บีบีซีรายงานเมื่อ 8 ก.ค. ว่า สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างตำรวจกับชนผิวดำในสหรัฐอเมริกาส่อเค้าลุกลาม เมื่อตำรวจเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ถูกคนร้ายลอบยิงด้วยปืนสไนเปอร์เสียชีวิตทันที 4 นาย จากนั้นเสียชีวิตเพิ่มอีกราย รวมเป็น 5 นาย และอีก 6 นายบาดเจ็บ ระหว่างควบคุมฝูงชนที่ฮือประท้วงเจ้าหน้าที่ยิงชายผิวดำ 2 คนเสียชีวิตในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันทางการท้องถิ่นหลายพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงกรุงวอชิงตัน นครนิวยอร์ก และชิคาโก ตรึงกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อเฝ้าระวังการประท้วงอย่างใกล้ชิด
พ.ต.อ.เดวิด บราวน์ ผู้กำกับการตำรวจเมืองดัลลัส เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่กำลังไล่ล่าคนร้ายอย่างน้อย 3 คน ซึ่งก่อเหตุใช้อาวุธปืนสไนเปอร์ซุ่มยิงตำรวจ เมื่อเวลาราว 21.00 น.ของวันที่ 7 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมเผยแพร่ภาพถ่ายของผู้ต้องสงสัย 1 คนผ่านทางเว็บไซต์ทวิตเตอร์ เป็นชายผิวดำสวมเสื้อยืดลายพรางแบบทหาร และสะพายปืนไรเฟิลพาดบ่า โดยร้องขอให้ประชาชนแจ้งความทันทีที่ผู้พบเห็น เพราะนอกจากเป็นผู้ต้องสงสัยสังหารตำรวจแล้ว ยังข่มขู่ว่าจะระเบิดโจมตีพื้นที่ชุมชนย่านใจกลางเมืองดัลลัสด้วย
ด้านพยานผู้เห็นเหตุการณ์ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ในเครือซีบีเอส ว่า ได้ยินเสียงปืนกึ่งอัตโนมัติดังกระหน่ำมาจากหลังคา หรือดาดฟ้าของอาคารในละแวกใกล้เคียง
ขณะที่คลิปวิดีโอซึ่งบันทึกช่วงชลมุนหลังคนร้ายเปิดฉากยิง แสดงให้เห็นผู้คนตะโกนกรีดร้องอย่างขวัญเสียงและวิ่งแตกตื่นไปทั่ว ต่อมาตำรวจประกาศปิดพื้นที่เสี่ยงรอบจุดเกิดเหตุเพราะยังอยู่ในภาวะอันตรายมีบุคคลติดอาวุธ และเร่งส่งเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วยสวาทเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุแล้ว
วันเดียวกัน ประธานาธิบดีบารัก โอบามา กล่าวระหว่างเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่ประเทศโปแลนด์ กล่าวว่า เจ็บปวดอย่างมากที่ประชาชนมองว่า การเหยียดผิว และการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียม เป็นสาเหตุที่ทำให้เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น
“เราดีกว่านี้ นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องผิวดำ หรือชาวฮิสแปนิกเท่านั้น นี่คือปัญหาที่อเมริกันต้องจัดการ”
ที่มา – http://www.khaosod.co.th/