ไตรมาสสุดท้ายของปี ที่คนบันเทิงยังยิ้มไม่ออก

     เข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี สถานการณ์โควิด 19 ยังไม่ดีขึ้น ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเกินล้านคนไปแล้ว ยอดผู้เสียชีวิตกำลังขยับเข้าสู่หลักหมื่น มองไปที่มาตรการป้องกันและรักษาชีวิตคนไทยจากผู้บริหารประเทศที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง ก็ยังวังเวงใจ ไม่เพียงบกพร่องกับการทำหน้าที่ ยังบกพร่องเรื่องความน่าเชื่อถืออีกต่างหาก การประสานงานของทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง กลายเป็นการประสานงาขัดแย้งกันไปมา

     ประชาชนได้แต่ส่ายหน้าด้วยความระอา เพราะถูกยัดเยียดทุกครั้งว่าเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดที่ยังไม่ยอมหยุดเพราะคนไทยประมาท ทั้งๆที่เสียสละกันมามากแล้ว ได้ยินแล้วก็โกรธ แต่ก็ต้องห้ามใจตัวเองเองกันไว้ พร้อมท่องคาถาปลอบใจตัวเองว่า ช่วยเหลือตัวเองดีกว่าให้คนไม่มีปัญญามาช่วยเรา อึดอดทนไว้ให้ได้ เซฟตัวเองให้ดีที่สุด

     แวดวงบันเทิงที่ได้รับผลกระทบมากมายไม่แพ้ใคร ละครรีรันเอาของเก่ามาวนออกอากาศใหม่ยังเกลื่อนจอ กองถ่ายยังต้องถ่ายกันแบบลักปิดลักเปิด งานบันเทิง งานอีเวนท์ให้เดินสายไม่เหลือหรอ วงการภาพยนตร์โรงหนังปิดตายมายาวนาน นักร้องนักดนตรีไม่มีที่ทำมาหากิน  กิจการอาชีพเสริมคนบันเทิงปิดตัวระนาว บางคนถึงขั้นขายรถขายบ้านใช้หนี้

     ก็ไม่แปลกใจที่ กระแสเสียง Call Out จะดังสนั่น แทบทุกเสียงจากคนบันเทิงมองเห็นต้นตอของปัญหาว่าอยู่ตรงไหน?  อยู่ที่ใคร? ต้องทำอย่างไร? ให้ปัญหาได้ถูกแก้ไข บรรยากาศอึมครึมจะได้ทุเลาลงไปได้บ้าง

      แต่ก็มีอีกบางเสียงของคนบันเทิงไม่ดูทิศทางลม ไม่มองอนาคตไกลๆ ก็ขนาดตัวเองได้รับผลกระทบเต็มๆ ขนาดนี้ แต่ก็ยังไว้ใจ เชื่อใจ แบกกัน อุ้มกันเข้าไปได้ มองไม่เห็นความทุกข์ของพี่น้องผองเพื่อนและคนไทยกันเลยหรือ? แถมยังมีบางคนออกอาการระรานคนเห็นต่าง เปิดหน้าทำสงครามน้ำลายกับเพื่อนฝูงคนกันเองที่คิดไม่เหมือนตัวเอง จนถูกกระแสสังคมกดดัน ต้องออกมาขอโทษขอโพยออกสื่อเสียหน้าเสียฟอร์มกันไปเลย

     นี่ก็เป็นเพราะ ไม่มองกระแสสังคม ไม่มองเห็นความเป็นจริงที่เกิดขึ้น แต่กลับหลับหูหลับตายืนยันตามความเชื่อผิดๆของตัวเอง

     ทีวีพูล ฉบับที่ 1472 ประจำเดือนตุลาคม มาพร้อมหน้าปกนางเอกตัวท็อปของวิกหมอชิต นาว-ทิสานาฎ ศรศึก ที่พลิกบทพลิกลุคส์เปรี้ยวปรี๊ดเซ็กซี่ร้อนจอในละครรีเมคกระแสฮอท แม่เบี้ย ประกบพระเอกพ่อลูกอ่อน เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์