เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ซาดิก ข่าน (Sadiq Khan) บุตรชายของคนขับรถประจำทางชาวปากีสถาน ได้รับการประกาศในวันเสาร์ (7 พ.ค.) ว่าเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ได้ขึ้นเป็นนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนคนใหม่ ภายหลังสามารถยังความปราชัยอย่างชนิดที่เรียกได้ว่ายับเยิน ให้แก่คู่แข่งขันคนที่ได้คะแนนใกล้เคียงเขาที่สุด นี่หมายความว่าพรรคเลเบอร์หวนกลับมาปกครองเมืองหลวงของสหราชอาณาจักรอีกครั้ง ภายหลังว่างเว้นไป 8 ปี

ผู้สมัครจากพรรคฝ่ายค้านวัย 45 ปีผู้นี้ กลายเป็นชาวมุสลิมคนแรกที่ได้เป็นพ่อเมืองของนครหลวงแห่งสำคัญในโลกตะวันตก เมื่อการนับคะแนนของการเลือกตั้งท้องถิ่นในสหราชอาณาจักร ที่เรียกขานกันว่า “ซูเปอร์ เทิร์สเดย์” (Super Thursday) ใกล้เสร็จสิ้นลง

อันที่จริงชัยชนะของ ข่าน ดูจะเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อตอนที่นับคะแนนโดยดูจากการเลือกในอันดับแรกสุด (first preference votes) ซึ่งปรากฏว่าเขาได้ไป 46% นำหน้าคู่แข่งคนสำคัญ คือ แซค โกลด์สมิธ (Zac Goldsmith) แห่งพรรคคอนเซอร์เวทีฟ อยู่ 9% นับเป็นหลักหมายแสดงถึงการกลับมาบริหารเมืองหลวงสหราชอาณาจักรของพรรคเลเบอร์ ภายหลังทางคอนเซอร์เวทีฟครองอำนาจอยู่ 8 ปี

การเลือกตั้งคราวนี้ใช้ระบบที่เรียกกันว่า supplementary vote หรือ contingent vote กล่าวคือ ผู้ลงคะแนนสามารถโหวตได้ว่าจะเลือกผู้สมัครคนใดเป็นอันดับแรกสุด และจะเลือกผู้สมัครคนใดเป็นอันดับสอง (second preference vote)

ในเวลานับคะแนนนั้น จะเริ่มต้นด้วยการนับผู้ที่ได้เลือกเป็นอันดับแรกสุดก่อน หากไม่มีผู้สมัครคนใดได้คะแนนเกินครึ่งหนึ่งของผู้ใช้สิทธิออกเสียง ก็จะนำเอาเฉพาะคนได้คะแนนสูงที่สุดที่ 1 และที่ 2 มาพิจารณาอีกครั้ง

คะแนนจากรอบแรกของผู้สมัครทั้งสองยังคงอยู่ตามเดิม แต่จะนับบัตรลงคะแนนกันอีกรอบ โดยถ้าคนไหนได้รับเลือกเป็นอันดับสอง ก็จะได้คะแนนเพิ่มขึ้นมา และผู้ที่ได้คะแนนทั้งหมดเกิน 50% ของจำนวนผู้มาใช้สิทธิ จะเป็นผู้ชนะ

ถึงแม้มองกันในทางคณิตศาสตร์แล้ว ดูเป็นไปไม่ได้ที่ โกลด์สมิธ จะสามารถไล่แซง ข่าน ได้ในการนับคะแนนผู้ได้รับเลือกเป็นอันดับสอง แต่ก็ต้องทำการนับกันเพื่อให้ได้ผู้ชนะอย่างเป็นทางการ ซึ่งปรากฏว่า ข่าน ได้ไปทั้งสิ้น 57%

เจรามี คอร์บิน (Jeremy Corbyn) หัวหน้าพรรคเลเบอร์ ทวิตแสดงความยินดีกับ ข่าน ตั้งแต่ก่อนมีการประกาศผลอย่างเป็นทางการแล้ว โดยกล่าวว่า “รอไม่ไหวที่จะได้ทำงานกับคุณเพื่อสร้างลอนดอนที่ยุติธรรมสำหรับทุกคน! #YesWeKhan”

การลงคะแนนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคมคราวนี้ มีชาวลอนดอนมาใช้สิทธิกัน 45% ซึ่งถือว่าสูงแล้ว และเชื่อกันว่าการที่มีผู้ออกมาโหวตกันมากเช่นนี้ ข่าน คือผู้ที่ได้รับอานิสงส์ ทั้งนี้เขาได้คะแนนโหวตไปรวมทั้งสิ้นราว 1.1 ล้านเสียง

ข่าน เป็นอดีตทนายความทางด้านสิทธิมนุษยชน และก็เป็น ส.ส.ของเขตทูตทิ่ง (Tooting) อันเป็นเขตทางใต้ของลอนดอนมาตั้งแต่ปี 2005 เขาเป็นรัฐมนตรีคนสำคัญทีเดียวในคณะรัฐมนตรีพรรคเลเบอร์ของอดีตนายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ และภายหลังเลเบอร์พ่ายแพ้การเลือกตั้งทั่วไป โดยที่ เดวิด คาเมรอน หัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทนที่ เขาก็ยังมีชื่อเป็น “รัฐมนตรีเงา” คนหนึ่งของพรรคเลเบอร์ที่กลายสภาพเป็นฝ่ายค้าน

อย่างไรก็ตาม ข่านตัดสินใจลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีเงาเมื่อปีที่แล้ว และเริ่มการรณรงค์หาเสียงเพื่อเป็นนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน สืบแทน บอริส จอห์นสัน (Boris Johnson) ซึ่งครองตำแหน่งมา 2 สมัยและแสดงความจำนงไม่ต้องการลงแข่งขันอีก

ข่าน พึ่งพาอาศัยรากเหง้าภูมิหลังของตนเองที่เป็นลูกของชนชั้นผู้ใช้แรงงาน และเติบโตขึ้นมาในหมู่บ้านแฟลตการเคหะสภาเทศบาลลอนดอน เป็นประกาศนียบัตรรับรองอันแข็งแกร่ง ในการต่อสู้กับ โกลด์สมิธ ซึ่งมีภูมิหลังมาจากครอบครัวอภิสิทธิ์ชน

โกลด์สมิธนั้นแม้ไม่ได้สำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และถูกไล่ออกจากโรงเรียนพับลิกสคูลระดับเยี่ยมที่สุดอย่าง อีตัน (Eton) แต่เขาคือลูกชายของ เซอร์เจมส์ โกลด์สมิธ (Sir James Goldsmith) อภิมหาเศรษฐีที่ปัจจุบันล่วงลับไปแล้ว และเป็นน้องชายของ เจมิมา ข่าน (Jemima Khan) แทบจะตลอดช่วงเวลารณรงค์หาเสียงเพื่อเป็นนายกเทศมนตรีลอนดอนคราวนี้ เขามีคะแนนนิยมตามหลัง ข่าน มาโดยตลอด ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากความพยายามอันประสบความล้มเหลวของบางผู้บางคนในฝ่ายของเขาที่จะเชื่อมโยง ข่าน เข้ากับบุคคลที่เป็นพวกอิสลามิสต์สุดโต่งบางคน

เจมิมา ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของ อิมรอน ข่าน (Imran Khan) นักคริกเก็ตชื่อก้องชาวปากีสถาน ที่ในปัจจุบันกลายเป็นนักการเมืองคนสำคัญไม่น้อยในประเทศนั้น ได้ทวิตแสดงความรู้สึกของเธอ ภายหลังผลการเลือกตั้งปรากฏชัดเจนออกมาว่า “เศร้าที่การรณรงค์หาเสียงของ แซค ไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงคนที่ฉันรู้จัก เขาเป็นนักการเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, มีความคิดอิสรเสรี และมีความซื่อสัตย์”

ชัยชนะของ ข่าน ต้องถือว่าเป็นชัยชนะส่วนตัวค่อนข้างมาก เนื่องจากตัดแย้งเป็นตรงกันข้ามอย่างชัดเจนกับผลการเลือกตั้งท้องถิ่นโดยรวมในวันซูเปอร์ เทิร์สเดย์ ของพรรคเลเบอร์ กล่าวคือ เลเบอร์พ่ายแพ้ยับในสกอตแลนด์ จนอยู่ในอันดับ 3 ตามหลังพรรคชาตินิยมชาวสกอตต์ และพรรคสกอตติช คอนเซอร์เวทีฟ ที่สามารถฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง ถึงแม้ยังสามารถดิ้นรนต่อสู้จนรักษาพื้นที่ในสภานิติบัญญัติแคว้นเวลส์ และในสภาเทศบาลของท้องถิ่นต่างๆ ในแคว้นอิงแลนด์เอาไว้ได้เป็นส่วนใหญ่

