เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากเหตุการณ์สุดเศร้าช็อกวงการบันเทิง หลังจากที่นักแสดงสาว แตงโม นิดา พลัดตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต พบบาดแผลฉกรรจ์ลึกถึงกระดูกบริเวณต้นขาซ้ายด้านใน คาดว่าเกิดจากใบพัดเรือ แต่งสังคมยังคงถกเถียง และตั้งคำถามว่าเกิดจากอะไรกันแน่!!

วันนี้ ( 1 มี.ค.65)  “ไทด์ เอกพัน บรรลือฤทธิ์” ดาราดัง อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ได้เปิดเผยผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ที่ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” เล่าถึงวินาทีเจอร่างของน้องแตงโมว่า

ข่าวเที่ยวเกี่ยวข้อง

“ตอนแรกเห็นเรืออาสาลำหนึ่งผูกร่างน้องกับเรือไว้ ผมไปถึงเป็นลำที่ 3 แต่ผมเห็นท่าไม่ดีเพราะเห็นอาสาบางคนหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายแล้ว ผมเลยรีบหยิบผ้าดิบมาคลุมร่างน้อง เพราะที่เห็นร่างน้องค่อนข้างโป๊ แล้วห้ามเขาว่าอย่าเพิ่งถ่าย เราคลุมร่างน้องทั้งหมด 3 ชั้น เพื่อไม่ให้ใครเป็นน้อง แต่อาจจะมีเห็นขานิดหน่อย ผมก็แอบเจ็บใจเหมือนกันที่ปิดร่างน้องไม่หมด ระหว่างนั้นก็รอ พฐ มาตรวจพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งตรงนั้นก็มีคนมายืนมุงกันเป็นจำนวนมาก พอตำรวจมาถึง ตำรวจก็ต้องเปิดผ้าคลุมและถ่ายภาพน้อง ผมเลยบอกว่าเดี๋ยวหาผ้ามาคลุมรอบๆก่อน จะได้ไม่มีใครแอบถ่ายภาพน้องได้ พอเปิดผ้าตอนหมอนิติเวชมาดูน้อง มีแผลที่ขาน้องลึกมาก ลักษณะเป็นเส้นตรงลงมา มีเนื้อล้นออกมานิดหน่อย ผมก็แปลกใจทำไมแผลลึกขนาดนั้น ผมคิดว่าคงไม่ใช่ใบพัดเรือ แผลมันลึกมากจนเอาฝ่ามือเข้าไปได้ และที่น่องมีรอยลึกเกือบนิ้ว และมีไขมันไหลออกมา น่าจะเป็นของแข็งทิ่มแทง ตาน้องบวมออกมาจริง เหมือนถลนออกมานอกเบ้า เยื่อตาอาจจะบอบบาง ตอนลอยในน้ำอาจโดนแรงดันน้ำ ทำให้ตามันถลนออกมา แต่ใบหน้าโดยรวมส่วนมากเป็นรอยช้ำเลือดช้ำหนอง เท่าที่ผมเก็บศพในน้ำมา ร้อยละ 80 ศพผู้หญิงจะหงาย ผู้ชายจะคว่ำ เพราะผู้หญิงมีหน้าอก มันจะเป็นเหมือนฟองน้ำ มีไขมันที่หน้าอก ทำให้ร่างหงาย แต่น้องเขาคว่ำมา อาจจะเป็นไปได้ว่าชุดคลุมสีน้ำตาลของน้องมัดอยู่ที่เอวแน่นมาก ชุดคลุมอาจจะถ่วงน้องเอาไว้ ทำให้ร่างน้องพลิกคว่ำ

 

