เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

หลังจากเกิดเหตุกราดยิงครั้งประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ก็ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯออกมาตรการควบคุมการครอบครองปืน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุกราดยิง ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บหลายพันคนแล้วในหลายปีที่ผ่านมา

13413641_1721224964809509_4462873172430725694_n

Zeid Ra’ad Al Hussein ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวว่า “จะต้องเกิดเหตุกราดยิงอีกกี่ครั้ง สหรัฐฯถึงจะยอมออกมาตรการควบคุมการครอบครองปืน”
อย่างไรก็ตามก็มีคนที่ออกมาสนับสนุนการครอบครองปืนโดยอ้างว่า ปืนจะช่วยเพิ่มขีดความปลอดภัย แต่ UNHRC ชี้ว่าการจำหน่ายอาวุธปืนจะส่งผลอันตรายต่อความปลอดภัยของสังคม เพราะจะทำให้เกิดเหตุอาชญากรรมร้ายแรง เช่นเหตุสังหารหมู่ด้วยอาวุธ อีกทั้ง การครอบครองปืนนั้นทำให้ลดช่องว่างระหว่างแรงจูงใจและการก่อเหตุฆาตกรรม ซึ่งเป็นผลให้เกิดผู้เสียชีวิตจำนวนมากขึ้น

13423813_1721224904809515_1868278903089795452_n

การเรียกร้องครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุกราดยิงไนท์คลับแห่งหนึ่งในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งนายโอมาร์ มาทีน มือปืนชาวอเมริกันเชื้อสายอัฟกานิสถานวัย 29 ปี บุกไนท์คลับและใช้ปืนไรเฟิลอัตโนมัติ AR-15 และปืนพกกราดยิงเข้าไปในฝูงชน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 ราย

13394032_1721224954809510_7529487717314261167_n

UNHRC กล่าวว่า “ปืนจำนวนหลายร้อยล้านกระบอกถูกจำหน่ายให้ประชาชน และในทุกปีหลายพันคนจะต้องสังเวยชีวิตหรือบาดเจ็บเพราะปืนเหล่านี้”

13315692_1721224998142839_6442772851400909394_n

รายงานล่าสุดระบุว่า เมื่อปี 2015 มีเหตุความรุนแรงที่เกิดจากปืนทั้งหมด 51,675 คดีในสหรัฐฯ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 13,136 รายและบาดเจ็บอีก 26,493 ราย

 

ที่มา – ท่องโลกกว้าง(Nidnoi)