เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

หลังจากที่ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เผยผ่านเฟซบุ๊กว่า U.S. Embassy Bangkok ได้ส่งวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสที่บริจาคโดยสหรัฐเดินทางถึงไทยแล้ว ประเด็นเรื่องการที่บุคลากรทางการแพทย์จะได้รับวัคซีนก่อนเป็นอันดับแรกทุกๆท่านไหม ก็ยังคงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กอง MUT ลั่น ใครด่าอแมนด้า เตรียมรับหมายศาล มิส สน.

อแมนด้า ขอฟาดกลับคอมเมนต์แซะแรง!!!

31/07/64 อแมนด้า ออบดัม ได้โพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัว Amanda Obdam ด้วยความยาวของข้อความที่ยาวประมาณนึงว่า “หากเรียงลำดับความเสี่ยง การที่ได้รับวัคซีน Sinovac หรือ AstraZeneca เพียงเข็มเดียวย่อมมีความเสี่ยงมากกว่าคนที่ได้รับ Sinovac 2 เข็มอยู่แล้ว
และการฉีดวัคซีนต่างชนิดโดยมี mRNA เป็นเข็มที่ 2 ก็มีการทำอย่างเป็นระบบแล้วในหลายประเทศ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าสร้างภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี

จึงอยากทราบเหตุผลว่าทำไมบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีนเพียงเข็มเดียว จึงไม่เข้าเกณฑ์ที่จะได้รับวัคซีน Pfizer ในครั้งนี้

และถ้ายึดตามเกณฑ์ต่อไปนี้ จะเหลือบุคลากรทางการแพทย์กี่คนที่เข้าเกณฑ์ คิดเป็นสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ของบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมด?

จำเป็นต้องสำรองมากถึง 40,000 โดส? ทั้งที่ยังจะมีวัคซีนบริจาคตามมาอีก 1 ล้านโดส และที่ลงนามสั่งซื้อไปแล้วอีกกว่า 10 ล้านโดส

จำเป็นต้องกันไว้เพื่อวิจัยมากถึง 5,000 โดส? ในช่วงเวลาวิกฤติแบบนี้

จำเป็นต้องกันไว้มากถึง 150,000 โดส? เพื่อคนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งๆ ที่มีบุคลากรทางการแพทย์บางคนในประเทศยังไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว

ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน และน่าผิดหวัง”

ซึ่ง สาวอแมนด้า ได้แชร์ข้อมูลที่ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ลงรายละเอียดเกี่ยววัคซีนไฟเซอร์ไว้ในเฟสบุ๊คส่วนตัว หลังจากนั้น สาวอแมนด้า จึงได้แสดงความคิดเห็นกับข้อมูลเหล่านี้