เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

 

” อิงฟ้า วราหะ ” ฟาดกลับสังกัดเก่า ตอนลำบากไม่โผล่ พอมงฯ แล้วปรากฏตัว อย่ามาอ้างรักเหมือนคนในครอบครัวเพราะคงไม่ทำแบบนี้ ซวยโดนดรามาไม่สมมง เชื่อใครมงก็โดนแบบนี้ แต่แค่คนกลุ่มเดียวที่อคติ ไม่ฟ้องเกรียน ดูโปรไฟล์แล้วฟ้องไม่ลง ไม่น่ามีเงินให้ ขอบคุณวลี นางงาม = ธุรกิจเพราะสมัยนี้สวยอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีค่าเป็นเงินได้ด้วย ตั้งเป้าทำเงินให้มิสแกรนด์ 100 ล้านบาท 

มงลงปุ๊บก็เจอดรามาปั๊บ สำหรับสาว “อิงฟ้า วราหะ” ที่เพิ่งคว้าตำแหน่ง มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 มาครอบครองได้สำเร็จ โดยงานนี้นอกจากจะโดนถล่มยับว่าล็อกมงแล้ว ยังมีชาวเน็ตออกมาแฉ ว่าติดสัญญาค่ายหนึ่งอยู่ มาประกวดโดยไม่ขออนุญาต รักและดูแลเหมือนคนในครอบครัว แต่ทำไมไม่พูดถึงคนที่เลี้ยงมาเลย แถมยังมีคนปล่อยรูปก่อนศัลยกรรมออกมาซ้ำอีก

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) ในงานฉลองมงกุฎทอง และปาร์ตี้ขอบคุณสื่อมวลชน “MGT Thank you Party” สาวอิงฟ้าก็ได้ออกมาเผยข้อเท็จจริงถึงเรื่องนี้ ว่าเคยมีสัญญาจริง แต่มันเป็นโมฆะไปแล้ว และถ้ารักเหมือนคนในครอบครัวจริงๆ คงไม่ทำกันแบบนี้

“สัญญามันเป็นโมฆะไปแล้วค่ะ เพราะว่าเราได้เคลียร์ตัวเอง หลังจากก่อนที่จะมาประกวด เพราะจริงๆ เรามีปัญหาก่อนที่จะมาประกวดในปีนี้ ก็คือปีที่ลงมิสแกรนด์สุพรรณบุรี ซึ่งเราคิดว่ามันจบไปแล้ว แต่ว่ามันไม่จบ­
มันเป็นสัญญาค่ายเพลง 10 ปีค่ะ ซึ่งเราเซ็นตอนอายุ 17 ย่าง 18 จริงๆ เรื่องราวมันเยอะมากๆ ในส่วนของบุญคุณที่เขาออกมาพูดเนี่ยมันก็มี เราเลยไม่อยากที่จะพูดถึงในเรื่องที่มันไม่ดี เอาเป็นว่าในส่วนของผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก เดี๋ยวรอทางเขาออกมาชี้แจง ออกมาพูดแล้วกัน ว่าจะยังไง แต่ทางเราพร้อมอยู่แล้ว ในเรื่องของกฎหมาย เพราะมั่นใจในส่วนของเรา ว่าเราเคลียร์ไปแล้ว แต่ว่าเขาไม่ได้ตอบอะไรกลับมา”

พอเซ็นไปปุ๊บ หลายๆ อย่างมันไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ พอเซ็นปุ๊บคุณพ่อก็เสียทันที พอเสียเราก็ย้ายไปอยู่กับเขา เรื่องการดูแลส่งเรียนหนังสือมีอยู่จริง อันนี้เรายอมรับ แต่ในพาร์ตของสัญญาเรื่องศิลปินเนี่ย มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเรารู้สึกว่าอยู่ในจุดที่มันมีความลำบากอยู่ ในเรื่องของการเงิน แล้วก็การเป็นอยู่ ไม่ได้ดีอย่างที่เขาพูด แล้วหลังๆ มาเราเริ่มมีจะต้องทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศกับเขา ซึ่งก็บอกตรงๆ ว่าเงินเดือนมันไม่พอ

พ้อช่วงที่ลำบาก ไม่เห็นเคยตามหรือช่วยเหลือ เติบโตและมีทุกวันนี้ได้ด้วยตัวเอง
“หนูไม่รู้เลยว่าตอนช่วงที่หนูลำบาก ตอนหนูออกมา เขาไม่เคยตามหนูเลย วันที่หนูออกมาอยู่กับตัวเอง เลี้ยงตัวเอง ทำงานแบบลำบากมาก กว่าที่เราจะตัดสินใจไปประกวดรายการโน่นนี่ เราไม่เคยได้รับการช่วยเหลืออะไรเลย ไม่มีการติดต่อหรือเป็นห่วงอะไรทั้งสิ้น แต่วันที่เราเริ่มเติบโตได้ด้วยตัวเอง หนูต้องบอกว่าหนูมีทุกวันนี้ได้ด้วยตัวเองจริงๆ ตัดสินใจกล้าที่จะเผชิญกับอนาคตข้างหน้า ด้วยขาของเราเอง แต่วันนี้พอหลังจากมงปุ๊บ เขาก็แสดงตัว หนูไม่รู้ว่าเจตนาของเขาคืออะไร”

