“คทาสิงห์-หลงกลิ่นจันทน์-เผาขน” ละครหลังข่าว 3 เรื่องช่อง 7 พาเรตติ้งชนะคู่แข่ง ด้วยคอนเทนต์ที่แตกต่าง ถูกใจคอละครบ้านเรา
โฟกัสเจาะขอบจอแก้ว ศึกทีวียังร้อนฉ่า รายการข่าวของทุกสถานี ต่างห้ำหั่นชนิดเอาเป็นเอาตาย ฆ่าได้ตาย ทุบได้ทุบ ใครตายช่างมัน เพราะในส่วนของคอนเทนต์ละคร ก็ฟาดฟันกันไม่ยั้ง วันนี้จะพาไปสำรวจละครหลังข่าว ทั้ง 3 เรื่อง ของวิกหมอชิต บอกเลยว่าล็อตนี้ไม่ธรรมดา
กดรีโมท วันจันทร์-อังคาร หากดูเพลินๆ หรือถ้าไม่ได้ตั้งใจดู บางคนอาจคิดว่ากำลังดูละครจักรวงศ์ ทุกเช้าเสาร์-อาทิตย์ ที่แฟนๆช่องคุ้นเคย ช้าก่อน แม้ คทาสิงห์ จะมีกลิ่นอายของอภินิหาร หรือว่าด้วยเรื่องพลังเหนือธรรมชาติคล้าย ๆ หนังเจ้าก็ตาม จนบางคนอาจจะไม่อยากดู แต่แปะหัวยี่ห้อ ไนน์ บีเวอร์ ฟิล์มส์ แล้ว ย่อมต้องไม่ธรรมดา
คทาสิงห์ดีเด่นด้วย ”บทละคร” ที่นำพาให้ผู้ชมร่วมกันค้นหาเรื่องราวของชาวกองไตโบราณ ที่มาที่ไป ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร รวมไปถึงตำนานอันศักดิ์สิทธิ์ในอดีตชาติ และของคู่บ้านคู่เมือง ที่เคร่งขลัง อย่าง คทาสิงห์
มาดู โปรดักชั่น บอกเลยว่าสุดปัง ซีจีสุดว้าว ไม่กะโหลกกะลา ฉากบู๊แอ็คชั่นจัดว่าเด็ด สมฐานะผู้จัดฯ โอริเวอร์ บีเวอร์
ฟากพระนาง “แบงค์–อาทิตย์ ปูเป้-เกศรินทร์” กับบทบาท 2 ภพ 2 ชาติ เคมีเข้ากันอย่างประหลาด โดยเฉพาะฉากเลิฟซีนที่มีน้อย แต่ให้ความรู้สึกมาก
เรื่องนี้ ไม่ใช่แค่แนวแอ็กชั่น หรือดราม่า แต่ผสมผสานไปด้วยการผจญภัย กุ๊กกิ๊กไปด้วยความโรแมนติก มีคอมิดี้ให้เห็นเป็นระยะแบบพอดิบพอดี บวกรวมเรื่องลี้ลับ ไสยเวท แบบไม่มากหรือน้อยจนเกินไป จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ คทาสิงห์ จะเคยพาเรตติ้งทะยาน ไปสูงถึง 4.6
ต่อกันด้วยละคร หลงกลิ่นจันทน์ ที่ทำเรตติ้งสูงถึง 4.5 มาแล้ว และไม่สามารถพูดเต็มปากว่า เป็นละครม้ามืด เพราะยี่ห้อค่าย ปรากฏการณ์ดี ผู้จัดฯ ที่เคยสร้างชื่อมาแล้วหลายเรื่อง เรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องที่ถูกจับตามองตั้งแต่ละครยังไม่ได้ออกอากาศ
หลงกลิ่นจันทน์ ฉายทุกวัน พุธ-พฤหัสบดี แฟนๆละครต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า เพราะความโดดเด่นของ “บทละคร” ที่มีลีลาชั้นเชิงการเล่าเรื่องที่ทันสมัย แปลก แหวกจากละครไทยทั่วไป การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของทุกๆตัวละครชนิดแบบมีที่มาที่ไป มีประเด็น หรือแกนเรื่องที่ต้องการนำเสนออย่างชัดเจน ไม่หลงทาง
