เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันนี้ (13 พ.ค. 65) เพจ ASEAN “มอง” ไทย รายงานว่า สถานการณ์ในสปป.ลาวยังคงน่าเป็นห่วง นอกจากวิกฤติการณ์ขาดแคลนพลังงานและน้ำมันแพงแล้ว เงินกีบยังอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาสินค้าในประเทศสูงขึ้น ราคาทองคำพุ่งสูง อยู่ที่บาทละ 15,009,000 กีบ หรือราว ๆ 40,210 บาท ส่วนทองคำสลึง สลึงละ 3,754,000 กีบ หรือราว ๆ 10,057 บาท และคาดว่าราคาจะยังคงผันผวนต่อไป

โดยนักวิชาการหลายฝ่ายกำลังวิเคราะห์ว่า สปป.ลาวกำลังเจริญรอยตามประเทศศรีลังกาหรือไม่ ที่ขาดแคลนดุลการค้า มีการนำเข้ามากกว่าส่งออก ส่งผลให้ประชาชนต้องซื้อสินค้าราคาแพง อีกทั้งโครงการต่าง ๆ ในประเทศเกิดจากการกู้ยืม มีเงินสำรองในประเทศน้อย เมื่อเกิดปัญหาขาดแคลนพลังงานจึงไม่มีเงินส่วนกลางแก้ปัญหา รัฐบาลลาวไม่มีงบประมาณในการตรึงราคาน้ำมัน ส่งผลให้ลาวมีราคาน้ำมันแพงอันดับ 2 ของอาเซียน

ในปัจจุบันสปป.ลาวติดหนี้จีนสูงมาก โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงที่กู้จีนสร้าง ถึงแม้ในเอกสารจะเขียนที่มาของเงินลงทุนไว้หลายส่วน แต่ที่มาของเงินลึก ๆ แล้วล้วนมาจากการกู้ ดังนั้นจึงต้องหากำไรมาคืนจีนเพื่อหักต้นทุน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มี เนื่องจากโครงการรถไฟสร้างมาเพื่อการขนส่งสินค้าเป็นหลัก และหลาย ๆ สถานีที่ใช้สำหรับขนส่งสินค้ายังไม่เปิดให้บริการ ส่วนสถานีที่เปิดให้ประชาชนเข้าใช้บริการก็เปิดเพียงไม่สถานีเท่านั้น

อีกทั้งรถไฟ CR200J หรือที่รัฐบาลลาวตั้งชื่อว่า “ขบวนล้านช้าง” นั้น ในประเทศมีเพียง 3 ขบวนเท่านั้น และยังต้องใช้พนักงานขับรถไฟและผู้ควบคุมแผงคอนโทล รวมถึงผู้ดูแลระบบรางจากจีน เนื่องจากสปป.ลาวไม่มีนวัตกรรมทางด้านระบบราง ซึ่งยังไม่เป็นที่เปิดเผยว่าใครเป็นผู้จ่ายเงินพนักงานจีนเหล่านี้

รวมถึงเรื่องของเงินรายได้ที่รัฐบาลจะได้จากโครงการรถไฟนี้ได้มาจากส่วนไหน เมื่อหักต้นทุนทุกอย่างแล้วจะหามาคืนจีนได้ภายในกี่ปี และยังไม่นับรวมโครงการต่าง ๆ อีกมากมายที่อาจส่งผลกระทบตามมาในไม่ช้านี้

เจ้าหน้าที่ ตรวจยึดของกลางเป็นเนื้อหมูน้ำหนัก 24 ตัน ลักลอบนำเข้าบริเวณด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2

ดราม่าร้อน! งานนี้บอกเลยว่า ก.วัฒนธรรมลาว สั่งสอบเพลงบนสื่อออนไลน์สองแง่สามง่าม