เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
ปิดตำนานดาวค้างฟ้า “กิ่งดาว ดารณี”นักแสดงอาวุโส
อดีตคู่ชีวิตที่ #มิตรชัยบัญชา รักมากที่สุด สิริอายุ81 ปี
ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของ นักแสดงอาวุโส พี่อ๊อด-กิ่งดาว ดารณี ถึงแก่กรรมโดยหลับไปอย่างสงบตอนตีหนึ่ง วันที่11ส.ค.2564 อายุ81ปี
ซึ่งก่อนหน้านั้นพี่อ๊อดกิ่งดาว ล้ม ไหล่หัก เข้าเฝือก เคลื่อนไหวช้า พูดเบาลง ทานได้น้อย อ่อนเพลีย แต่ไม่หลงลืม
โดยมีพี่เลี้ยงของลูกสาว(น้องแอ๊น) ชื่อคุณสุระ เป็นคนคอยดูแล คุณปาน น้องชายคุณพิชัย สามีพี่อ็อด เป็นคนจัดการทั้งหมด ส่งศพไปตรวจ ที่โรงพยาบาลตำรวจ(เพื่อเช็คว่าไม่เป็นโควิด )จากนั้นจัดพระสงฆ์ไปรับศพ มาไว้ ที่วัดบำเพ็ญเหนือ มีนบุรี
วันศุกร์ที่ 13 ส.ค. 17.00น.
สวดอภิธรรม
วันเสาร์ที่ 14 ส.ค.14.00น.ฌาปนกิจ
โดยพิธีสวด น้องแอ๊นลูกสาวที่อยู่อเมริกา กับ อาปาน เป็นเจ้าภาพ พร้อมครอบครัว จินตวร ครอบครัว เวทวิสุทธ ครอบครัว พัฒนพงศ์ เป็นเจ้าภาพร่วม
พี่อ๊อด-กิ่งดาว ดารณีอดีตดาวค้างฟ้าอีกหนึ่งคนที่ต้องเรียกว่าเป็นนางเอกสาวในอดีตที่หลาย ๆ คนในยุค 80 รู้จักกันเป็นอย่างดี
พี่อ๊อด-กิ่งดาว เป็นชาวสุราษฎร์ธานีครอบครัวเป็นเจ้าของโรงเรียนจินตวรศึกษา
เริ่มชีวิตในวงการบันเทิง เมื่อเรียนจบชั้น ม.ศ.5 แล้วสอบเข้ามหาวิทยลัยไม่ติด ช่วงระยะ 1 ปีที่รอจะสอบใหม่อีกครั้งเธอจึงคิดจะหารายได้แทนการขอเงินที่บ้านใช้อย่างเดียว
แล้วเธอก็ได้งานเป็นพรีเซนเตอร์ประจำของบริษัทโฆษณาจากต่างประเทศแห่งหนึ่งหลังจากนั้นก็มีผลงาน โฆษณามากมาย อาทิ โฆษณาน้ำหอม, ผงซักฟอก, ปาล์มโอลีฟแชมพู เป็นต้น
ซึ่งผลงานทางการแสดงของเธอในหนังเรื่องแรกคือ ตุ๊กตาพเนจร ในปี 2505 โดยเธอนั้นเป็นนางรองที่มีชื่อเสียงของวงการหนัง และเป็นนางเอก มีผลงานการแสดงค่อนข้างมาก อาทิ จอมคน (2512), แก้วแก่นกล้า (2512),สมิงจ้าวท่า (2512), เพชรแท้ (2512), แท็กซี่ (2511), สัญชาติชาย(2511), เทพธิดาบ้านไร่ (2510), แหลมหัก (2510), เป็นต้น
และก้าวเข้ามาเป็นนางเอกชื่อดังของวงการละครโทรทัศน์ ซึ่งทางด้านชีวิตส่วนตัว และชีวิตรักเพื่อนพ้องในวงการยุคนั้นก็พอจะทราบกันบ้างว่า พี่อ๊อดกิ่งดาวได้คบหาดูใจกับพระเอกชื่อดังที่สุดของยุค “มิตร ชัยบัญชา’ โดยใช้ชีวิตคู่ร่วมกันฉันท์สามีภรรยา(2506 – 2512)
ซึ่งถึงแม้ว่าทั้งคู่จะไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะสักเท่าไหร่ (เพราะยุคนั้นการที่พระเอก นางเอกมีคู่จะไม่ได้รับความนิยม) แต่คนในวงการบันเทิงก็ทราบกันดี
