เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ออกหมาย!เรียก หนุ่มหัวร้อน ขับรถปาดหน้าพ่อแม่ “ไวท์ ณวัชร์” และตอบชัด เรื่องผู้ใหญ่เบื้องหลัง?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 ส.ค. 2564 นายณวัชร์ หรือ ไวท์ พุ่มโพธิงาม ดารานักแสดงหนุ่ม พร้อมด้วยนายสุรศักดิ์ พุ่มโพธิ์งาม อายุ 58 ปี บิดา และ น.ส.นฤมล อริยานุวัฒน์ อายุ 47 ปี มารดาเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมในถูกชายหนุ่มหัวร้อนขับรถเก๋งแคมรี่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้ามารดาของดาราหนุ่มขณะเข้าช่วยระงับเหตุการณ์ระหว่างที่กำลังมีปากเสียงและทำร้ายกัน

โดยนายสุรศักดิ์ บิดาของดาราหนุ่ม กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาหนุ่มคู่กรณีคนดังกล่าวยังเข้ามาคอมเม้นท์ในไอจีของลูกชายตน ทำนองว่า คิดว่าขับรถดีแล้วใช่ไหม เห็นขับรถเลาะไปมาแบบนี้ เลยอดใจไม่ได้ต้องตามไปสั่งสอน มีคลิปกล้องหน้ารถเป็นหลักฐานยืนยันซึ่งเรื่องคลิปจากกล้องหน้ารถที่คู่กรณีอ้างว่ามีนั้น ตนเองก็ไม่รู้มาก่อนว่ามีจริงหรือไม่จริง ซึ่งถ้ามีจริงก็ให้เปิดเผยออกมาได้เลย จะได้รู้ว่าใครถูกใครผิดก็ว่ากันไป ตนยอมรับระหว่างที่ขับรถปกติก็มีขับรถเลาะไปมาตามปกติอยู่แล้ว

แต่พอมาถูกรถคู่กรณีไล่กวดก็ต้องพยายามขับหนีเหมือนกัน จึงอาจจะทำให้กล้องบันทึกหน้ารถเขาเห็นว่าตนขับขี่รถหวาดเสียว แต่ก็จะได้พิสูจน์เหมือนกันว่า เขาขับรถจี้ท้ายรถตนด้วยเช่นกันใช่ไหม ถ้ามีคลิปให้แสดงออกมาได้เลย”ถ้าผมเป็นฝ่ายผิดก็พร้อมจะยอมรับ แต่จากพฤติกรรมที่เขาทำเหมือนเขาจงใจมาหาเรื่องมากกว่า โดยที่ผมก็ยังไม่รู้ว่ามีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่”

ทางด้านไวท์ พุ่มโพธิงาม ดารานักแสดงหนุ่ม ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวกับผู้สื่อเพียงสั้นๆ ว่า ในตอนนี้ยังไม่ได้เข้าแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทใดๆกับคู่กรณี เพราะต้องการดำเนินคดีในส่วนของพ่อกับแม่ให้เสร็จสิ้นก่อน ซึ่งทางทนายความจะช่วยตรวจสอบในเรื่องสำนวนคดีให้ส่วนประเด็นที่ถูกคุกคามเพิ่มเติมให้เข้าไปดูที่ในไอจีของตน เรื่องคลิปหลักฐานที่กล่าวหาว่าพ่อตนขับรถเร็วนั้น ตนก็ยังไม่เห็น หากว่าพ่อของตนจะขับรถเร็ว เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายร่างกายพ่อกับแม่ตนแบบนี้

ทางด้าน พ.ต.อ.ศิวัช ศรีวิชัย ผกก.สภ.บางกรวย กล่าวเปิดเผยว่า ตนได้เรียกพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีมาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่มีตำรวจโทรไปห้ามให้ผู้เสียหายไปออกสื่อหรือให้ข่าวแล้ว เป็นเหตุสื่อสารเข้าใจผิดพลาดกันเนื่องจากพนักงานสอบสวนได้โทรไปแจ้งให้ผู้เสียหายมาเข้าให้ปากคำต่อหลังวันเกิดเหตุได้มาลงบันทึกประจำวันไว้ในเบื้องต้น เนื่องจากพนักงานสอบสวนต้องส่งตัวผู้เสียหายทั้งสองคนไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อนำผลตรวจมาใช้ในการประกอบสำนวนคดี จึงมีการโทรตามนัดหมายมาเข้าให้ปากคำสอบสวน