“น้านงค์ เชิญยิ้ม”เล่านาทีชีวิต ที่ดื่มน้ำยาล้างเครื่องเงินจนเข้าโรงพยาบาล

หลังล้างเสร็จตอนแรกจะเทเข้าขวดเดิม แต่กลัวน้ำยาที่เหลือในขวดจะสกปรกไปด้วย เลยเทใส่ขวดน้ำดื่มไว้ และเก็บไว้ในห้องน้ำ จนผ่านไป 2 เดือนกว่าๆ ซึ่งก็ลืมไปแล้ว

จนถึงเมื่อวันที่ 12-13 เมษา ที่ผ่านมาลูกชายเอาเครื่องเงินมาล้าง เลยเทน้ำยาจากขวดแรกที่เป็นน้ำยาล้างเครื่องเงินอยู่แล้วมาล้างให้ลูกชาย

พอล้างเสร็จก็กรอกใส่ขวดเดิม แล้วนำขวดนี้ไปเก็บไว้ที่หน้าห้องน้ำ แล้วบังเอิญเห็นขวดน้ำดื่มที่เคยใส่น้ำยาล้างเมื่อประมาณ 2-3 เดือนก่อน

ก็สงสัยใครเอาขวดน้ำขวดนี้ของตนมาวางไว้ตรงนี้ เพราะตนจะใช้ขวดน้ำแบบนี้เอาไว้ดื่ม จึงนำไปเก็บไว้ในตู้เย็นรวมกับขวดอื่นๆ แต่น้ำที่มีอยู่ในขวดมันน้อยจึงเอาน้ำดื่มมาเติมเข้าไปเพื่อให้เต็ม

 

ผ่านไป 2-3 วัน ตื่นเช้ามาจะทานยา และไปหยิบขวดน้ำที่มีน้ำยาผสมอยู่มาดื่ม ดื่มเข้าไปนิดเดียวรู้สึกว่ามันขม เลยรีบบ้วนทิ้งและพยายามกลั้วปาก พยายามอาเจียนแต่ไม่ออก

แต่จะไม่ไปหาหมอเพราะยานิดเดียวคงไม่เป็นไร ผ่านไป 1-2 นาทีเริ่มมีอาการมึนหัว รีบไปเคาะเรียกลูกชายให้ไปส่งโรงพยาบาล เหตุเกิดตอน 7 โมงกว่าๆ หลังเข้าไปนั่งในรถก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย

ซึ่งลูกชายมาเล่าให้ฟังทีหลังว่า ตัวเกร็งไปหมดแล้วก็สลบไม่มีสติ คุณหมอบอกว่าได้รับสารไซยาไนด์ เป็นสารพิษอันตราย ซึ่งไม่รู้ว่าจะดีขึ้นมาไหมเพราะที่โรงพยาบาลไม่มียาต้าน

แต่ดีที่ลูกชายนำตัวอย่างน้ำยาไปให้หมอดูหมอเลยรู้ว่าเป็นสารตัวนี้เลยติดต่ออีกโรงพยาบาลเพื่อให้ส่งยาต้านมาให้ทันเวลา

โดยหลังจากฟื้นขึ้นมาหมอได้บอกว่า กรณีแบบนี้รอดยากเพราะน้ำยาตัวนี้อันตรายและร้ายแรงมาก ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างปลอดภัยแล้ว

ซึ่งน้านงค์ยังบอกว่ารู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ด้วยปาฏิหาริย์หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ครูบาอาจารย์หรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้ไม่ถึงคราวตาย ทุกคนมาช่วยจนทำให้เราฟื้นคืนกลับมา

ก็ขอเตือน น้ำยาล้างเครื่องเงินทุกชนิดรุนแรงมาก และตนเองนั้นทางไปนิดเดียว แต่ฟื้นคืนมาได้ถือเป็นปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ ขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจและเป็นห่วงมาให้ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว แข็งแรงแล้ว