ลูกคนขับรถเมล์ที่อพยพมาจากปากีสถาน

ภายหลังการรณรงค์หาเสียงซึ่งได้เห็นฝ่ายคู่แข่งสำคัญของเขา พยายามที่จะโยงใย ข่าน เข้ากับพวกอิสลามิสต์สุดโต่งแล้ว มาถึงตอนนี้นายกเทศมนตรีคนใหม่ก็ต้องเผชิญภารกิจในการนำเอาชุมชนต่างๆ ที่มีความแตกต่างหลากหลายของลอนดอนเข้ามารวมตัวสามัคคีกัน เพื่อรักษาฐานะความเป็นนครระดับท็อปของโลกเอาไว้ให้ได้

ในการกล่าวปราศรัยรับตำแหน่ง ข่านให้สัญญาที่จะเป็น “นายกเทศมนตรีของชาวลอนดอนทุกๆ คน” และกล่าวว่า บิดาผู้ล่วงลับของเขา ซึ่งอพยพมาจากปากีสถานในช่วงทศวรรษ 1960 จะต้อง “ภาคภูมิใจมาก”

“ผมไม่เคยนึกฝันเลยว่า คนอย่างผมนี่จะได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีของลอนดอน และผมต้องการที่จะกล่าวขอบคุณสำหรับชาวลอนดอนทุกผู้ทุกคนซึ่งทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้กลายเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ในวันนี้” เขากล่าว

เขาให้คำมั่นที่จะทำงานเพื่อจัดหาที่อยู่อาศัยและการคมนาคมขนส่งซึ่งประชาชนสามารถจ่ายไหวให้มากขึ้น, ที่จะลดมลพิษ, และที่จะส่งเสริมให้มีตำแหน่งงานมากขึ้นและเป็นงานที่ให้ค่าตอบแทนดียิ่งขึ้น

“ผมต้องการให้ชาวลอนดอนทุกผู้ทุกคนได้รับโอกาสแบบที่นครของเราได้มอบให้แก่ผมและแก่ครอบครัวของผม เป็นโอกาสที่ไม่เพียงให้ได้รอดชีวิตเท่านั้นแต่ให้ได้เติบโตเจริญรุ่งโรจน์อีกด้วย” เขากล่าว

เส้นทางเดินสู่ศาลาว่าการนครลอนดอนของข่าน ว่าไปแล้วก็เหมือนกับเป็นเทพนิยายสมัยใหม่เรื่องหนึ่ง

เขาเกิดในลอนดอนเมื่อปี 1970 ในครอบครัวที่พ่อแม่เดินทางอพยพมาจากปากีสถานไม่นานนัก ข่านเป็นลูกคนที่ 5 ในจำนวนพี่น้องผู้ชาย 7 คน และพี่สาวอีกคนหนึ่ง

เขาเติบโตในหมู่บ้านแฟลตการเคหะของเทศบาลในย่านทูตทิ่ง ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่ประกอบด้วยคนเชื้อชาติต่างๆ คละเคล้ากัน และต้องนอนบนเตียงแบบ 2 เตียงซ้อนกันอยู่จนกระทั่งเขาอายุ 24 ปี

ข่านชอบเล่าอยู่เรื่อยๆ ว่า บิดาของเขาเป็นคนขับรถประจำทางทาสีแดงที่ขึ้นชื่อของลอนดอน ส่วนมารดาเป็นช่างเย็บผ้า พี่ชายของเขาคนหนึ่งเป็นช่างซ่อมรถ

เขาเป็นนักมวยที่ว่องไวบนเวที โดยได้เรียนรู้กีฬาชนิดนี้จากการที่ต้องป้องกันตัวในเวลาอยู่บนท้องถนนสมัยเด็ก เมื่อต้องต่อสู้กับพวกที่ด่าทอด้วยคำพูดเหยียดเชื้อชาติใส่เขา พี่ชายของเขา 2 คนก็เป็นผู้ฝึกสอนกีฬาชกมวยอยู่ในเวลานี้ เขายังเคยลงวิ่งรายการลอนดอนมาราธอนในปี 2014 ด้วย