ต่อมาเราก็เคลื่อนร่างน้องจะส่งไปรพ.ธรรมศาสตร์รังสิต แต่มีสายโทรเข้ามาบอกว่านายสั่งให้เปลี่ยนแผนพาน้องไปที่ สภ.นนทบุรี มี พฐ ชุดใหม่มาตรวจ ผมให้เขาถ่ายรูปบนรถตู้ ผมไม่ยอมให้เอาร่างน้อยออกมาเปิดให้คนอื่นถ่าย ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ก็ขอให้ผมช่วยเปิดถุง ช่วยดูจุดนั้นนู้นนี้ เพื่อถ่ายเก็บอีกครั้ง ตอนนั้นชุดบอดี้สูทน้องมันหล่นลงมา ผมก็เลื่อนขึ้นมาปิดหน้าอกให้น้อง พอเขาถ่ายเสร็จผมก็ปิดทุกอย่างเหมือนเดิม คุณแม่น้องแตงโมเขาก็มาขอดูน้อง ผมก็พยายามห้ามบอกน้องไม่เหมือนเดิมแล้วนะ อยากให้แม่จำภาพน้องสวยๆดีกว่าไหม แต่คุณแม่ยืนยันที่จะดู ผมเลยให้คุณแม่ขึ้นรถตู้ไปดูคนเดียว พอแม่เห็นก็ร้องไห้จนเป็นลม

 

ส่วนภาพศพน้องแตงโมที่หลุดมาตอนนี้ มั่นใจเลยว่าไม่ใช่หลุดจากเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ภาพนั้นมีการพิสูจน์แล้วว่าถ่ายบนรถตู้ ตรงนั้นมีถ่ายได้แค่นิติเวช แต่จะเป็นใครไม่รู้ ผมกล้าสาบานเลย ผมเอามือถือผมถ่ายรูปน้องตรงไหนก็แล้วแต่ แล้วมันออกมาดูไม่ดี ให้ผมตายโหงตายห่าไปเลย ส่วนดรามาที่หาว่าผมมาวันสุดท้าย ผมขอชี้แจงว่า วันที่ 24 ก.พ.คืนเกิดเหตุผมช่วยคนที่เพชรบูรณ์ ได้ข่าวน้องตกเรือตอน 5 ทุ่ม ซึ่งผมได้สั่งการทีมงานแล้วให้ช่วยตามหา  เช้าวันที่ 26 ก.พ. ผมเอาเรือของร่วมกตัญญู ลงไปตามหาทุกซอกซอย เศษซากสวะต่างๆ ผักตบ ผมแหวกตามหาหมด ตามอยู่หลาย ชม.จนเจอน้องที่กลางแม่น้ำ

สำหรับเรื่องบาดแผลของแตงโมนั้น รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี หรือ หมอหมู แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว เผยว่า

ส่วนตัว เวลามองเรื่องบาดแผล หากจะมองว่าเป็นวัตถุมีคม เช่น มีด ถ้ากรีดลงไปขอบมันจะเรียบ เนื้อเยื่อด้านในก็จะเรียบ และถ้าลงไปถึงกระดูก ยังไงก็ต้องมีรอยเส้น จากที่พี่ไทด์บอกว่าขอบมันรุ่งริ่ง ไม่เรียบ เป็นไปได้ว่าวัตถุนั้นอาจจะเกิดจากการปั่นและนำไปสู่การฉีกขาด เราก็อาจจะสันนิษฐานได้ว่าเป็นใบพัดเรือ เวลามันปั่นมันจะมีองศาของมันอยู่ ดึงเอาเนื้อออกมา มันอาจจะมีจังหวะการดูดเข้าออกของน้ำ ถ้าปั่นแล้วหลุดออกมา อาจจะมีแผลเดียวได้ แต่จังหวะที่ปั่นแล้วนำไปสู่การดูดร่างเข้าใกล้ใบพัด อาจเกิดบาดแผลอีกแบบนึง เรื่องการปัสสาวะ เวลาที่เราอั้นปัสสาวะแล้วเราเกิดเสียชีวิต ระบบหูรูดก็ต้องหยุดทำงาน แต่ถ้าศพยังไม่ได้เน่า หูรูดไม่ได้มีการปัสสาวะราดออกมา ตรวจยังไงก็ต้องเจอน้ำปัสสาวะ แต่ถ้าศพเน่าก็อาจมีโอกาสที่หูรูดเน่า ถ้าขยับตัวในท่าใดก็ตาม น้ำปัสสาวะอาจไหลออกมาได้ ต่อให้คนที่เสียชีวิตแล้วไม่เน่า หูรูดยังดี แล้วมีปริมาณน้ำปัสสาวะอยู่ในกระเพาะปัสสาวะเยอะ ก็ไม่สามารถฟันธงได้ว่าได้ปัสาาวะหรือไม่ เพราะประสิทธิภาพในการอั้นปัสสาวะของคนไม่เหมือนกัน เขาอาจจะปวดปัสสาวะหรือไม่ปวดก็ได้ ประเด็นนี้อาจไม่สามารถฟันธงเรื่องการไปปัสสาวะท้ายเรือได้

