เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564  ณ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน “อ๊อฟ ปองศักดิ์ รัตนพงษ์” มาร่วมงานแถลงข่าว ทิพยประกันภัย เปิดตัวแคมเปญ TIP RAINBOW ในฐานะพรีเซ็นเตอร์ โดยภายหลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงการเปิดตัวหวานใจหนุ่มสายฝอนามว่า “จัสติน” อายุห่างกัน 3 ปี พร้อมเผยโมเมนต์สปาร์กรักระหว่างออกเดต

ช่วงนี้ชีวิตสดใส? “เป็นธรรมดา คุยกันมาสักระยะประมาณ 2 เดือน แต่ด้วยความที่เขาเป็นชาวต่างชาติ เขาค่อนข้างชอบแสดงความรัก อ๊อฟว่าคงเหมาะกับตัวเราเอง หมายถึงว่าเราเป็นคนที่ชอบแสดงออกทางความรักอยู่แล้ว มันเลยเป็นเหมือนคนที่มาตรงจริตกันมั้ง”

เพื่อนแนะนำหรือเปล่า? “เจอเอง เขามาทำรีเสิร์ชเพื่อจบมาสเตอร์ของเขา แล้วได้มีโอกาสเจอกันพอดี เราก็เจอกันหลังจากที่เขากักตัวเสร็จ ก็คุยกัน ไม่มีอะไร คือบางทีเราจะรู้ว่าเหมือนมีเคมีบางอย่างในหัวเราที่แบบเวลาเราเจอกันมันจะมีความสปาร์ก เราก็เลยมีโอกาสคุยกัน เริ่มจีบกันไป จีบกันมา”

สายฝอครั้งแรกเลยไหม?  “จริงๆ เราเคยมีคุยกับฝรั่งบ้าง มีแขกเป็นฝรั่งบ้าง(ยิ้ม) ล้อเล่น เขาเป็นชาวอเมริกัน”

ไม่ยากในการที่เราจะเปิดใจอีกครั้ง? “ไม่ยาก เอาจริงๆ แล้วแฟนเก่าเขาเปิดใจมีแฟนกันหมดละ อ๊อฟว่าคราวนี้ถึงคราวของเรา เพราะอ๊อฟใช้เวลาทิ้งช่วงในการที่เราจะเริ่มเดตกับใครมาสักระยะหนึ่งแล้ว ปีกว่าๆ มันคงถึงเวลาแล้วแหละ แล้วก็รวมถึงอาการคันของเรามันก็เริ่มมาแล้วไงเข้าใจมั้ย

 

 

“อ๊อฟว่าด้วยความที่เป็นฝรั่ง ฝรั่งเขาจะมีความโรแมนติก แล้วก็ธรรมชาติครับ เขาอยากทำไรเขาก็ทำ เขาไม่อยากทำไรเขาก็บอกเราตรงๆ เราก็เลยรู้สึกว่าเราสบายใจเวลาเราใช้เวลากับเขา ล่าสุดอ๊อฟก็ถามเขาว่าเรากำลังอยู่ในความสัมพันธ์แบบไหนเหรอ เขาบอกเราก็เดตกันไง เราเป็นคู่เดตกัน คือเขาก็อยากทำความรู้จักกับเรามากขึ้น เราก็เลยบอกโอเคค่ะ(ยิ้ม)”

“เขาก็ชัดเจน เราก็ชัดเจน เพราะตัวเราเอง เราบอกเขาเพราะเราก็ชัวร์ผลงานของเรา เราอยากให้เขารู้ว่าเราทำงานตรงนี้เนี่ย เวลาเขามาเดินกับเรา ไปไหนมาไหนด้วยกัน มันก็ต้องมีคนจับจ้อง มีคนมองอยู่แล้ว เขาโอเคมั้ย เขาก็บอกเขาไม่รู้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าก็ลองดู เพราะเขาก็ชอบเรามากๆเหมือนกัน(ยิ้ม)”

พอเขาบอกว่าชอบเรามากๆ รู้สึกยังไง? “อ๋อ เราก็บอกไม่ต้องห่วง เพราะเราบอกเราก็ชอบเขาตั้งนานแล้วค่ะ(หัวเราะ) ไม่หรอก เราเป็นคนชอบฝรั่งอยู่แล้ว อ๊อฟมีสเป๊กเป็นฝรั่ง แต่ส่วนใหญ่เราไม่ใช่สเป๊กของฝรั่งไง เพราะฉะนั้นพอเราได้มีโอกาสเจอคนที่เป็นสเป๊กเราจริงๆ ก็จะรู้สึกว่าโอ้ย ตายแล้ว มันจะต้องคว้าไว้ให้ได้อะ(ยิ้ม)

 

 

ระยะเวลาที่เขาอยู่เมืองไทยนานไหม?  “เขาบอกว่าเขาจะกลับหลังเขาทำเสร็จ น่าจะเดือนตุลาคม แต่ว่าเขาบอกว่า maybe longer ดี คือก็อาจจะนานกว่านั้น” (เป็นของขวัญวันเกิด?) “ใช่ เป็นของขวัญวันเกิดเลยครับ คือเราก็ได้…อย่างนั้นอะ(กรี๊ด) ก็เป็นของขวัญวันเกิดให้เรา”

