เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณี ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง  นายพิริยะ ฉันทดิลก ผอ.สำนักการสอบสวนและนิติการ นายกองโทวรยุทธ เนาวรัตน์ ผอ.สำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (สมาชิก อส.) กระทรวงมหาดไทยกว่า 100 นาย เข้าตรวจสอบการดำเนินกิจการของนาตารีเอ็นเตอร์เทนเมนท์ อาบอบนวด ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ จับกุมหมอนวด 115 คน หลังพบว่ามีการนำพาหญิงต่างด้าว อายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาแอบแฝงค้าประเวณี ซึ่งเข้าข่ายเป็นการค้ามนุษย์ โดยมีการสืบสวนในทางลับมากว่า 3 เดือน

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ได้ค้นหาเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม กระทั่งพบข้อมูลบัญชีส่วยในสมุด ที่ระบุทั้งคนทั้งหน่วยงานที่รับส่วยจำนวนมาก และหลากหลายสังกัด รวมทั้งจำนวนเงินมากมาย ที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน เพื่อให้กิจการอาบอบนวดอยู่รอดปลอดภัย ซึ่งสมุดบัญชีดังกล่าวจะถูกนำไปตรวจสอบ สำหรับใช้เป็นแนวทางในการขยายผลและดำเนินการต่อไป

0890

ทั้งนี้ หากต้องการสืบค้นกันอย่างจริงจัง “บัญชีส่วยน้ำกาม” จะเป็นตัวบ่งชี้ไปถึงบุคคลต่าง ๆ ได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ความเป็นจริงของสถานบริการอาบ อบ นวด ทุกแห่ง ล้วนมีการค้าประเวณีแอบแฝงทั้งสิ้น รวมไปถึงสถานนวดแผนโบราณ ในรูปแบบทั่วไป หรือมีพริตตี้ส่วนใหญ่มีการขายเนื้อสดกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ย่านรัชดา – ห้วยขวาง ย่านถนนประเสริฐมนูญกิจ – ประดิษฐ์มนูธรรม หรือ ถนนเกษตร – นวมินทร์ ถนนเลียบทางด่วน ที่คุ้นเคย ย่านถนนพระราม 9 เชิงสะพานปิ่นเกล้าฯ บางยี่ขัน ย่านชานเมืองตามความเจริญเติบโตของเมืองหลวง หากเมื่อเข้าไปใช้บริการอาจจะมีข้อความแผ่นสติกเกอร์เขียนว่า “ห้ามค้าประเวณี” แต่ให้เชื่อว่าเป็นเพียงเทคนิคการเลี่ยงกฎหมายเท่านั้น

ZH7qsr

อย่างไรก็ตาม ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา สถานบริการอาบ อบ นวดหลายแห่งอยู่ในสภาพซบเซา บางที่ต้องปิดกิจการไปเลย อาทิ “ซีซาร์” อาบ อบ นวด หรือที่กำลังร่อแร่ต้องลดแลกแจกแถมให้กับนักเที่ยว ก็คือ อาบอบนวดในเครือชวาลา ส่วนแหล่งอื่น ๆ อย่างดีที่สุด ก็คือ สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ต่างกับ “นาตารี” ซึ่งกลายเป็นแหล่งสวรรค์ของนักท่องเที่ยวเนื่องจากผู้บริหาร “ใจถึง” จัดสาวบริการต่างด้าวจำนวนมากในราคาไม่แพงไว้ล่อตะเข้สายหื่น ซึ่งเกือบทั้งหมด และลูกค้าส่วนใหญ่ของ “นาตารี” คือ นักท่องเที่ยวชาวจีน หรือมีศัพท์เรียกว่าพวก “วอล์กกิงสตรีท” พวกนี้มักจองที่พักตามโรงแรมย่านถนนรัชดาฯ เมื่อว่างจากโปรแกรมเที่ยววัด – วัง ก็จะ “แว่บ” มาลงอ่าง

 

“ป๋า ม.” อดีตคนเชียร์แขกรายหนึ่ง ผู้มีประสบการณ์รับจ้างเป็นพนักงานเชียร์ และ ผจก. ผ่านงานอาบ อบ นวด มาอย่างโชกโชน ให้ข้อมูลว่า ก่อนทหารเข้ามายึดอำนาจ และก่อนจะมีกฎหมายลงโทษขบวนการค้ามนุษย์อย่างรุนแรงถึงขั้นยึดทรัพย์นั้นขบวนการค้ามนุษย์ หรือ “ตกเขียว” เด็กสาวหน้าตาดีจะเดินทางเข้าไปยังท่าขี้เหล็ก ชายแดนเพื่อนบ้านเรา และติดต่อกับครอบครัวกลุ่มชนเผ่า ขอซื้อลูกสาวเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ซึ่งขบวนการนี้จะมี “คนกลาง” ผู้อธิบายลักษณะของงานอย่างตรงไปตรงมาพร้อมกับเสนอเงินหลักแสน จนถึงหลายแสนบาทสุดแท้แต่บุคลิก รูปร่างหน้าตาของเด็กสาว จนเมื่อตกลงกันได้ก็จะหาทางผ่านด่าน ตม.แม่สาย จ.เชียงราย เดินทางมายังเมืองหลวงเพื่อขายตัว “ล้างหนี้” จนกว่าจะครบถ้วน

