เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ 18 เมษายน 2565 นายอำนาจ อายุ 52 ปี อาชีพขับรถแท๊กซี่ เดินทางเข้าแจ้งความ ร.ตท.ภคภณ ณ นคร รองสว.(สอบสวน) สภ.บางใหญ่ ให้ดำเนินคดีกับเจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ โดยร้องทุกข์กล่าวโทษว่า มีพฤติกรรมในลักษณะชายรักชาย หลอกล่อใช้กลอุบาย ก่อนจะขอมีอะไรทางประตูหลังกับตนเอง แต่ตนไม่ยอม สุดท้ายต้องใช้มือช่วยให้เจ้าอาวาสวัดรูปดังกล่าวจนสำเร็จความใคร่ตามที่ต้องการ โดยตลอดเวลาเจ้าวาสวัดดัง จะใช้กลอุบายให้ตนเองเชื่อใจ ไม่ว่าจะพูดว่า เดี๋ยวจะซื้อรถให้ ซื้อโน่นซื้อนี่ หรือแม้แต่จะช่วยเหลือเรื่องเงินทองหากตนเองขัดสน

 

นายอำนาจ เปิดเผยต่อว่า ตนเองมีอาชีพขับรถแท๊กซี่ ถูกพระรูปนี้เรียกใช้บริการผ่านแอพพิเคชั่น ให้ไปส่งที่นั่นที่นี่หลายครั้ง ทุกครั้งที่ขึ้นรถไปก็จะถูกลวนลาม จับขา จับของลับก่อนจะออกอุบายว่า เดี๋ยวจะซื้อรถใหม่ให้นะ ตนเองเช่ารถขับอยู่ อีกทั้งช่วงโควิดก็แทบจะไม่พอจ่ายค่าเช่าในบางวันอยู่แล้ว ก็แอบมีความหวังอยู่เล็กๆในใจ จึงอดทนกับพฤติกรรมของพระรูปนี้มาตลอดในทุกครั้งที่ถูกเรียกใช้บริการ จนกระทั่งประมาณเดือนธันวาคมปี 63 พระรูปนี้เรียกว่าจ้างตนเองให้ขับรถไป ภูทับเบิก โดยอ้างว่าญาติโยมนิมนต์ไป พร้อมทั้งเอ่ยปากจะให้เงิน 5,000 บาท แต่เมื่อไปถึงพระรูปนี้กลับบอกให้ตนขับรถไปที่รีสอรท์แห่งหนึ่งที่มีการจองห้องไว้แล้วล่วงหน้า ก่อนที่จะพยายามขอร่วมมีอะไรกับตนทางประตูหลัง แต่ตนไม่ยินยอมและบอกว่าจะใช้มือช่วยให้ ซึ่งพระรูปนี้ก็ยินยอมและเสร็จกิจตามที่ต้องการ ก่อนจะเดินทางกลับและมอบเงินให้ตนเองเป็นค่ารถ 5,000 บาท

 

หลังจากนั้นก็ลบไลน์ บล๊อคไลน์ทิ้ง ไม่ได้ติดต่อกันพักหนึ่ง จนเมื่อเดือนสิงหาคมปี 64 เค้าก็ทักมาถามถึงความเดือดร้อนช่วงนี้มีเงินมั้ยอะไรมั้ย สุดท้ายเรียกไปเอาเงิน แล้วก็ทำเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ที่กุฏิเจ้าอาวาสเลย แล้วก็บอกว่าจะให้เงิน 10,000 บาท แต่สุดท้ายพอเข้าไปแล้วก็ถูกขอมีเพศสัมพันธ์ แต่ตนไม่ให้ตามที่ต้องการ เจ้าอาวาสรูปนี้ก็ให้เงินมา 1,000 เป็นค่าเหนื่อยที่ตนใช้มือช่วยจนสำเร็จความใคร่

 

หลังจากนั้นพยายามชักชวนตนอีก แต่ตนเองรู้สึกไม่ดี รู้สึกบาปก็เลยบอก ไม่ไปแล้ว บอกจะไปสำนักพุทธฯ เค้าก็บล๊อคไลน์ไปเลย

 

“ตอนนั้นที่เข้าไปในกุฏิก็จะเสียบผมให้ได้เลย ผมก็ไม่ยอม ผมก็แค่ต้องการให้ช่วยเหลือเรื่องเงินบ้างนิดหน่อยเพื่อจะดำรงชีพ แต่สุดท้ายเขาต้องการมากกว่านั้น ซึ่งผมก็ให้ไม่ได้ ก็ปฎิสธไป คิดว่าผมไม่น่าจะเป็นรายแรก น่าจะทำอย่างนี้กับหลายๆ คน แต่ไม่มีใครกล้าออกมาพูด เพราะว่าทุกคนก็คงกลัวบาป กลัวอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งผมเองก็คิดอยู่นาน”

 

นายอำนาจกล่าวด้วยว่า ช่วงนี้มีกระแสข่าวลักษณะนี้ ตนคิดว่าเมื่อเกิดเหตุกับตนเองก็เชื่อว่าคงมีผู้เสียหายไม่น้อยที่ถูกกระทำแบบเดียวกัน คิดว่าทำกับตนได้ คนอื่นก็คงเหมือนกัน ตำแหน่งเค้าใหญ่โต แต่พฤติกรรมไม่สมควรเป็นเจ้าอาวาส น่าจะทำกับคนอื่นมาเยอะแล้ว ตนคิดมาตลอดเหมือนผีตามหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลาว่าตนทำเรื่องไม่ดี ถึงตนอยากจะได้เงิน แต่ตนก็รู้สึกไม่ดี ถึงตอนนี้ตนคิดว่าต้องออกมา ถ้าไม่ออกมาเขาก็จะเป็นแบบนี้ตลอดไป ต้องออกมาให้ข่าวเพื่อที่เขาจะได้เลิกพฤติกรรมแบบนี้ สังคมจะได้ดีขึ้นได้