เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ (ชื่อเล่น: ป้อม; เกิด: 11 สิงหาคม พ.ศ. 2488) เป็นทหารบกและนักการเมืองชาวไทย ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมระหว่างปี 2551 ถึง 2554 และ 2557 ถึงปัจจุบัน ผู้บัญชาการทหารบกระหว่างปี 2547 ถึง 2548, หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ​ อดีตรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ชื่อว่าเป็น “พี่ใหญ่” ของกลุ่มแยกบูรพาพยัคฆ์

ชีวิตและการงาน

เขาเกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2488 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรคนโตของพลตรี ประเสริฐ วงษ์สุวรรณ กับนางสายสนี วงษ์สุวรรณ มีน้องชาย 4 คน คือ พลเรือเอก ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ, พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ, พงษ์พันธุ์ วงษ์สุวรรณ อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมทีโอที และ พันธุ์พงษ์ วงษ์สุวรรณ

เขาสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียลในปี พ.ศ. 2505 จากนั้นในปี พ.ศ. 2508 ได้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 6 และศึกษาต่อ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 17 สำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. 2512 ในปี พ.ศ. 2521 เข้าศึกษา โรงเรียนเสนาธิการทหารบก หลักสูตรหลักประจำ ชุดที่ 56 และในปี พ.ศ. 2540 สำเร็จหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 40 พ.ศ. 2556

เขาถือได้ว่าเป็นนายทหารที่เติบโตมาจากกองทัพภาคที่ 1 ทางภาคตะวันออกมาโดยตลอด โดยสังกัดกับกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) หรือที่เรียกกันว่า “ทหารเสือราชินี” ถือได้ว่าเป็นนายทหารรุ่นพี่ที่สนิทสนมกับนายทหารอดีตผู้บัญชาการทหารบกสองนาย คือ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา และพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เขาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในปี พ.ศ. 2552 ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาผู้อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ประจำกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 98/2552

ปลายปี พ.ศ. 2553 สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ได้ตั้งฉายาว่า “ป้อมทะลุเป้า” สืบเนื่องจากผลงานด้านความมั่นคงในการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่บรรลุเป้าหมาย รวมถึงการขออนุมัติงบประมาณต่างๆ ที่ถูกครหา ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน

เขาเป็นที่ราบกันว่าเป็น “พี่ใหญ่” ของกลุ่มทหารเรียก “บูรพาพยัคฆ์”ซึ่งหมายถึงทหารที่เริ่มต้นรับราชการจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (“ทหารเสือราชินี”) กษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศระหว่างปี 2551 ถึง 2554 กล่าวว่าตลอดอาชีพของประวิทย์ เขาให้คำปรึกษาแก่พลเอกประยุทธ์และช่วยให้เขาไต่เต้าลำดับชั้นยศ เขามักถือเป็นผู้สนับสนุนการประท้วงต่อต้านรัฐบาลระหว่างวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557 บ้างว่าเขาอาจเป็นผู้นำคณะรัฐประหาร หรือเป็นผู้มีสิทธิเป็นนายกรัฐมนตรีกรณีที่ กปปส. ล้มรัฐบาลสำเร็จ

หลังจากการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นประธานที่ปรึกษา และเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เขายังเป็นประธานคณะกรรมการอีกกว่า 50 คณะ

รับราชการทหาร

  • พ.ศ. 2512 ผู้บังคับหมวดปืนเล็ก กองพันทหารราบที่ 2 กรมผสมที่ 3
  • พ.ศ. 2514 ผู้บังคับหมวดเครื่องยิงหนัก กองร้อยเครื่องยิงหนัก กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์
  • พ.ศ. 2517 ผู้บังคับกองร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์
  • พ.ศ. 2519 นายทหารยุทธการและการฝึก กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์
  • พ.ศ. 2520 ประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก
  • พ.ศ. 2522 นายทหารฝ่ายยุทธการ กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์
  • พ.ศ. 2523 รองผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์
  • พ.ศ. 2524 ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์
  • พ.ศ. 2527 ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์
  • พ.ศ. 2529 รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์
  • พ.ศ. 2532 ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์
  • พ.ศ. 2536 รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์
  • พ.ศ. 2539 ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์
  • พ.ศ. 2540 รองแม่ทัพภาคที่ 1
  • พ.ศ. 2541 แม่ทัพน้อยที่ 1
  • พ.ศ. 2543 ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก
  • พ.ศ. 2544 ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก ฝ่ายยุทธการ
  • พ.ศ. 2545 แม่ทัพภาคที่ 1
  • พ.ศ. 2546 ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก
  • 1 ตุลาคม พ.ศ. 2547 – 30 กันยายน พ.ศ. 2548 ผู้บัญชาการทหารบก
  • 11 ตุลาคม พ.ศ. 2549 – 22 ธันวาคม พ.ศ. 2550 สมาชิก สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ประเทศไทย) พ.ศ. 2549
  • 20 ธันวาคม พ.ศ. 2551 – 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
  • 2 เมษายน พ.ศ. 2553 ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัย

ในปี พ.ศ. 2554 ได้รับตำแหน่งเป็นคณะดำเนินคดี ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กรณีประเทศกัมพูชาฟ้องร้องประเทศไทย

ในปี พ.ศ. 2558 เขาเป็นกรรมการในคณะกรรมการต่างๆ ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี 12 คณะกรรมการ

กรณีอื้อฉาว

กรณีไม่เปิดเผยนาฬิกาหรู

การยกมือขึ้นบังแดดของ พล.อ. ประวิตร และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระหว่างรอถ่ายรูปกับคณะรัฐมนตรีใหม่ “ประยุทธ์ 5” เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งคำถามว่าเหตุใด นาฬิกาเรือนโตยี่ห้อริชาร์ดมิลล์ (Richard Mille) จำนวน 9 เรือน จึงไม่ปรากฏอยู่ในประเภท “ทรัพย์สินอื่น” ที่มีราคามากกว่าสองแสนบาท ในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช ของ พล.อ. ประวิตร เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อ ปี 2557

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากเอกสารแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.อ. ประวิตร ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2557 นั้น พบว่า พล.อ. ประวิตร มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 87,373,757.62 บาท ประกอบด้วย 1. เงินในบัญชี 53 ล้านบาท 2. เงินลงทุน 7 ล้านบาท 3. ที่ดิน 17 ล้านบาท 4. โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 10 ล้านบาท และ 5. รถโฟล์คสวาเก้น (Volkswagen) ครอบครองปี 2543 และไม่พบว่ามีการยื่นชี้แจงในส่วนของบัญชีทรัพย์สินอื่นๆ ที่มีมูลค่าเกิน 2 แสนบาทไว้โดยคาดว่า นาฬิกาประดับข้อมือของ พล.อ. ประวิตร น่าจะเป็นยี่ห้อริชาร์ดมิลล์ (Richard Mille) รุ่น RM 029 ตัวเรือนทำด้วยแพลทินัม ส่วนสายเป็นยางอย่างดี มีจุดเด่นอยู่ตรงตัวเลขวันที่ขนาดใหญ่ สนนราคา 111,492.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 3.6 ล้านบาท ขณะที่แหวนเพชรก็น่าจะอยู่ที่ราว 5 กะรัตขึ้นไป โดยมูลค่าในตลาดของเพชรเริ่มต้นที่ 4 – 7 ล้านบาท

สื่อมวลชนได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงการที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่กล้าปลด พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่า เนื่องจากเขาเป็นมือประสานสิบทิศรู้จักคนในวงการนักการเมืองและทหารตำรวจอย่างกว้างขวาง

การวิพากษ์วิจารณ์ในกรณีอื่นๆ

พล.อ. ประวิตร แสดงความคิดเห็นภายหลังเหตุเรือล่มในจังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2561 ว่า “คนจีนเป็นเป็นคนนำนักท่องเที่ยวจีนเข้ามา เป็นเรื่องของนักท่องเที่ยวเขา เขาทำของเขาเอง เขาฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง เราจะให้ไปเรียกความเชื่อมั่นได้อย่างไร” ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางทั้งในและนอกประเทศ

ต่อมาหลังเหตุการโจมตีโรงแรมที่ไนโรบี พ.ศ. 2562 เขาให้สัมภาษณ์ว่ามูลเหตุหนึ่งที่ทำให้กลุ่มติดอาวุธโจมตีโรงแรมดุสิตดีทูในเครือดุสิตธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากนั้นอาจเกิดจากอาหารในโรงแรมอร่อย ส่งผลให้มีผู้ไม่พอใจในความคิดเห็นดังกล่าวทั้งในและต่างประเทศ

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

  • พ.ศ. 2546 – Order of the White Elephant - Special Class (Thailand) ribbon.svg เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
  • พ.ศ. 2543 – Order of the Crown of Thailand - Special Class (Thailand) ribbon.svg เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
  • พ.ศ. 2548 – Order of Chula Chom Klao - 3rd Class upper (Thailand) ribbon.svg เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ต.จ.ว.)
  • พ.ศ. 2515 – Victory Medal - Indochina with flames (Thailand) ribbon.svg เหรียญชัยสมรภูมิ กรณีการรบ ณ สาธารณรัฐเวียดนาม (ประดับเปลวระเบิด)
  • พ.ศ. 2526 – Freeman Safeguarding Medal - 1st Class (Thailand) ribbon.svg เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น 1 (ส.ช.)
  • พ.ศ. 2517 – Border Service Medal (Thailand) ribbon.svg เหรียญราชการชายแดน (ช.ด.)
  • พ.ศ. 2526 – Chakra Mala Medal (Thailand) ribbon.svg เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)
  • พ.ศ. ไม่ปรากฎ – Red Cross Medal of Appreciation (Thailand) ribbon.png เหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1

 

by TVPOOL ONLINE