คาดคงมีผิดสัญญา แต่ส่งเรื่องขอยกเลิกไปแล้ว ถ้ารักเหมือนคนในครอบครัว จะไม่ทำกันแบบนี้ ไม่เคยเห็นคู่สัญญาตั้งแต่วันที่เซ็น
“หนูคิดว่าอาจจะมี แต่ว่าเราทำสัญญายกเลิกไปแล้ว ตอนที่เราส่งขอยกเลิกสัญญาไป อายุความมันคือ 30 วัน ถ้าไม่ได้ตอบกลับถือเป็นโมฆะ เพราะเขาไม่ได้คัดค้านอะไร เขาออกมาพูดว่าเขารักเราเหมือนคนในครอบครัว ถ้าเขาคิดอย่างนั้นจริงๆ เขาจะไม่ทำแบบนี้ค่ะ ส่วนเรื่องคู่สัญญา เราไม่เคยได้ตั้งแต่เซ็นแล้วค่ะ เคยถามตั้งแต่ตอนที่เคลียร์ประเด็นเรื่องประกวดเดอะวอยซ์ไปแล้ว เราก็ยังไม่ได้ หนูก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่ให้ ณ วันที่เซ็นจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่ได้สำเนาคู่สัญญา

แต่ไม่กังวลใจ เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้ มันเป็นครั้งที่ 3 แล้ว จริงๆ หนูยอมมาตลอด ไม่เคยพูดถึงเลย แต่วันนเขาออกมาทำแบบนี้ เราก็ต้องปกป้องตัวเองเหมือนกัน ถ้าเขาเรียกร้องเงินเพื่อฉีกสัญญาจะยอมจ่ายไหม (หัวเราะ หึหึ) ก็ต้องดูกันอีกทีค่ะ เพราะหนูก็ยังไม่รู้ ว่าเขาทำอะไรให้หนูบ้าง ในส่วนที่เขาต้องดูแล อันนั้นมันเป็นส่วนที่เขาบอกว่าเขาจะดูแลเรา มันมีแค่เรื่องของการส่งเรียน ความเป็นอยู่ ที่เขาเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่ง ถ้าหนูเนรคุณหนูออกมาพูดตั้งนานแล้ว หนูเลือกที่จะเงียบ เพราะบุญคุณเขาก็มี เราไม่อยากทำร้าย ไม่อยากพูดอะไรที่มันไม่ดีออกไป”

ลั่น! ไม่จำเป็นต้องแคร์ ดรามาไม่สมมง เสียเวลาพัฒนาตัวเอง บอกใครได้ก็โดนอยู่ดี โลกข้างนอกมีคนรักและให้กำลังใจเยอะมาก กับดรามาไม่สมมง หนูไม่ได้สู้นะ หนูอยู่เฉยๆ เลย หนูไม่จำเป็นต้องไปสู้กับพวกเขาเลย ขออยู่เฉยๆ เลย ก็ยังเชื่อว่าไม่ว่าใครได้ก็โดนดรามาอยู่ดี อยู่ที่ว่าโดนมากโดนน้อย หนูอาจจะซวยหน่อย ตรงที่ว่าหนูโดนเยอะ ไม่ถูกใจเพราะหนูไม่ใช่แนวของแฟนนางงามแต่พอหนูเดินออกมาแล้วมองโลกข้างนอก อยู่กับสังคมข้างนอก คือทุกคนรักแล้วก็ให้กำลังใจเราเยอะมากๆ เลยรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องแคร์แค่กลุ่มกลุ่มเดียวที่เขาอคติ ต่อให้เราพูดไปยังไง คนไม่ชอบก็คือไม่ชอบอยู่ดี ก็เสียเวลา สู้เอาเวลามาพัฒนาตัวเองดีกว่า

มันมีครั้งหนึ่งตอนประกวด ที่หนูไลฟ์แล้วหนูก็ร้องไห้ อันนั้นเหมือนทุบกำแพงตัวเองไปแล้ว หลังจากนั้นคือไม่เคยร้องไห้ แล้วก็มาเสียใจกับอะไรแบบนี้เลย เพราะรู้สึกว่ามันเสียเวลาจริงๆ สู้เอาเวลามาพัฒนาตัวเอง แล้วก็พิสูจน์ให้คนเห็นดีกว่า ว่าเพราะอะไรบอสถึงเลือกเรา ไม่เสียเซลฟ์ค่ะ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง