แกนสับปะรด ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมรับประทานกัน เพราะรสชาติไม่อร่อยๆ ไม่หวานฉ่ำเหมือนเนื้อสับปะรด อีกทั้งยังแข็งกินยาก แกนสับปะรดจึงมักถูกโยนทิ้งลงถังขยะอย่างไร้ค่า แต่เพื่อนๆ รู้กันมั้ยคะ ว่าแกนสับปะรดนี้มีประโยชน์มากกว่าเนื้อสับปะรดซะอีก!!
เพราะแกนสับปะรดเป็นแหล่งสะสมสารอาหารของสับปะรด โดยเฉพาะสารเอนไซม์บรอมีเลน (BROMELAIN) ที่มีอยู่ในทุกส่วนของสับปะรด แต่พบในส่วนแกนมากที่สุด ซึ่งสารนี้มีประโยชน์มากมาย คือ
1.มีฤทธิ์ช่วยย่อยอาหาร ถ้ามื้อไหนทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์เข้าไปมาก ๆ จนจุกเสียด แน่นท้อง ให้ทานสับปะรดเข้าไปหลังรับประทานอาหารจะช่วยลดอาการเหล่านี้ได้
2.ช่วยสมานแผลและลดการอักเสบของกระเพาะอาหารและลำไส้ เพราะเอนไซม์บรอมีเลนมีฤทธิ์เป็นยาฆ่าเชื้ออ่อน ๆ คอยทำลายแบคทีเรียที่ไม่มีประโยชน์
3.ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ มีกากใยมาก จึงช่วยแก้ท้องผูกได้ แต่ก็ไม่ควรทานมากไป เพราะจะทำให้ท้องเสียแทน
4.มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา แก้นิ่ว
5.ลดอาการปวดข้อ ข้ออักเสบ หลังจากออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาหนัก ๆ
6.ป้องกันการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด อัมพฤกษ์ อัมพาต เพราะเอนไซม์บรอมีเลนจะไปช่วยลดการเกาะกันเป็นลิ่มเลือดของเกล็ดเลือด
7.เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย ต่อต้านโรคมะเร็ง นั่นเพราะบรอมีเลนจะทำให้เม็ดเลือดขาวหลั่งสารไซโตไคน์ ที่ทำให้เม็ดเลือดขาวกำจัดเซลล์มะเร็งได้ ช่วยลดโอกาสเกิดโรคมะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่
8.กระตุ้นฮอร์โมนเพศชาย ช่วยเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรน ถือเป็นยาบำรุงกำลังชั้นดีให้คุณผู้ชาย
9.บรรเทาโรคเกาต์ได้ โดยทานสับปะรด 1/4 ผล (ขนาดเล็ก) วันละ 2-3 ครั้ง หลังอาหาร 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อให้เอนไซม์บรอมีเลนช่วยต้านการอักเสบ ลดความเจ็บปวดจากการอักเสบ
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ต่อไปเวลารับประทานสับปะรดกัน ก็อย่าทิ้งแกนนะคะ แต่ให้ทานไปพร้อมกับเนื้อสับปะรดเลย เพื่อนๆจะได้รับประโยชน์มากๆค่ะ แต่ก็ควรระวังอย่าทานสับปะรดเวลาท้องว่างนะคะ เพราะในสับปะรดมีเอนไซน์ค่อนข้างมาก อาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ค่ะ
ที่มา – http://www.deedaily.com/
by TVPOOL ONLINE