เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อคืนวันที่ 23 ก.พ. 65 ที่ ศาลา 1 ศาลาเตชะอิทธิพร วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร สถานที่ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล สวดอภิธรรมคืนที่ 3 ‘ต้อย’ เศรษฐา ศิระฉายา ศิลปินแห่งชาติ ที่จากไปด้วยโรคมะเร็งปอดระยะที่ 4 ด้วยวัย 77 ปี เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 65 บอย พิษณุ เดินทางมาร่วมงานและได้เปิดใจถึงความผูกพันระหว่างตนกับ อาต้อย เศรษฐา ตั้งแต่เมื่อครั้งเข้าประกวด รายการเรียลลิตีโชว์ ทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย ก่อเป็นความรักและเคารพจนถึงปัจจุบัน

“วันนี้ได้มีโอกาสได้เข้าไปกราบ และได้บอกพ่อว่า วันนี้มากราบลา เพิ่งจะมีโอกาสได้มาวันนี้คือคืนที่ 3 แล้ววันนี้ก็ถือโอกาสดีจริงๆ จะมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวก็เลยไปตรวจ PCR เรียบร้อยค่อยมา ผลเป็นปกติวันนี้เลยมากราบลาพ่อ ก็อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายหรืออาจจะมีโอกาสได้มาอีกในการลาพ่อ”

“วันนี้ก็รู้สึกว่าต้องมา ตัวเองต้องมาไม่มางานนี้ไม่ได้ ที่ผ่านมางานบุญคุณพ่อ งานถวายเทียนพระ งานบวชงานการกุศลต่างๆ พ่อทำมาตลอดชีวิต พอวันนี้วันที่ต้องลาเขาต้องมา”

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ได้มีโอกาสคุยกับ อี๊ฟ บ้างไหม? “คุยแล้วบ้าง จริงๆ มีโอกาสคุยกันตลอดอยู่แล้ว แต่แขกเยอะไม่มีโอกาสคุยอะไรได้เยอะมาก แม่เองต้องรับแขกเยอะ เราก็เข้าใจ เป็นกำลังใจให้สู้ๆ”

ทราบอาการป่วยของอาต้อยนานหรือยัง? พ่อเองป่วยมาพักใหญ่แล้ว เราใจไม่ดีมานานมากแล้ว เวลาผ่านไปพ่อดีขึ้นกลับมาอยู่บ้าน ป่วยครั้งแรกมีโอกาสได้นั่งกินข้าวกับพ่อ ได้พูดคุย ช่วงนั้นโควิด แต่ยังไม่แย่มากไม่หนักมาก หลังจากนั้นได้ไม่เท่าไหร่พ่อก็แอดมิตอีกรอบหนึ่ง ทราบเหมือนกันได้แค่ส่งใจจริงๆ ด้วยสถานการณ์แบบนี้ใครก็เข้าเยี่ยมไม่ได้ ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่แย่เนอะ สู้อยู่คนเดียว”

กับการที่ได้ทำงานร่วมกับ อาต้อย ในรายการ หรืองานต่างๆ เป็นอย่างไรบ้าง? “มีสิ่งหนึ่งที่ได้จาก พ่อต้อย ตลอดคือการทำงาน เรื่องของอารมณ์ดี เป็นศิลปินที่ไม่ถือตัว เข้าได้ทุกคนไม่ว่าใคร เป็นวิถีชีวิตที่พ่อเดินคล้ายๆ กับตัวเรา วิธีการใช้ชีวิต วิธีอยู่วงการบันเทิง เหมือนกับสิ่งที่เรากำลังทำตามลอยของพ่อต้อย เลยมีความรู้สึกว่าพอวันหนึ่งที่พ่อจากไป สิ่งที่พ่อทำมาทั้งชีวิตยังไม่ได้ตายจากไป ยังอยู่ในใจของทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนในวงการบันเทิง คนในครอบครัว คนที่รู้จักพ่อทุกคน ความดีของพ่อ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราเห็นในตัวพ่อมาตลอด พ่อเป็นคนมีความสุข มีมุกมาหยอดตลอด เขาเป็นคนมีความสุข มีมุกแห้งๆ ให้เราได้ยิ้มๆ อยู่กับแกๆ ก็น่ารัก”

ในฐานะนักร้องได้นำแบบอย่างอะไรมาใช้บ้าง? พ่อไม่ได้สอนอะไรเป็นเรื่องเป็นราว เราจับต้องด้วยตัวของเราเองมากกว่า จริงๆ เด็ก AF ทุกคนเริ่มต้นจากพ่อหมด ทุกซีซั่นเห็นพ่อมาตลอด หลังจากที่จบรายการได้มีโอกาสทำงานกับอี๊ฟมากขึ้น มีโอกาสได้ไปกับอี๊ฟ มากขึ้น สิ่งที่ได้คือความเป็นเอ็นเตอร์เทรนเมนต์ ความเป็นคนอารมณ์ดีมีความสุขทั้งที่ทำงาน เป็นคนยิ้มง่าย เป็นคนที่ไม่เกรี้ยวกราด ไม่โมโหใคร สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีมาก ยื่นอยู่ในวงการบันเทิงให้อยู่ได้ยาวๆ อยู่มาทั้งชีวิตของเขาได้ นี่ก็เลยเป็นสิ่งที่เราอยากทำตามให้ได้ในสิ่งที่พ่อเป็น”

สิ่งสุดท้ายที่อยากจะบอก อาต้อย? “ผมไม่รู้พ่อจะได้ยินหรือเปล่า ตัวบอยเองรักเคารพพ่อเหมือนพ่อจริงๆ ด้วยความที่เรามีโอกาสได้เข้ามาสนิทกับครอบครัวพ่อ วันนี้อยากให้พ่อหลับสบายพักผ่อนให้เต็มที่ ชีวิตพ่อเหนื่อยมามากพอแล้ว สิ่งที่พ่อเหนื่อยพ่อมีความสุขทุกครั้ง พ่อเป็นศิลปินแห่งชาติ ศิลปินแห่งชาติคือทำคุณงามความดีให้กับประเทศนี้ ความสุขให้กับคนไทยจริงๆ ขอให้คุณพ่อหลับให้สบาย ตัวผมเองเป็นกำลังใจให้กับ แม่เปี๊ยก ต้น มีบุญ ทุกๆ คนที่อยู่ในครอบครัวพ่อต้อย สู้ๆ มีความสุข สิ่งร้ายจะผ่านไปยากแต่วันหนึ่งมันจะดีขึ้น ผมเชื่อพ่อจะอยู่ในใจทุกคนเสมอไป”