กลายเป็นดราม่าขึ้นมาทันที สำหรับ Potato Corner เฟรนช์ฟรายส์แบรนด์ดังของพระเอกหนุ่ม พีช พชร ภายหลังเพจ Potato Corner Thailand โพสต์โฆษณาเกี่ยวกับ ข่าวด่วน น้องโตโต้ (นามสมมติ) ถูกจับกุมคาร้าน โดนแจ้งข้อหาอร่อยเกินไป พร้อมของกลางเฟรนช์ฟรายส์คลุกผง น้องโตโต้อ้างว่าหยุดกินไม่ได้เพราะอร่อยและผงแน่นมาก
ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับชาวโซเชียลเป็นอย่างมาก เพราะเข้าใจว่าโฆษณาดังกล่าวโยงถึงข่าว โตโต้ ปิยรัฐ และทีม WEVO ที่ถูกตำรวจจับกุมตัวเมื่อช่วงเย็น 6 มีนาคม ที่ผ่านมา หลายคนมองว่าเป็นการตลาดที่ไม่สร้างสรรค์ เหมือนเอาชีวิตของคนอื่นมาล้อเล่น ต่อมาเวลาประมาณ 22.35 น. เพจ Potato Corner Thailand ได้มีโพสต์แถลงชี้แจงและขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ขณะที่ พีช พชร เจ้าของแบรนด์ ได้โพสต์ลงอินสตาแกรม กลางดึกที่ผ่านมา ช่วงเที่ยงคืนกว่าของวันที่ 7 มีนาคม 2564 เป็นภาพแถลงการณ์จาก Potato Corner Thailand โดยพีชระบุแคปชั่นว่า “จากเหตุการณ์ของ Potato Corner Thailand กราบขออภัยและขอน้อมรับผิดทุกประการครับ”
– ปกติทางแบรนด์จะวางแผนตารางคอนเทนต์ที่จะถูกโพสต์อยู่แล้วเป็นรายเดือน ซึ่งจะผ่านขั้นตอนการบรีฟงานกับทางเอเจนซี่เพื่อทำกราฟฟิกต่อไป
– “น้องโตโต้” เป็นชื่อของแบรนด์มาสตอตซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปลายปี 2562 และมีการใช้ชื่อนี้ในหลาย ๆ โพสต์ เป็นตัวกลางในการเล่าเรื่องต่าง ๆ ของแบรนด์ตลอดมา
– โพสต์ที่กำลังถูกพูดถึง ทางทีมคิดคอนเทนต์ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาใด เพียงแต่เป็นความตั้งใจของทางผู้ดูแลคอนเทนต์ในการนำเสนอรูปแบบใหม่ ๆ และได้บรีฟงานกันตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา
– ทางแบรนด์ได้ตั้งโพสต์นี้ให้ขึ้น Timeline ในวันที่ 7 มีนาคม 2564 เวลา 11.00 น. รวมถึงได้ตั้งค่าการโฆษณา (Facebook Ads.) ล่วงหน้าไว้ ใน 1 วัน ก่อนวันโพสต์ คือวันที่ 6 มีนาคม 2564 ช่วงบ่าย
– ขอประกาศอีกครั้งว่าทางแบรนด์ไม่ได้มีเจตนาอื่นใด และไม่ได้จงใจที่จะเสียดสี หรือล้อเลียนทางการเมือง แต่เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นจากความบังเอิญโดยแท้จริง ในการยิง Facebook ads. ในช่วงเวลาที่เกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
– ทางแบรนด์ได้ตระหนักถึงความผิดพลาดครั้งนี้ และขอน้อมรับผิดทุกประการ และจะนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนสำคัญให้กับทางทีมที่ดูแลสื่อออนไลน์ ให้มีความตระหนักถึงเหตุการณ์อันไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
– ทางแบรนด์ขอชี้แจงว่า โปเตโต้ คอร์เนอร์ ประเทศไทย สนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกคนรวมถึงเสียงทางสื่อออนไลน์ทั้งหมด ที่ได้ทำให้ทราบถึงเหตุการณ์ข้อผิดพลาดได้อย่างทันที เพื่อเร่งหาข้อแก้ไข
– ขอยืนยันอีกครั้งว่าเราให้ความสำคัญ เคารพและสนับสนุนสิทธิทางประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ และไม่มีนโยบายในการใช้สถานการณ์ที่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงที่ไม่ถูกต้องมาเป็นเครื่องมือทางการตลาดอย่างแน่นอน และทางแบรนด์ได้แก้ไข ลบและหยุดโพสต์ดังกล่าวทันทีแล้ว