การสืบค้นที่ให้โอกาสผู้ชมร่วมคาดเดาว่าใครคือฆาตกร การเดินเรื่องอย่างชาญฉลาด การตัดสลับ ย้อนกลับอดีต และฉายภาพปัจจุบัน ให้ดูง่ายไม่ซับซ้อน
โปรดักชั่น ถือว่าเจ๋ง โดยเฉพาะการทำการบ้านของทีมงาน เกี่ยวกับการทำงานของนิติเวช ที่ถ่ายทอดผ่านนำแสดงหลัก ธันวา สุริยจักร ในบทหมอดิน หรือปฐพี ที่สามารถถ่ายทำ ฉายภาพการทำงาน การชันสูตรศพออกมาได้อย่างแนบเนียน แบบที่ไม่ค่อยเห็นจากละครไทยมาก่อน
ธันวา สอบผ่านทั้งฉากเคร่งขรึมในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ที่มีชีวิตผู้คนเป็นเดิมพัน และฉากหัวร้อน กุ๊กกิ๊ก แสนงอน ขณะอยู่กับนางเอก (“ทับทิม”อัญรินทร์) ก็ทำออกมาได้น่ารักไปอีกแบบ
ส่วน ทับทิม ในบทสารวัตรว่านรัก แม้บางครั้งเราอาจจะไม่เข้าใจในความมุทะลุของตัวละครอยู่บ้าง แต่เมื่อถ่ายทอดผ่านทับทิม กลับทำให้มองข้าม และหันไปให้ความสำคัญของตัวละครที่มีความมุ่งมั่นจริงใจในการสืบคดี ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของตำรวจ ในอุดมคติ
หลงกลิ่นจันทน์ ฉีกขนบละครไทยที่คุ้นชิน มีความพัฒนา แบบก้าวกระโดด สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ช่วยกระตุ้น และสร้างค่านิยมใหม่ๆในการดูละครช่อง 7 ให้กับแฟนๆกลุ่มใหม่ อีกด้วย
ปิดท้ายที่ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ 3 วันรวด กับ เผาขน ที่ฟาดเรตติ้งไปสูงถึง 5.3 ถ้าฟังแค่ชื่อเรื่อง กลิ่นบู๊ แอ็กชั่น ต้องมา พะยี่ห้อผู้จัดฯ ค่าย โคลีเซียม ที่ จัดหนักสไตล์ระเบิดภูเขาเผากระท่อม แม้หลายคนจะบอกว่าอัดแน่นคิวบู๊มากไปหรือเปล่า ไม่ต้องมีถี่ขนาดน้านนนน แต่ถ้า คนคุ้นเคยกับละครช่อง 7 ก็น่าจะถูกจริงไม่ยาก
เผาขนไม่ได้เน้นหนักไปที่ฉากบู๊ แต่เพียงอย่างเดียว ยังให้ความสำคัญกับ “บทละคร” ที่มีความสลับซับซ้อน ยากที่จะคาดเดา รอการเฉลย
ส่วนนักแสดงนำ 2 พระเอก “เข้ม”หัสวีร์ ในบท อำพล นายหน้าค้ายา กับ “อ๊อฟ”ชนะพล กับบทนายตำรวจตงฉิน ทั้งคู่ต่างทำหน้าที่ได้ดี อาจจะเรียกว่าช่ำชองเลยก็ไม่ผิดเพี้ยนนัก เพราะต่างผ่านงานแนวนี้มาแล้วหลายเรื่อง ส่วนนางเอกน้องใหม่ “การ์ตูน”ณัฐฌา โดดเด่นที่หน้าตาเฉียบคม ลีลาทะมัดทะแมง แต่เรื่องของแอ็กติ้ง และไดอะล็อคการพูด ยังต้องให้โอกาสในการพัฒนา เพราะนี่คือละครเรื่องแรก ทำได้ขนาดนี้ก็ต้องบีบมือเป็นกำลังใจจ้า
ล็อตนี้ของช่อง 7 ถือว่าท็อปฟอร์ม ฟาดคู่แข่งไปได้ทั้ง 3 เรื่อง แต่ละครยังไม่จบ มาเอาใจช่วย และลุ้นไปพร้อมๆ กันว่า ทั้ง 3 เรื่องจะนำพาเรตติ้งไปหยุดอยู่ที่เท่าไหร่
