จากกรณีดราม่าสาวรายหนึ่งขายกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อHermes ของตัวเอง ให้กับทางร้านที่รับซื้อ ก่อนจะตกลงราคาและซื้อขายกัน ปรากฏว่าพอทางร้านได้รับของกลับบอกว่า กระเป๋าที่เธอเอามาขายเป็นของปลอม ก่อนจะมีเรื่องมีราวกัน โดยที่ทางเจ้าของร้านถึงกับประกาศลั่นว่า หากตรวจแล้วว่าเป็นของจริง จะโอนเงินให้ 2 ล้าน พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น สรพงษ์ และจะเลิกเป็นสาวสองในทันที
แต่เมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.) ทางเจ้าของร้าน ได้โอนเงินค่ากระเป๋าให้สาว 3 แสน 9 หมื่น 5 พันบาท แต่เจ้าของกระเป๋าไม่รับพร้อมบอกจะรอข้อพิสูจน์ว่าจริง
ล่าสุด วันนี้ (18 ธ.ค. 64) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สถาบัน The Catch fake Brandname อยู่ในหมู่บ้านลานทอง ต.บางพูดอ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นสถาบันสอนดูกระเป๋าแบรนด์เนมที่แรกของประเทศไทย และได้พูดคุยถึงเรื่องนี้ กับ น.ส.สุนิสา เอกวิทยาเวชนุกูล / นายพิชญ์พงศ์ กิจพิทักษ์ และนายชานนท์ แตงโสภา ครูผู้สอนและเป็นผู้ก่อตั้งสถาบัน
โดย น.ส.สุนิสา หรือ คุณครูเจี๊ยบ บอกว่า ก่อนที่จะเป็นข่าวทางตำรวจได้โทรมาสอบถามเรื่องกระเป๋าที่มีการแจ้งความไว้ แต่ทางตำรวจไม่ทราบว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร จะต้องมีใบประกอบรับรองว่าเป็นกระเป๋าแท้ แต่คนที่จะดูขาดว่ากระเป๋าเป็นของแท้หรือไม่จะต้องเป็นตัวแทนสิทธิเท่านั้น เบื้องต้นจึงอยากให้ทางสถาบันเราออกไปให้ก่อน
วันนี้จึงได้นำกระเป๋ามาตรวจและในวันพรุ่งนี้จะส่งคืน ซึ่งตามข้อมูลและตามตำราที่เราสอนมาใบนี้มองว่าเป็นของแท้ แต่ก็ต้องรอผลตรวจจากทางอเมริกาอีกทีที่ได้รับความเชื่อถือ ผลจะออกช่วงเย็นในวันนี้ (18 ธ.ค. 64) และจะมาพร้อมใบประกอบ
ทั้งนี้ คุณครูเจี๊ยบ บอกอีกว่า การดูกระเป๋าจะต้องดูหลายวิธี อาจจะต้องใช้ไฟช่วยส่อง และดีเทลต่างๆ ซึ่งทางสถาบันก็เจอเคสปลอมมาเยอะมาก และทางเราก็จะออกใบให้ตามความเป็นจริง
ทั้งนี้กระเป๋าของคุณชมพู่ใบนี้ยังพบรอยปากกาที่ติดอยู่ ถือว่าเป็นตำหนิราคาก็จะตกลงพอสมควร หายไปครึ่งต่อครึ่ง จริงๆแล้ว ไม่สมควรที่จะขีดเขียน พร้อมกับยืนยันว่าทางสถาบันไม่ได้รู้จักกับทั้งสองเป็นการส่วนตัว และสถาบันเป็นคนกลางในการตรวจในครั้งนี้
ล่าสุด เพจทนายชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความพร้อมเรื่องราวเพิ่มเติมว่า..
ขณะที่ คุณณภาภัช ระหงษ์ เจ้าของร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “ขอกราบขอบพระคุณ ช่อง อัมรินทร์ทีวี และคุณพุทธอภิวันท์ ที่พาทัวร์มาลง ทำให้ร้านดูมีสีสัน หยิบอะไรมาก็ขายได้ทุกชิ้น ตั่งแต่หลักหมื่นไปถึงครึ่งล้าน ที่สำคัญเรามีของแจกให้กับลูกทัวร์ ทัวร์คุณพุทธ ขอแบบเดิมเลยนะคะ ลูกค้าที่แสนรักทัวร์ก็แสนดี น่ารักมากค่ะ” ซึ่งจากโพสต์ดังกล่าว หากเขียนอย่างถูกต้อง น่าจะหมายถึง “ช่องอมรินทร์ ทีวี” และ “คุณพุทธ อภิวรรณ” หรือไม่ เนื่องจากแนบรูปและโลโก้ของช่องอมรินทร์ ทีวี


ด้านพุทธ อภิวรรณ ผู้ประกาศข่าวรายการทุบโต๊ะข่าว อมรินทร์ ทีวี เอชดี ช่อง 34 กล่าวว่า ทีหลังเวลาจะเลือกรูป เอาผอมกว่านี้หน่อย รูปนี้มันรูปเก่า เผื่อคุณสรพงษ์จะไม่ทราบ และให้ใช้ภาพผมจากหน้าจอวันนี้ได้เลย เพราะจะผอมกว่า เผื่อว่าคุณสรพงษ์จะเอาภาพผมไปขยายต่อได้อีก

“อย่างแรกคือผมไม่มีอำนาจจะพาทัวร์ไปลง อย่างที่สองคือขอบคุณที่ชมว่าน่ารัก อยากบอกว่าถ้าคุณขายของได้ก็ยินดีด้วย แต่ขณะเดียวกัน สิ่งที่เราอยากรู้เลยก็คือจะรับผิดชอบกับคำพูดยังไง ผมไม่มีเจตนาจะพาทัวร์ไปลง เพราะกิจการค้าขายถ้ามีความซื่อสัตย์ มันขายได้ตลอดชีวิต ผมยืนยันคำเดิมว่าเราทำหน้าที่ของสื่อฯ เราฟังความทั้งคู่อย่างรอบด้าน ไม่มีอคติใด ๆ ทั้งสิ้น ยินดีกับคุณสรพงษ์ที่ค้าขายดีขึ้น และยินดีกับนางสาวจิดาภาที่มีหลักฐานดำเนินคดีได้”

by TVPOOL ONLINE