“ศานิตย์” เผยนักเรียนนักเลงยิงกันในพื้นที่บางชัน และมีนบุรี ดับ 1 ราย บาดเจ็บอีก 4 ราย รู้ตัวคนร้ายแล้วคาดจับได้ ทั้งหมด ชี้ผู้ยุยงส่งเสริมและผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยมีความผิดร่วมด้วย สั่งทุกโรงพักเก็บประวัตินักเรียนนักเลงและเด็กแว้นส่งข้อมูลให้ผู้ปกครองส่งตัวมาตักเตือน ด้าน “บิ๊กตู่” วอนสังคมปลุกจิตสำนึกนักเรียนตีกันเย้ย ม.44 ส่วน “ดาว์พงษ์” เล็งจับเข้าค่ายทหารสลายพฤติกรรม ขณะที่ กอศ.ขู่ใช้ยาแรงสถาบันใดที่มีนักเรียนก่อเหตุซ้ำซากให้งดรับ นศ.ใหม่ในปีถัดไป
ทุกฝ่ายเร่งแก้ปัญหานักเรียนตีกัน เผยขึ้นเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 28 มิ.ย. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เผยถึงกรณีนักเรียนยิงกันในพื้นที่ สน.บางชัน และ สน.มีนบุรี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 4 ราย ว่ารู้ตัวผู้ก่อเหตุคาดจะจับได้ทั้งหมด อยากฝากไปถึงผู้ปกครอง อาจารย์ หรือรุ่นพี่ขณะนี้มีประกาศ คสช.ฉบับที่ 30/2559 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียนและนักศึกษา หากมีข้อเท็จจริงฟังได้ว่ามีการปล่อยปละละเลย หรือไปยุยงส่งเสริมจะต้องมีความผิดถึงผู้ปกครองด้วย นอกจากนี้ ยังให้ทุกสถานีตำรวจจัดทำประวัติ นักเรียนนักเลงและเด็กแว้น ส่งหนังสือถึงผู้ปกครอง หรืออาจารย์ให้ส่งตัวมาเพื่อจะได้ตักเตือน
ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.น.3 พร้อมกำลังเข้าตรวจค้นหาอาวุธและสิ่งผิดกฎหมาย ภายในวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก มหานคร ถนนคุ้มเกล้า แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. ที่มีนักเรียนตกเป็นผู้ต้องสงสัยใช้ปืนยิงใส่รถประจำทาง มีผู้บาดเจ็บ 4 คน พล.ต.ต.ชัยพร กล่าวว่า ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ต่อไปจะเข้าตรวจค้นในทุกโรงเรียนเป้าหมาย นอกจากนี้ตำรวจจะเชิญอาจารย์มาสร้างความเข้าใจ และคัดกรองนักเรียนตามโครงการประชารัฐร่วมใจ เพื่อลดความขัดแย้ง และให้ตำรวจทั้ง 11 สน.ของ บก.น.3 เน้นตรวจค้นทุกสี่แยก ทุกจุด ที่พบนักเรียนรวมกลุ่มกันทั้งช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน และตอนเย็นหลังเลิกเรียนทุกวัน โดยจะเน้นหนัก 4 พื้นที่ที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง คือ สน.มีนบุรี สน.นิมิตรใหม่ สน.หนองจอก และ สน.ร่มเกล้า
อีกด้านเมื่อเวลา 17.00 น. พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.น.8 พร้อมกำลังจับกุมนายกฤษฎา ลาธิ อายุ 19 ปี และ น.ส.โอ๋ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ทั้ง 2 คน เป็นนักศึกษา ปวช.ปี 3 วิทยาลัยแห่งหนึ่ง ย่านท่าพระ พร้อมของกลางปืนปากกาขนาด .22 พร้อมกระสุน จับกุมได้ขณะทั้งคู่นั่งรถเมล์สาย 101 สีครีมแดง วิ่งระหว่างพุทธมณฑลสาย 2-พระราม 2 ทะเบียน 11-9222 กรุงเทพมหานคร ที่ด่านจราจรบริเวณปากซอยรัชดา (ท่าพระ-ตากสิน) 12 แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม. แจ้งข้อหาร่วมกันมีและพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่ง พงส.สน.บุคคโล ดำเนินคดี ส่วนกลุ่มเพื่อนถูกทำประวัติ และประสานผู้ปกครองมารับตัวกลับไป
ขณะที่นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาการลงโทษเด็กทำได้แค่ตักเตือน ทำทัณฑ์บน ตัดคะแนนความประพฤติ และปรับพฤติกรรม ส่วนความผิดอาญาเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องใช้กฎหมายอย่างจริงจัง หลังเกิดเหตุต่อเนื่อง สอศ.กำลังพิจารณาใช้มาตรการหากสถานศึกษาใดยังปล่อยให้เกิดเหตุซ้ำซาก จะมีคำสั่งให้งดรับนักศึกษาใหม่ในปีถัดไป ขณะนี้มีวิทยาลัยทั้งรัฐและเอกชน 5 แห่งที่ถูกจับตาว่าจะใช้มาตรการดังกล่าว
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวว่า พวกเราต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจในเรื่องของกฎหมาย ให้ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายอันเดียวกัน แม้ตนจะเข้ามาแบบนี้จะเห็นว่าไม่ได้ใช้กฎหมายไปทำร้ายคนดี คนจะเดือดร้อนคือคนที่ทำผิดกฎหมาย ตั้งใจทำผิด อยากจะบอกว่าอยู่ที่จิตใต้สำนึก คำว่าจิตสำนึก สื่อมวลชน สังคมโซเชียลมีเดีย ครอบครัวผู้ปกครอง เพื่อนฝูงทั้งหมด ต้องช่วยกันสร้างและนำสังคมกลับมาสู่สังคมที่ปลอดภัย แต่วันนี้ทุกคนยังไม่เกรงกลัวกฎหมาย มาตรา 44 ออกไปก็ยังตอบโต้อยู่
ส่วน พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า มาตรา 44 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาเด็กทะเลาะวิวาทตามคำสั่งหัวหน้า คสช. มีไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความอดทน หาหนทาง มาตรการอะไรที่ยังอ่อนก็ต้องทำให้เข้มแข็งขึ้น เด็กที่ก่อเหตุความรุนแรงจะให้เข้าค่ายทหารสลายพฤติกรรมที่สัตหีบ จ.ชลบุรี เชื่อว่าจะดีขึ้นแน่ ส่วนเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น เราเสียใจ ประชาชนที่โดนลูกหลงเราก็เป็นห่วง แต่อย่างที่บอกมาตรา 44 ไม่ใช่ออกมาแล้วทุกอย่างจะหยุด เมื่อถามว่าเมื่อมีมาตรา 44 แล้วทำไม ไม่ใช้แก้ปัญหาให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด พล.อ.ดาว์พงษ์ ตอบว่า อยากจะทำ แต่ต้องนึกถึงเด็กด้วย
ที่มา – http://www.thairath.co.th/
by TVPOOL ONLINE