไม่ได้คิดว่าจะต้องมีกระแสต่อเนื่องหรือว่าอะไรค่ะ”
เรื่องหัวใจช่วงนี้มีหนุ่ม ๆ แอบมาขายขนมจีบสาวพิ้งกี้บ้างไหม?
“มีผ่าน ๆ มาบ้างค่ะ ถ้าไม่มีก็จะดูเป็นเรื่องแปลก มีบ้างค่ะ อันนี้คือแค่ผ่าน ๆ นะคะ เอาไว้ให้เรามั่นใจกับใครสักคนแล้วค่อยมาบอก แต่ว่าตอนนี้คือยังไม่มีเตือนอะไร เขาคอยดูอยู่ห่าง ๆ ถ้าเรารักใคร ชอบใคร ท่านก็โอเคด้วย เรียกว่าตอนนี้ทำงานไปก่อน และจัดการชีวิตให้สมดุลมากที่สุด”
