“บิ๊กแจ๊ส” อดีตมือปราบคดี “แตงโม”พบพิรุธมากมายและฝากถึงตำรวจ “อย่าคิดว่าคนมีเงินไม่ติดคุก”

จากกรณีการเสียชีวิตของนักแสดงสาว “แตงโม นิดา” เนื่องจากอุบัติเหตุพลัดตกเรือสปีดโบ๊ทกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานพระราม 7 ท่าเรือพิบูลสงคราม หลายคนได้ออกมาตั้งข้อสงสัยมากมาย

ล่าสุด “พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง” หรือบิ๊กแจ๊ส นายก อบจ.ปทุมธานี อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มือปราบคนดัง ได้แสดงความคิดเห็นกรณีดังกล่าวว่า  เรื่องที่เกิดขึ้นสืบไม่ยาก เรื่องจริงง่าย ในฐานะที่ผมเคยเป็นตำรวจ อยู่สืบสวนมาชั่วชีวิต ก็
“ฝากน้องๆ ตำรวจ ขอให้เอาเรื่องจริงมาให้ได้ อย่าไปเห็นว่าผู้ต้องหาคือใคร คนผิดก็คือผิด ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่เสียหาย เราต้องเอาคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ หากเราคิดว่าเราเป็นตำรวจที่มีอุดมการณ์ของตำรวจ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• แชร์สนั่น!!! “หมอปลาย” ลั่นกลางรายการฟังแล้วถึงกับขนลุก
• “ขวัญ อุษามณี” ออกมาฟาด “แซน วิศาพัช” ปมแตงโมถอดบอดี้สูทฉี่กลางเรือ ?

ตามที่มีการให้ปากคำว่า ผู้เสียชีวิตไปปัสสาวะที่ท้ายเรือ “มันฟังไม่ได้ ผมมองว่ามันผิดข้อเท็จจริงไปหน่อย เพราะอย่าว่าแต่ผู้หญิงเลย เราเป็นผู้ชายไปยืนปัสสาวะท้ายเรือขณะที่เรือวิ่ง ยังทำแทบไม่ได้ อีกทั้งจากร้านอาหารเรือวิ่งไปจนถึงจุดที่เกิดเหตุใช้เวลาไม่น่าจะถึง 1 ชั่วโมง และตามที่มีข่าวว่า ผลชันสูตรเบื้องต้นออกมามีบาดแผลลึกที่ต้นขา ที่คาดว่าถูกของมีคม หากบาดแผลมีลักษณะเรียบเป็นทางยาวแล้วอ้างว่าโดนใบพัดเรือ หรือโดนใบจักรหมุนบาด แผลจะเรียบเป็นทางยาวไม่ได้ จึงฝากให้พิจารณาให้ดี”

นอกจากนี้ที่ติดตามข่าว เมื่อชันสูตรพลิกศพพบว่า ในปอดมีทรายและดิน “ผมคาดว่าจุดที่ตกเรือต้องไม่ใช่จุดที่น้ำลึก และไม่ถึง 5 เมตรแน่นอน เพราะว่าคนที่ดำน้ำเราต้องหายใจให้เต็มปอด แล้วดำลงไปกลั้นให้นานที่สุด จากนั้นค่อยขึ้นมา แต่น้องที่เขาตกน้ำ เขาคงไม่มีโอกาสกลั้นหายใจก่อน อยู่ๆ เขาก็ตกเลย จากนั้นจมลงน้ำจนไปถึงดินเลย เมื่อสูดหายใจเจอทรายเจอดินถึงเข้าไปถึงปอดได้จนสิ้นใจ เพราะฉะนั้นตามที่เป็นข่าวมีการชี้ว่าตกตรงบริเวณน้ำลึกแล้วขับเรือวนหา คาดว่าเป็นไปไม่ได้”

“ซึ่งการตรวจพิสูจน์ทราบขอให้มีการตรวจตรงไปตรงมา ผมก็ฝากไว้จากประสบการณ์ และอยากให้เขาเอาเรื่องจริงมาพูดให้พี่น้องประชาชนรู้ อย่าไปคิดว่าคนมีเงินไม่ติดคุก ไม่ได้ ถ้าผมเป็นคนขับเรือแล้วมีคนที่ไปกับผมตกเรือ ผมไม่นอนแน่นอน ผมต้องหาจนเจอ แต่ไม่ใช่ผมหลบไปตั้งหลัก แล้วค่อยกลับมาให้การกับเจ้าหน้าที่ มันอาจดูมีพิรุธ ในคดีที่ผมเคยทำ คนที่ไม่ยอมอยู่พบเจ้าหน้าที่นั้นให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า อาจจะมีการไปตั้งหลัก เตี๊ยมกันในการให้ปากคำ หรือหลบไปเพราะไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจว่าเมาหรือไม่อย่างไรซึ่งไม่ว่าใครก็ตามเมื่อมีคนตกเรือ เราจะต้องหยุดเรือ และก็ต้องทำทุกทางเพื่อที่จะตามหา ทุกคนที่ไปด้วยกันต้องมีสามัญสำนึกเอาเรื่องจริงออกมา”