เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีนางนิภาพรรณ หมู่แก้ว อายุ 33ปี ถือทะเบียนสมรสเข้าไปบุกงานแต่งของบ่าวสาวคู่หนึ่ง โดยระบุว่าฝ่ายชายคือสิบตำรวจเอกศรันญู หมู่แก้ว อายุ34ปี ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท สามีของเธอที่จะทะเบียนสมรสและอยู่กันกันมา 16 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่แอบมาแต่งงานกับสาวอื่น จนเกิดภาพที่มีการโต้เถียงกับฝ่ายชาย ที่เธอระบุว่าเป็นสามี แต่ฝ่ายชายและเจ้าสาวกลับทำท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว และไล่เธอออกจากงาน ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้า วันที่ 18 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมานั้น

ต่อมาภรรยาหลวง เปิดเผยว่า ตนเองเป็น เมีย จดทะเบียนถูกต้อง ใช้ชีวิตด้วยกันทุกวัน อยู่ กิ น กับเธอมา16 ปี โดยเธอเองก็อาศัยอยู่ที่บ้านของพ่อแม่สามีด้วย และมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 15 ปี คนเล็กอายุ 5 ขวบ ตนเองรู้มานานแล้ว แต่ถึงขั้นแต่งงานกันมันเกินไป เป็นตำรวจแล้วทะเบียนสมรสก็ยังคาอยู่ มันเกินไป

 

 

สามี ได้พูดว่า เมื่อวานกลับมาบ้านตอนเที่ยงคืนตื่นมา สามีบอกว่า จะไปเข้าเวรนะ ตนเองได้บอกว่า แน่ใจนะว่าจะไปเข้าเวร ทำอะไรคิดดีๆ ตัดสินใจดีๆ นะ แต่ตนเองนั้นได้ข่าวมาว่า สามีคบกับผู้หญิงคนนี้ โดยผู้หญิงเป็นแฟนเก่าของญาติสามี สามีเลยไม่บอกใครที่บ้าน ที่บ้านไม่มีใครรู้ ผู้หญิงคุยอวดไปทั่วว่าจะแต่งงานเลยรู้ระแคะระคาย เลยสุ่มไปดู ก็เจอจริงๆ ซึ่งผู้หญิงที่ใส่เสื้อดำในงาน ก็คือแม่สามี ที่ไปด้วยกัน

 

กลายเป็นประเด็นร้อนอีกแล้วววว เมื่อล่าสุด สาวคนดังกล่าวได้โพสต์ข้อความท้ายทายฝั่งเมียหลวง โดยได้โพสต์ระบุข้อความว่า

 

ล่าสุดทนายเกิดผล ทนไม่ไหวได้โพสต์ข้อความระบุว่า

 

 

 

ขู่ฟ้องกลับเมียหลวง เรียก 2 ล้าน #น้องไปเอาความมั้นใจผิดๆมาจากไหน การที่เมียที่ชอบด้วนกฎหมายของเขา ตามไปงานแต่งเพื่อไปขัดขวางการแต่งงานของสามีเขา เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะถือว่าเป็นการป้องกันเกียรติยศ ศักดิศรี ของเมียหลวงได้ (เทียบเคียง คำพิพากษาฎีกาที่ 378/2479)

ชายพบภริยาของตนกำลังร่วมประเวณีทำชู้กับชายอื่นจึงฆ่าภริยาและชายชู้ ทั้งสองคนนั้นทันทีเช่นนี้ #ถือว่าเป็นการป้องกันเกียรติยศและชื่อเสียงพอสมควรแก่เหตุ_ไม่มีโทษ

(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2479)

และการที่เมียที่ชอบด้วยกฎหมาย เข้าไปในบ้านเพื่อ ขัดขวางงานแต่งของผัวเขา ก็ถือว่ามีเหตุอันสมควร

ซึ่งเป็นข้อยกเว้นข้อหาบุกรุก ตามมาตรา 364 ซึ่ง

มาตรา 364 บัญญัติว่า .. มาตรา 364. ผู้ใด #โดยไม่มีเหตุอันสมควรเข้าไป หรือ ซ่อนตัวอยู่ในเคหสถาน อาคารเก็บรักษาทรัพย์ หรือ สำนักงานในความครอบครองของผู้อื่น หรือไม่ยอมออกไปจากสถานที่เช่นว่านั้น เมื่อผู้มีสิทธิที่จะห้ามมิให้เข้าไปได้ไล่ให้ออก

 

การเข้าไปขัดขวางสามีของตนแต่งงานกับผู้หญิงอื่น ถือว่า #มีเหตุอันสมควรที่จะเข้าไป.. ย่อมไม่มีความผิดฐานบุกรุก..เที่ยบเคียง คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6506/2542

พิพากษาว่า

#จำเลยเข้าไปบ้านของผู้เสียหายที่ 1 เพราะต้องการจะไปหา ส. #ซึ่งเป็นภริยาและบุตรของจำเลยซึ่งเพิ่งคลอดจาก ส. แม้ ม. จะห้ามไม่ให้เข้าบ้านโดยอ้างว่าส. ไม่อยู่จำเลยก็ไม่ยอมฟังเพราะจำเลยไม่เชื่อว่า ส. จะไม่อยู่ในบ้านดังกล่าวการที่จำเลยเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายที่ 1 #จึงมีเหตุอันสมควรเพื่อต้องการไปหาภริยาและบุตรของจำเลย จำเลยไม่มีเจตนาบุกรุก

คิดดีๆนะครับ คุณเจ้าสาว .. ว่า ที่เมียเขาฟ้องเป็นแค่คดีแพ่ง แต่ถ้าคุณฟ้องเขาเป็นอาญา สิ่งที่ตามมา ก็น่าจะอาญาเช่นกัน