เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เกิดอุบัติเหตุจยย.ชนกันคู่กรณีเป็นสายตรวจ สน.เพชรเกษม กับกลุ่มวัยรุ่นที่ขี่ซ้อนสาม ชาย 2 หญิง 1 เสียชีวิตทั้งหมด ฝ่ายตำรวจบาดเจ็บ 2 สาเหตุจากเรียกตรวจแล้วอีกฝ่ายท่ีมากับกลุ่มแว้นกว่า 10 คันพยายามหนี อ้างไม่ได้ซิ่งแค่พากันไปไหว้พระ…

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 10 ก.ค. พ.ต.ท.ประสงค์ ชำนาญศิลป์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ภาษีเจริญ รับแจ้งจากห้องฉุกเฉิน รพ.เพชรเกษม 2 ว่า มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจไล่จับกุมเด็กแว้นเข้ามารักษาตัว รวม 5 ราย จึงรีบประสานแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรุดไปตรวจสอบ

NjpUs24nCQKx5e1EZcsFtU9J3nGI4axzYzRl8SVavvl

ที่บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินพบกลุ่มเด็กแว้นและสาวสก๊อยกว่า 30 คน พากันขับขี่ รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดจับกลุ่มพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในห้องฉุกเฉินศพชายวัยรุ่นอายุ 17 ปี เด็กชายอายุ 14 ปี และหญิงสาว อายุ 18 ปี รวม 3 ศพ ซึ่งแต่ละรายเสียชีวิตในสภาพมีบาดแผลแตกที่ศีรษะ ตามใบหน้า และถลอกตามร่างกายหลายแห่ง

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ชื่อ ส.ต.ต.พิพัฒน์พร เก้าเอี้ยน มีอาการหมดสติ กระดูกคอเคลื่อน ฟันหน้าหัก 3 ซี่ และ ส.ต.ต.ญาณภัทร ปรีชาสนธิกุล บาดเจ็บหัวไหล่ซ้ายหลุดดั้งจมูกแตก ทั้ง 2 รายเป็นเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.เพชรเกษม ถูกแยกนำตัวเข้าห้องรอรักษาและดูอาการบริเวณชั้น 6 ท่ามกลางการอารักขาจากเพื่อนๆ สายตรวจ จำนวนเกือบ 10 นาย

จากการสอบสวน นายบรรเจิด เที่ยงธรรม อายุ 20 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร เพื่อนฝ่ายผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงตี 2 ที่ผ่านมา พวกตนกว่า 20 คน ใช้รถจักรยานยนต์กว่า 10 คัน พากันขับขี่รถเล่นจากบ้านพักย่านเพชรเกษมไปทำบุญที่วัดบุคคโล โดยเมื่อไหว้พระกันเสร็จก็พากันขี่รถกลับ ระหว่างทางผ่านถนนบางแค บริเวณปากซอย 12 เห็นสายตรวจจักรยานยนต์ สน.เพชรเกษม ทั้ง 2 นาย ขับรถตราโล่ ทะเบียน 94716 ใช้ความเร็วไล่หลังมาและพยายามเข้าจับกุม ด้วยความตกใจพวกตนจึงเร่งเครื่องหนี แต่รถของผู้ตาย ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดงดำ ทะเบียน ษงพ 486 กรุงเทพมหานคร ที่มีนายวัลลภ เป็นคนขับขี่ นายอัษฎา นั่งตรงกลาง และ น.ส.เบ็ญจมาศ ซ้อนท้ายสุด แบบอัดสามหนีไม่ทัน ทำให้ถูกสายตรวจขับไปดักหน้า และเบรกไม่อยู่พุ่งชนกันจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

NjpUs24nCQKx5e1EZcsFtU9J3nGI4az5RXrpY66UCGU

ด้าน ส.ต.ต.ญาณภัทร ได้รับบาดเจ็บกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนซ้อนท้าย ส.ต.ต.พิพัฒน์พร คู่บัดดี้สายตรวจพากันตระเวนออกปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบ เห็นกลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คน รวมตัวกันขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์กว่า 10 คัน ผ่านมาโดยที่แต่ละคนไม่สวมหมวกนิรภัย พวกตนพยายามจะเข้าไปเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้นตามนโยบายปราบปรามเด็กแว้นของผู้บังคับบัญชา ปรากฏว่า ทั้งหมดได้เร่งเครื่องหลบหนี ทาง ส.ต.ต.พิพัฒน์พร จึงเร่งเครื่องตามไปใช้ความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนกระทั่งตามทันรถของฝ่ายผู้ตายที่มากันแบบอัดสาม และไม่สวมหมวกนิรภัย ส.ต.ต.พิพัฒน์พร จึงแซงไปดักปาดหน้า แทนที่ฝ่ายผู้ตายจะหยุดรถให้ตรวจแต่โดยดีกลับพยายามเร่งเครื่องหนีต่อไป จนรถของฝ่ายผู้ตายชนรถสายตรวจบริเวณล้อหน้า เป็นเหตุให้พลิกคว่ำทั้งสองฝ่าย โดยที่ตนและคู่บัดดี้ก็ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปด้วย

ขณะที่ พ.ต.อ.สุพีรณัฐ สัตตธนชัยภัทร รอง ผบก.น.9 ซึ่งดูแลรับผิดชอบด้านการป้องกันและปราบปราม กล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นทราบว่า เป็นอุบัติเหตุจากการปฏิบัติตามยุทธวิธีของเจ้าหน้าที่ แต่ฝ่ายคู่กรณีไม่มีใครสวมหมวกนิรภัยจึงเกิดความสูญเสียขึ้น ขณะนี้ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ไพโรจน์ ไตรธรรม รอง ผกก.ป.สน.เพชรเกษม และ พ.ต.ท.กนกศักดิ์ สุมงคล สวป.สน.เพชรเกษม นำกำลังไปดูแลตำรวจทั้ง 2 ราย ที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว ทั้งยังกำชับให้ ร.ต.อ.ออมสิน สีดามาตย์ รอง สว.(สอบสวน) สน.เพชรเกษม ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวน เร่งรวบรวมข้อมูลทำคดีอย่างตรงไปตรงมา หากทางญาติของคู่กรณีเห็นว่าตำรวจกระทำการเกินกว่าเหตุ ก็ให้นำพยานหลักฐานมาประกอบในสำนวนคดีได้ ซึ่งตนยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย.

ที่มา – http://www.thairath.co.th/