ตอนที่เรียนหนังสือในโรงเรียน เขาเคยต้องการศึกษาต่อด้านวิทยาศาสตร์และมีอาชีพเป็นทันตแพทย์ ทว่าอาจารย์คนหนึ่งเกิดเห็นพรสวรรค์ของเขาในเรื่องการโต้วาที และชักนำให้เขาหันไปเรียนนิติศาสตร์

เขาสำเร็จการศึกษาได้รับปริญญาด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยนอร์ท ลอนดอน และเริ่มต้นเป็นทนายความฝึกหัดในปี 1994 ณ สำนักงานกฎหมาย คริสเตียน ฟิชเชอร์ (Christian Fisher legal firm) ซึ่งในที่สุดเขาก็ได้เป็นทนายความหุ้นส่วน (partner) คนหนึ่งของสำนักงานกฎหมายแห่งนี้

เขามีความชำนาญเป็นพิเศษทางด้านสิทธิมนุษยชน และได้เป็นประธานของ “ลิเบอร์ตี” (Liberty) กลุ่มรณรงค์เรียกร้องเสรีภาพพลเมืองอยู่ 3 ปี

เขาเคยเป็นทนายว่าความแก้ต่างให้ หลุยส์ ฟาร์ราข่าน (Louis Farrakhan) หัวหน้าขบวนการ “เนชั่น ออฟ อิสลาม” (Nation of Islam movement) และ บาดาร์ อาหมัด (Babar Ahmad) ซึ่งเขารู้จักจากการไปมัสยิดแห่งเดียวกัน อาหมัดถูกจำคุกในสหรัฐฯภายหลังยอมรับว่าจัดหาความสนับสนุนต่างๆ ให้แก่ระบอบตอลิบานในอัฟกานิสถาน

ถูกข่มขู่เอาชีวิต

ข่านเข้าร่วมพรรคเลเบอร์ตั้งแต่อายุ 15 ปี เมื่อตอนที่นายกรัฐมนตรีมาร์กาเรต แธตเชอร์ ของพรรคคอนเซอร์เวทีฟ กำลังรุ่งเรืองเฟื่องฟู

เขาได้รับเลือกตั้งเป็นตัวแทนจากเขตทูตทิ่ง เข้าไปในนั่งอยู่ในสภาเขตวันด์สเวิร์ธ (Wandsworth local borough) ซึ่งพวกคอมเซอร์เวทีฟครอบงำอยู่เมื่อปี 1994 และได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของเขตนี้ในปี 2005

จนถึงเวลานี้ เขาก็ยังพำนักอยู่ในย่านนี้กับ ซาดิยา (Saadiya) ภรรยาที่เป็นทนายความเช่นกันของเขา และบุตรสาววัยรุ่น 2 คนของทั้งคู่

นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นรัฐมนตรีดูแลกิจการชุมชนในปี 2008 ต่อมาก็ได้เป็นรัฐมนตรีคมนาคม ซึ่งถือเป็นรัฐมนตรีสำคัญระดับวงในคณะรัฐมนตรี (cabinet) และกลายเป็นรัฐมนตรีมุสลิมคนแรกที่ได้เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีระดับวงใน

ในสภาผู้แทนราษฎร เขาออกเสียงให้รับรองการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน ซึ่งทำให้เขาถูกข่มขู่เอาชีวิตหลายครั้ง

ในการหาเสียงเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีลอนดอนคราวนี้ เขามุ่งโฟกัสไปที่เรื่องการจัดหาที่อยู่อาศัยที่พอจะจ่ายกันไหวให้แก่ชาวลอนดอน และการระงับไม่ขึ้นค่าโดยสารระบบคมนาคมขนส่งสาธารณะ

ข่านถือเป็นนายกเทศมนตรีคนที่ 3 ของกรุงลอนดอน นับตั้งแต่ที่มีการปฏิรูปกฎหมายและจัดตั้งตำแหน่งนี้ขึ้นมา โดย 2 คนแรก คือ เคน ลิฟวิ่งสโตน (Ken Livingstone) แห่งพรรคเลเบอร์ (ปี 2000-2008) และ บอริส จอห์นสัน แห่งพรรคคอนเซอร์เวทีฟ (ปี 2008-2016)

 

ที่มา – http://www.manager.co.th/