จาก กรณีส.ต.ต.วงศธร เทพอรัญ ผบ.หมู่งาน(ป) สภ.กะทู้ ใช้อาวุธปืนยิง ร.ต.ท.ธรรมรงค์ สุวรรณชาตรี รอง.สวป.สภ.เมืองภูเก็ต จนเกิดการดวลปืนกันขึ้นและเสียชีวิตทั้งสองคน เหตุเกิดภายในซอยข้างร้านข้าวต้ม ถนนอ๋องซิมผ่าย ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงดึกวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา สาเหตุเนื่องจากก่อนหน้านั้นส.ต.ต.วงศธร พาพวกเข้าไปเที่ยวร้านอาหารฮัวพาน ที่อยู่ใกล้กันแล้วถูก ด.ต.ณันฑ์ทะชัย โพธิ์น้อย ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ช่วยราชการ ตม.จว.ภูเก็ต ที่รับจ๊อบเป็นการ์ดดูแลร้านไม่ให้เข้า เนื่องจากไม่พกบัตรประชาชนจึงเดินกลับมาที่รถ โดยด.ต.ณันฑ์ทะชัยได้เดินตามไปที่รถด้วยทำให้ส.ต.ต.วงศธรไม่พอใจคว้าปืน ขนาด.357 ทุบศีรษะแตกเลือดอาบแล้วยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด จนด.ต.ณันฑ์ทะชัยต้องวิ่งกลับไปที่ร้าน ขณะเดียวกันร.ต.ท.ธรรมรงค์ ซึ่งนั่งกินข้าวอยู่ที่ร้านข้าวต้มได้ยินเสียงปืนจึงเดินไปตรวจสอบ ก่อนถูกส.ต.ต.วงศธรใช้ปืนยิงใส่จนล้มฟุบแต่ร.ต.ท.ธรรมรงค์ ชักปืนขนาด.357 ยิงสวนออกไปทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมาทั้งสองคน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. พล.ต.ต. ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เปิดเผยว่า เหตุการณ์ตำรวจยิงกันจนมีผู้เสียชีวิต 2 ศพเป็นเหตุที่เกิดจากอารมณ์ ทำให้เกิดเหตุการณ์บานปลายขึ้น สำหรับร.ต.ท.ธรรมรงค์ ได้ออกไปปฏิบัติงานลงพื้นที่ไปเสริมการปฏิบัติกับสายตรวจในพื้นที่ทุกวัน ร.ต.ท.ธรรมรงค์ก็ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติมื่อเสร็จสิ้นภารกิจจึงมานั่งรับ ประทานอาหาร แต่เหตุเกิดขึ้นก็ไม่ได้ละเลยด้วยความเป็นตำรวจก็รีบวิ่งไปช่วยระงับเหตุ
พล.ต.ต. ธีระพลกล่าวต่อว่า ส่วนตำรวจที่ไปรับงานนอกเวลานั้น ความจริงแล้วมีตำรวจหลายคนที่นอกเวลางานก็ไปประกอบอาชีพเสริมเพื่อหารายได้ เพิ่มเติม ถ้าเป็นอาชีพสุจริตก็ไม่ได้ขัดต่อหลักกฎหมาย ไม่มีข้อห้ามแต่อย่างใด แต่ถ้าเป็นอาชีพที่ขัดต่อหลักกฎหมายเมื่อตรวจพบก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย สำหรับในรายของด.ต.ณันฑ์ทะชัย นั้นจะมีการสอบสวนความผิดอีกครั้งเนื่องจากเป็น ต้นตอให้เกิดปัญหาขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุโดยตรงก็ตาม
“ขณะที่ส.ต.ต .วงศธร ผู้ก่อเหตุซึ่งเสียชีวิตสอบสวนแล้วพบว่า ไม่ได้พาอาวุธไปในสถานบันเทิงแต่เก็บไว้ในรถ ถ้าวิเคราะห์แล้วไม่มีเจตนาจะเข้าไปหาเรื่องหรืออ้างเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ และไปในฐานะบุคคลธรรมดา ส่วนด.ต.ณันฑ์ทะชัย อยู่ในฐานะเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับสถานบันเทิง ก็ทำตามกฎของสถานบันเทิงเพราะถ้าไม่มีบัตรก็จะไม่ให้เข้า จึงมีปากเสียงกันเล็กน้อยก่อนจะเกิดอารมณ์ขึ้นทั้งสองฝ่าย นำไปสู่การลงไม้ลงมือเรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องของอารมณ์ล้วนๆ ซึ่งในคนทั่วไปก็เกิดขึ้นได้ วอนสังคมอย่าเอาอาชีพไปตัดสิน เพราะจะประกอบอาชีพใดก็ล้วนเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น” พล.ต.ต.ธีระพลกล่าว
พล.ต.ต. ธีระพลกล่าวด้วยว่า ร.ต.ท. ธรรมรงค์ ดำรงตำแหน่งเป็นรอง.สวป.สภ.เมืองภูเก็ต ดูแลพื้นที่ตำบลรัษฎา เป็นนายตำรวจที่มีแต่คนรักและให้ความเคารพนับถือ โดยเฉพาะรุ่นน้องเนื่องจากเป็นคนที่อุปนิสัยดีรักพี่รักน้อง เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ต้องสูญเสียนายตำรวจน้ำดีไป เป็นเหตุที่ไม่มีความจำเป็นต้องสูญเสีย ซึ่งร.ต.ท.ธรรมรงค์ ถือว่าปฏิบัติหน้าที่การเป็นตำรวจได้อย่างดีเยี่ยม เข้าไปเพื่อตรวจสอบเหตุและต้องการระงับเหตุที่เกิดขึ้นจนตัวเองต้องถึงแก่ ความตาย สำหรับรูปคดีถือว่าร.ต.ท.ธรรมรงค์ ปฏิบัติหน้าที่และเป็นเหตุให้ต้องวิสามัญฆาตกรรม ส.ต.ต.วงศธร เนื่องจากเป็นผู้ที่เปิดฉากใช้อาวุธปืนยิงใส่ร.ต.ท.ธรรมรงค์ ก่อนทำให้ต้องป้องกันตัวและใช้อาวุธปืนยิงสวนกลับไป จนส.ต.ต.วงศธรบาดเจ็บและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา จะมีการเสนอความดีความชอบให้กับร.ต.ท.ธรรมรงค์ ตามขั้นตอนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
ที่มา – http://www.khaosod.co.th/
by TVPOOL ONLINE