ซึ่งทั้งคู่ก็มีงานแสดงละครที่ได้เล่นด้วยกันหลายเรื่อง โดยผลงานเรื่องสุดท้ายก่อนที่ ‘มิตร ชัยบัญชา’ จะได้จากไปและเป็นเรื่องสุดท้ายที่พี่อ๊อด-กิ่งดาว แสดงละคร ก่อนจะลาจากจอไป นั่นคือเรื่อง แม่นาคพระนคร (2513) โดยช่วงที่ทั้งสองใช้ชีวิตคู่กัน ‘กิ่งดาว’ จะแสดงในหนังที่มี’มิตร’เป็นพระเอกเป็นส่วนใหญ่ เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปถ่ายทำ
ซึ่งทั้งคู่ตัดสินใจแยกทางในปี 2512 เมื่อ’มิตร’ตัดสินใจที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งและตัดสินใจก้าวเข้าสู้เส้นทางการเมือง ทั้งๆ ที่เคยให้สัญญาไว้ ว่าจะเลิกเล่นการเมือง จนในที่สุดทั้งคู่ก็ตัดสินใจแยกทางกัน
หลังจากแยกทางกัน พี่อ๊อด-กิ่งดาว ก็บินไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ และไม่ได้พบหน้ากันอีกเลย
จน’มิตร ชัยบัญชา”ได้จากไปเพราะอุบัติเหตุเครื่องตกในการถ่ายทำภาพยนตร์ ในปี 2513 ซึ่ง หลังรับทราบข่าว “กิ่งดาว’ ก็หัวใจสลายและบินด่วนเพื่อกลับมาร่วมงานไว้อาลัยในพิธีศพ
ซึ่งว่ากันว่าหาก “มิตร ชัยบัญชา’ หากไม่ลงสมัครในครั้งนั้น ก็เป็นไปได้ว่าทั้งคู่จะมีชีวิตรักที่ยืนยาวและ ‘กิ่งดาว’ เองก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่ ‘มิตร’ รักมากที่สุดอีกด้วย
หลังจบจากอังกฤษ พี่อ๊อดกิ่งดาวก็ทำงานประจำเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคล โรงแรมแอมบาสเดอร์สุขุมวิท
ช่วงหลังๆพี่อ๊อด กิ่งดาว ไม่รับงานแสดงแต่เริ่มงานเขียนบันเทิงเรื่องราวชีวิตในวงการบันเทิง โดยนำลงเป็นตอนๆให้ติดตามอ่านในนิตยสารดาราภาพยนตร์ และต่อมาได้มีการรวมเล่มเป็นพ็อกเก็ตบุค (ประมาณปี2543) โดยได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากแฟนคลับ
ชีวิตช่วงหลังเธอใช้ชีวิตสงบไม่รับงานแสดง โดยออกงานบ้างเป็นครั้งคราว
หมายเหตุ ข้อมูลบางส่วนจาก #บันทึกชีวิตรักมิตรชัยบัญชา ผลงานเขียนของพี่อ๊อด-กิ่งดาว ดารณี ลงตีพิมพ์ในนิตยสารดาราภาพยนตร์
“ขณะที่เริ่มเขียน บันทึกชีวิตรัก มิตร ชัยบัญชา ได้สองสามบท พี่เชษฐ์มาปรากฏตัวยืนข้าง ๆ เตียง หยิบข้อเขียนที่วางบนโต๊ะหัวเตียงขึ้นพิจารณา พูดด้วยใบหน้ายิ้มอย่างมีความสุขว่า
“หนังสือเล่มนี้พี่เป็นพระเอกอีกใช่ไหม”
ผู้เขียนพยักหน้าทั้งน้ำตา เป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม ที่พี่เชษฐ์ได้รับรู้และยินยอมให้เรื่องราวต่าง ๆ ปรากฏสู่สายตาประชาชน เท่ากับเป็นการอนุญาตให้หนังสือเล่มนี้อยู่ภายใต้การจัดทำของคุณมนทิรา จูฑะพุทธิ ผู้ซึ่งเคยรู้จักและพบปะกับพี่พิเชษฐ์ขณะมีชีวิตอยู่
และนี่คือใบอนุญาตที่ไม่ต้องขอจากใคร เพราะพี่เชษฐ์ หรือ มิตร ชัยบัญชา
ได้เลือกแล้วว่าใครเป็นผู้เหมาะสมในการสร้างสรรค์และเผยแพร่เรื่องราวที่นับได้ว่าเป็นความลับมาถึง 30 ปีเต็ม”
ขอบคุณข้อมูลFB.ดาราภาพยนตร์