เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

น.ส.บุญปลูก  (นามสมมุติ) ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ก่อนหน้านี้ตนอยู่กินกับสามีเก่าอยู่จ.พิษณุโลก มีลูกด้วยกัน 1 คน คือ ด.ญ.หญิง (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี พิการทางสมอง ต่อมาได้เลิกรากัน ซึ่งตนก็เลี้ยงลูกคนเดียวเรื่อยมา กระทั่งได้รู้จักกับนายลอง (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ทางเฟซบุ๊ก จากนั้นตนได้ขายบ้านและที่ดินที่ จ.พิษณุโลก ได้เงินมา 3 แสนบาท ก่อนจะพาลูกมาอยู่กินกับนายชัชและช่วยกันทำงานรับจ้างเรื่อยมา

น.ส.บุญปลูก กล่าวว่า นายลอง มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จะต้องย้ายตามงานไปเรื่อยๆ ช่วงแรกๆที่คบกันตนยังมีเงิน นายชัชก็เป็นคนดีเอาใจตนทุกอย่าง ผ่านไป 3 ปี ตนไม่มีเงินแล้ว นายชัช มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป หันไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อารมณ์ฉุนเฉียวโมโหง่าย บางครั้งไม่พอใจก็ทุบตีตน และช่วงเดือน ม.ค.64 ขณะที่นายชัช พาตนไปทำงานจัดสวนย่านหนองจอก มีนบุรี กรุงเทพฯ นายชัชได้มาสารภาพกับตนว่า ได้ข่มขืนน้องเก๋ ลูกสาวตนมาแล้ว 3 ครั้ง อีกทั้งยังบังคับให้ตนยอมรับและยกลูกสาวให้เป็นภรรยาอีกคน โดยนายลอง สัญญาว่าจะรับเลี้ยงทั้งแม่และลูกตลอดชีวิต แต่ตนรับไม่ได้ที่นายลอง มากระทำกับลูกสาวที่พิการทางสมองจึงได้ปฏิเสธและต่อว่าไปอย่างรุนแรง ซึ่งนายลอง โมโหมากและทำร้ายร่างกายตนจนได้รับบาดเจ็บ ด้วยความที่ตนสองแม่ลูกไม่มีที่ไป ไม่มีเงิน จึงไม่กล้าแจ้งความและต้องยอมทนอยู่กับนายลองไปก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปริ๊ดแตก!! สาวสวยไปจ้างวาดรูปแต่กลับได้แบบนี้ ชาวเน็ตต่างบอกว่าเหมือนดาราดัง

ชาวเน็ตจับผิด โควิดระบาดหนัก รัฐแนะให้อยู่บ้าน แต่ทำไมดารา-เซเลบยังไปเที่ยว?

พอช่วงเดือนเม.ย. ที่มีโควิดระบาดอีก นายลองไม่มีงานรับจ้างจึงได้พาตนและลูกสาวมาอาศัยอยู่บ้านญาติที่ จ.ฉะเชิงเทรา กระทั่งวันที่ 8 พ.ค.64 นายลอง ได้ออกอุบายให้ตนไปทวงเงินค่าแรงจากนายจ้างและห้ามตนพาลูกสาวไปด้วย ซึ่งตนก็เป็นห่วงลูกสาว แต่ก็ต้องจำยอมรีบไปรีบกลับ เมื่อกลับมาลูกสาวก็ได้บอกว่าถูกนายลองข่มขืนอีกแล้ว พอนายลองรู้ว่าลูกได้บอกกับตน จึงไม่พอใจเอาไม้มาทุบตีลูกสาวจนเป็นรอยช้ำที่บริเวณหลังและตามตัว ซึ่งตนได้พยายามห้ามปราบแต่ก็ถูกทำร้ายไปด้วย หลังจากนั้นตนจึงตัดสินใจพาลูกออกมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน และเข้าแจ้งความที่สภ.เขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา ในวันที่ 8 พ.ค.64 แต่ด้วยความยากจนไม่มีเงินติดตัว ไม่มีงานทำ ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และไม่มีรถที่จะพาลูกสาวไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย แต่ตนตนต้องการจะดำเนินคดีกับนายลอง ให้ถึงที่สุด เพื่อนบ้านจึงได้แนะนำและช่วยแจ้งเรื่องมายังมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอความช่วยเหลือ

หลังรับแจ้งเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ เพ็ชรศักดิ์ ผกก.สภ.เขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา ช่วยเหลือสองแม่ลูกโดยส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกาย และสอบสหวิชาชีพ โดย พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ฤชายุส คงอุตส่าห์ รองสว.สอบสวน สภ.เขาหินซ้อน ไปรับตัวสองแม่ลูก และพาน้องเก๋ไปตรวจร่างกายที่ รพ.พนมสารคามพร้อมกับนัดทีมสหวิชาชีพสอบน้องหญิง ในวันที่ 18 พ.ค.64

นอกจากนี้ พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ เพ็ชรศักดิ์ ผกก.สภ.เขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา และร.ต.อ.ฤชายุส คงอุตส่าห์ รองสว.สอบสวน สภ.เขาหินซ้อน ยังได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง และฝากงานรับจ้างให้กับน.ส.บุญปลูก พร้อมช่วยหาที่อยู่ให้กับสองแม่ลูกด้วย ภายหลังมีการสอบสหวิชาชีพน้องเก๋แล้ว และรวมรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับนายชัชวาล มาดำเนินคดีตามกฎหมาย และช่วงเย็นวันที่ 18 พ.ค.64 ร.ต.อ.ฤชายุส คงอุตส่าห์ รองสว.สอบสวน สภ.เขาหินซ้อน ได้รวบรวมพยานหลักฐานไปขออำนาจศาลออกหมายจับนายลอง ในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 13 ปี, ข่มขืนกระทำชำเราผู้ทุพลภาพ และทำร้ายร่างกาย

ล่าสุดวันนี้ (19 พ.ค.) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ เพ็ชรศักดิ์ ผกก.สภ.เขาหินซ้อน ว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เขาหินซ้อน สืบทราบว่านายลองได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่จ.ปราจีนบุรี และได้จับกุมตัวมาดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว และจากการตรวจสอบประวัตินายลองพบว่าเคยก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่สน.ทองหล่อ และถูกดำเนินคดีเสพยาบ้าในพื้นที่ สภ.เขาสะหมิง จ.ตราด ทั้งนี้ตำรวจจะคุมตัวนายลองไปฝากขังศาลใน