หญิง รฐา แซวว่าไม่คิดจะลงรูปเดี่ยวบ้างเลยเหรอ? “ตลอด แล้วส่งมาหาอ๊อฟส่วนตัวด้วย แล้วคือสัมภาษณ์ก่อนอ๊อฟจะสัมภาษณ์อีก (หัวเราะ) ก็จริงๆ คือเราเอง เรารู้สึกว่าตอนแรกเราก็ยังไม่ชัวร์ แต่พอมีโอกาสได้คุยกัน เจอกัน เราโอเคเราคุยกันแล้วเรารู้สึกว่าต่างคนก็ต่างรู้สึกมั่นใจอะไรอย่างงี้ แต่ว่าก็ไม่อยากพูดเยอะเพราะเดี๋ยวจริงๆ คนก็รอสมน้ำหน้าอยู่หรือเปล่า เพราะว่าอ๊อฟก็เป็นคนที่เปิดตัวค่อนข้างแรง แต่ว่าตัวอ๊อฟเองก็มองว่าการที่เราแสดงออกทางความรักมันก็เป็นเรื่องที่ดีนะ”

จริงๆ อ๊อฟยังมีความกลัวการเปิดตัวเรื่องความรักไหม? “อ๊อฟไม่กลัวค่ะ แต่ว่าสุดท้ายคนก็จะมีอารมณ์หมั่นไส้บ้าง แบบเปิดตัวเดี๋ยวคอยดูนะ แต่อ๊อฟเองไม่ซีเรียส ทุกวันนี้ถ้าเรามีความสุขเราอยากทำอะไรเราทำ แล้วอนาคตมันเป็นเรื่องของอนาคตที่เราไม่สามารถตัดสินใจ หรือเราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้อยู่แล้ว ว่าเราจะอยู่หรือคบกับเขาได้ไปอีกนานเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยที่สุดถ้าเกิดว่า ณ ตอนที่เราคุยกันคบกันเรามีความสุขแค่นั้นก็พอแล้ว ฝรั่งเขาก็คงรู้สึกอย่างงั้น”

 

 

แสดงว่าถึงเดือนตุลาคมก็ไม่ได้มองต่อว่าจะยังไงต่อ? “ถ้าเกิดว่าปัจจุบันเราทำดี แล้วคือฝรั่งเขาจะใช้ความรู้สึกนำทุกอย่าง เพราะฉะนั้นอ๊อฟว่ารอดูไปเรื่อยๆ ดีกว่า”

กลัวไหมเรื่องระยะทางกับความสัมพันธ์? “เราเคยมีความสัมพันธ์แบบนั้นอยู่แล้ว เราเคยมีความสัมพันธ์ที่มันเป็นระยะทางที่มันไกลๆกัน แล้วก็มันทำให้เราเข้าใจมากขึ้น เราก็เข้าใจ อีกอย่างปัจจุบันเราสามารถบินไปบินมาได้ก็คือหลังจากนี้โควิดจบ”

ให้เขาปลอดล็อกไอจีหน่อยจะได้เข้าไปดู? “ไม่ใช่เขาไม่ได้ล็อก แต่ว่าเราไม่ได้แท็กเพราะว่าเราไม่อยากให้อะไรอย่างงี้”

เรียกว่าเป็นคนคลั่งรักไหม? “อ๊อฟว่ามันก็เป็นมุมที่ทำให้เรามีความสุข จริงๆ อ๊อฟก็ขอบคุณมากๆ ที่ให้ความสนใจตรงนี้ คือเราก็อยากพยายามทำให้มันเป็นปกติที่สุด คืออ๊อฟก็อยากทำให้เราเป็นแฟนกับคนธรรมดาทั่วไป เป็นคู่ธรรมดาที่เวลาเขาไปไหนกับแฟนเขาก็ลง เขาก็อยากมีความสุข อยากจะเก็บเป็นความทรงจำนึง”

 

 

เขาเข้าใจงานเรามากแค่ไหน? “เขาก็เข้าใจครับ เพราะฝรั่งค่อนข้างเปิดกว้างและเราเคยโชว์งานให้เขาดู เราเคยพาไปดูเวลาเราร้องเพลงก็มีบ้าง เขาก็เห็นว่าเราเก่ง คือฝรั่งเขาจะชอบคนที่เก่งดูแลตัวเองได้ แล้วก็จริงใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็น จากความรู้สึกตัวเองนะ”

เขาห่วงความเป็นส่วนตัวไหม? “ไม่นะ เพราะเวลาไปไหนคือสมมติเวลาเราเดินอยู่คนเดียว เขาก็จะรีบมา มากอดมาจับ เขาก็คงห่วงแหละ เพราะเราก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ เราสวย (หัวเราะ)”

บอกชื่อได้ไหมเขาชื่ออะไร ห่างกันเท่าไหร่“เขาชื่อ จัสติน เด็กกว่า 3 ปีค่ะ”