6(5)

ขบวนการนายหน้าค้าเนื้อสดส่วนใหญ่เป็นสตรี เป็นที่เชื่อถือของพ่อ – แม่เด็กสาวที่อนุญาตให้พามาทำงานได้ ทั้งนี้ น่าจะมาจากผลงานในอดีตเมื่อมีเด็กบ้านนั้นมาทำงานเพียงปี 2 ปี ฐานะก็เปลี่ยนแปลงสามารถปลูกบ้าน มีรถกระบะ มีรถจักรยานยนต์และมีเครื่องไฟฟ้าอำนวยความสะดวกจากประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นหน้าเป็นตา เป็นความสำเร็จของครอบครัวคล้าย ๆ กับบรรยากาศเมื่อ 30 – 40 ปีก่อน เมื่อยังมีขบวนการตกเขียวในหลายจังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไทย

คราวนี้มาถึงขั้นตอนสำคัญที่ “ป๋า ม.” ระบุว่า ขบวนการค้ามนุษย์จะสามารถเรียกทุนคืนด้วยการเปิดบริสุทธิ์เด็กสาวทุกคน อาจจะมีราคาตั้งแต่เรือนแสนถึงหลาย ๆหมื่น แต่ค่าเปิดบริสุทธิ์พวกนี้จะเก็บไว้หมดไม่ยอมจ่ายให้เด็ก จากนั้นจะค่อย ๆ ลดลง ๆ จนผ่านไปสักระยะเมื่ออบรมการวางตัว มี “ครูฝึก” การดูแลแขกนักเที่ยว ทั้งอาบน้ำให้ จนถึงขั้นตอนอื่น ๆ จนเห็นว่าเด็กสามารถส่งไป “นั่งตู้” ทำงานอย่างจริงจังได้ก็จะมอบให้กับเจ้าของอาบ อบ นวด จัดการอีกขั้นตอนหนึ่ง เช่น กำหนดราคาที่แตกต่างกันประมาณที่รอบละ 2 พัน – 3 พันบาท หักให้กับสถานบริการ 50/50 หรืออาจจะมากน้อยสุดแท้แต่ตกลงกัน ส่วนเงินค่าตัวเด็กนายหน้าก็จะทยอยหักไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดหนี้สิน ประมาณว่า เด็ก 1 คน จะสร้างรายได้ให้ขบวนการค้ามนุษย์มากถึง 5 แสน ถึง 1 ล้านบาท

เมื่อถามถึงมาตรการสอดส่องดูแลเด็ก ป๋า ม. บอกว่า อันนี้ไม่ต้องห่วงเพราะทางสายจัดหาเด็กจะจัดการที่พักให้เป็นอย่างดี จากที่เคยอยู่ชนบทห่างไกลบางบ้านไม่มีไฟฟ้าแต่พอมาอยู่กรุงเทพฯชีวิตเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงนอนห้องปรับอากาศ กินอยู่อย่างดี แถมด้วยโทรศัพท์ราคาแพงแต่งตัวพัฒนาไปตามแฟชั่น มีหลายคนเมื่อใช้หนี้หมดก็ยังไม่ยอมกลับ พวกนี้พอปีกกล้าขาแข็งก็บินเดี่ยวหากินเอง ด้วยความสาวสวย ผิวพรรณดี บางคนได้สามีเป็นเสี่ยเป็นนักธุรกิจตั้งรกรากอยู่ในกรุงเทพฯ หรือประเทศไทยก็มี

“ผมไม่สนับสนุนให้ทำกันแบบนี้นะ แต่ที่เห็น ที่ผ่านมามันเป็นแบบนี้ คือ ถ้าจะคิดว่าพวกนี้เขาทำ เพราะความยากจนส่วนหนึ่งอาจจะใช่ สำหรับผมคิดว่าส่วนที่ใหญ่กว่า คือ เป็นทางเลือกให้กับชีวิตเขาเอง เพราะใคร ๆ ก็อยากสบาย อยากให้พ่อแม่พี่น้องได้สบาย เราเองก็อยากให้มันเป็นแบบนั้นใช่ไหมล่ะ” ป๋า ม. กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา – http://headshot.tnews.co.th/