 

ส่วนเรื่องการตรวจร่องรอยปัสสาวะบริเวณท้ายเรือนั้น ถ้ามีร่องรอยปัสสาวะจริง ก็สามารถตรวจได้ว่าเป็นปัสสาวะของใคร เพียงแต่ว่าต้องใช้เทคนิคขั้นสูง เพราะปริมาณมันน้อยมาก ไม่เหมือนกับการตรวจคราบเลือด ซึ่งต้องมีการตรวจก่อนว่าใช่ปัสสาวะไหม ถ้าเป็นปัสสาวะจริง เวลาที่มันผ่านออกมาจากร่างกาย จะติดเซลล์เนื้อเยื่อร่างกายออกมาด้วย ก็จะสามารถนำไปตรวจดีเอ็นเอต่อได้  เนื่องจากตัวเซลล์อยู่ได้นาน แต่นานแค่ไหนคงตอบยาก ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม แต่ในกรณีนี้ยังอยู่ได้ เพียงแต่ว่าอาจจะมีปริมาณน้อย เพราะอาจจะมีกระบวนการขับเรือ มีการชะล้าง อาจยากในการเก็บตัวอย่าง แต่ถ้าเก็บได้ แม้มีปริมาณน้อยก็สามารถเก็บตรวจได้ อย่างคดีต่างๆที่มีคราบเลือด แม้จะมีการล้างทำความสะอาด จนท.ก็ยังสามารถเก็บได้ มันอาจจะติดตามซอกหลืบต่างๆ จนท.ต้องพยายามหาอย่างละเอียด แต่จะมีไหมก็อีกเรื่องนึง

ในเรื่องข้อกฎหมายของคดีนี้นั้น รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เจ้าของเพจเฟซบุ๊กทนายคู่ใจ เผยว่า  “กรณีการหล่นลงจากเรือ จากที่แซนให้สัมภาษณ์นั้น แซนเป็นผู้โดยสาร แตงโมเป็นผู้โดยสารเหมือนกัน กฎหมายจะเอาผิดคนควบคุมเรือ เจ้าของเรือ แต่คุณแซนไม่ใช่คนขับเรือ ฉะนั้นไม่น่าจะผิดอะไร แต่ถ้าเขาเป็นคนแนะนำให้แตงโมเกาะขา แล้วนำไปสู่การหล่นลงแม่น้ำเจ้าพระยา เขาอาจจะมีส่วนประมาทเลินเล่อได้ แต่ถ้าแตงโมมาเกาะขาเขาเองก็เป็นอีกเรื่องนึง ที่ผมสงสัยคือวันที่เกิดเหตุทำไมไม่อายัดเรือ อายีดพยาน สอบปากคำพยานเพื่อถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น คดีนี้แปลกใจมาก ที่กว่าจะเอาคนมาสอบก็ข้ามวันข้ามคืนไปแล้ว จริงๆเขาต้องเอาคนมาสอบก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะตกไปแล้วหรือรอดหรือไม่ก็ตาม ตอนนั้นไม่เจอศพก็จริง แต่ความผิดทางอาญาเกิดแล้ว ถ้าผู้โดยสารหล่นเป็นความผิดทางอาญา แล้วทำไมไม่อายัดเรือ ไม่ใช้ ป.วิอาญาในการดำเนินการและถ้าเหตุการณ์ไม่ใช่แค่การตกเรือ ต้องดูว่าเขาพูดยังไงบ้าง ถ้ามีการลวนลามนำไปสู่การหล่นเรือ คนที่รับผิดชอบต้องเป็นคนที่ลวนลามและทำเขาตกเรือ คดีจะพลิกไปอีกแบบ ซึ่งในคนที่ขึ้นเรือไปวันนั้น หากมีใครคนใดคนนึงออกมายอมรับ โทษอาจจะเบาลง แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ผิดเลย เพียงแต่โทษจะเบาลงกว่าคนอื่นๆ”

 

ขอขอบคุณภาพจาก : Nakon45 อัญวุฒิ โพธิ์อำไพ

CR : ถกไม่เถียง

ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/hvRq512-AmI