จากกรณีเด็กชาย อายุ 6 ขวบ เสียชีวิตปริศนาในรถเก๋ง บริเวณหมู่บ้านใน อ.แหลมงอบ จ.ตราด สภาพศพมีเลือดออกที่จมูก โดยแม่ของเด็กที่ตายไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการสอบสวน ส่วนทางพ่อเลี้ยงอ้างว่าลูกปวดหลัง ให้นอนบ้านไม่ได้ อีกทั้งยังมีชาวบ้านออกมาแฉว่า แม่ของเด็กเชื่อไสยศาสตร์และให้ลูกอยู่ในรถมาเป็นปีแล้ว ตามที่ข่าวนำเสนอไปแล้วนั้น
ผลการชันสูตรศพเบื้องต้นจากโรงพยาบาลตราด พบว่าตามร่างกายมีรอยฟกช้ำ กะโหลกศีรษะร้าว แขนและขาหัก ส่วนอวัยวะภายในอยู่ระหว่างตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ด้าน พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด เปิดเผยว่า ยังไม่ได้ตั้งข้อหากับพ่อเลี้ยง หรือ แม่ของเด็ก ซึ่งจะต้องรอผลอย่างละเอียดอย่างเป็นทางการ และยังคงต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากพ่อเลี้ยงและแม่เด็กยังปฏิเสธ แต่ได้จับกุมตัวพ่อเลี้ยง ในข้อหายาเสพติดไว้
ข่าวที่่น่าสนใจ
จากกรณีที่ตำรวจ สภ.แหลมงอบ เข้าตรวจสอบศพเด็กชายวัย 6 ขวบ เสียชีวิตปริสนาภายในรถยนต์เก๋ง ที่หมู่บ้านแหลมทองหลาง อ.แหลมงอบ จ.ตราด โดย นายปัญญา ชัยเชียงเอม อายุ 44 ปี พ่อเลี้ยง และ น.ส.นรินทร์รัตน์ แม่แท้ๆ รวมทั้งญาติๆบอกเป็นเรื่องไสยศาสตร์ เด็กนอนในบ้านไม่ได้ และให้มานอนในรถนานนับปี ซึ่งผู้เป็นแม่บอกอยากให้เรื่องจบๆไป แต่ตำรวจไม่ยอม เนื่องจากเด็กเสียชีวิตผิดธรรมชาติ จึงรับทำคดีชันสูตร ส่งศพเด็กผ่าพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (3 ม.ค. 65) มีรายงานว่า ผลชันสูตรพลิกศพเด็กชายวัย 6 ขวบ ดังกล่าว พบเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกาย มีบาดแผลกะโหลกศีรษะร้าว แขนขาหัก โดยตำรวจ สภ.แหลมงอบ ได้ควบคุมตัวพ่อเลี้ยงสอบปากคำ ทำการตรวจปัสสาวะ พบสารเสติด เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติด ส่วนคดีทำร้ายร่างกายต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนแม่แท้ๆของเด็กถูกปล่อยตัว
อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีอยู่ระหว่างการประชุม ขณะเดียวกันพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ตราด เตรียมนำลูกสาวคนเล็กวัย 11 เดือน ของ นายปัญญา พ่อเลี้ยงต้องสงสัยทำร้ายร่างกายเด็กชาย 6 ขวบ กับ น.ส.น.ส.นรินทร์รัตน์ เข้าบ้านพักเด็กและครอบครัว แต่ยังต้องรอผลการประชุม
ขณะที่ นายกฤษฎา ชัยเชียงเอม อายุ 29 ปี น้องชายของนายปัญญา เดินทางไปเยี่ยมพร้อมนำอาหารไปให้พี่ชายที่ สภ.แหลมงอบ และมีการพูดคุยกับพี่ชายประมาณ 5-10 นาที หลังจากนั้น นายกฤษฎา เปิดเผยว่า เชื่อในความบริสุทธิ์ของพี่ชาย ว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายลูกเลี้ยง และพี่ชายก็ยืนยันกับตนเองว่าไม่ได้ทำร้ายลูกเลี้ยง ซึ่งพี่ชายเองก็มีลูกสาววัย 3-4 ขวบ เช่นกัน และก็ไม่เคยเห็นพี่ชายตีลูกสาวและลูกเลี้ยง ยังตกใจและทำอะไรไม่ถูกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่พี่ชายทำใจแล้วว่าจะต้องติดคุก
ต่อมาเวลา 10.00 น. กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตราด เดินทางมาเก็บหลักฐานเพิ่มเติมจากเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการเก็บหลักฐานที่มีความละเอียดเพิ่มมากขึ้น โดยตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เช่น ทิศทางของพระอาทิตย์ที่ส่องเข้าหารถ แหล่งกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้พัดลมเป่าเข้าหาตัวเด็กที่นอนอยู่เบาะหลัง อุณหภูมิในรถในช่วงก่อนและหลังเปิดพัดลมมีความแตกต่างกันหรือไม่ และเก็บร่องรอยลายนิ้วมือ รวมถึงหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดี เพื่อรวบรวมหลักฐานทั้งหมดทั้งของวันนี้และเมื่อวานนี้ส่งพนักงานสอบสวน เพื่อให้เป็นข้อมูลทางคดีต่อไป
ด้านนายมานัส วรรณิกาพท โต๊ะอิหม่าม มัสยิดนูรุ้ลมูบีน (แหลมทองหลาง) เปิดเผยว่า ในทางศาสนาอิสลามแล้ว ไม่มีความเชื่อด้านไสยศาสตร์ เพราะเป็นเรื่องบาปของศาสนาอิสลาม แต่จะมีพิธีกรรมที่คล้ายกับศาสนาพุทธ คือการสวดบทสวด แล้วเป่าไล่ผี หรืออาการปวด แต่ศาสนาอิสลามจะเป็นการอ่านบทอัลกุรอาน แล้วเป่าแก้ปวดเมื่อย และไล่ผีเช่นกัน แต่ไปทำของใส่ไม่ได้นั้นคือบาป แต่ไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์
ทั้งนี้เวลา 13.00 น. ของวันนี้ พล.ต.ต.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผบก.ภ.จว.ตราด จะเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามคดีอย่างใกล้ชิด เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ และเป็นที่ได้รับความสนใจจากประชาชน จึงต้องทำความจริงให้กระจ่าง และเอาคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย
by TVPOOL ONLINE