เป็นคุณแม่อีกหนึ่งคนที่แข็งแกร่งมาก สำหรับสาว “แอนนี่ บรู๊ค” ต้องออกไปทำงานที่ต่างประเทศ จนหลายคนมองว่าไปขายตัว ล่าสุด สาวแอนนี่ ได้กลับมาที่ไทย พร้อมกับรับรางวัลคุณแม่ดีเด่นในงาน “กินรีทอง” ปี 2559 โดย สาวแอนนี่ เผยว่า “ได้รับรางวัลคุณแม่ดีเด่น ดีใจมากค่ะ ส่วนการเป็นซิงเกิ้ลมัม ที่ผ่านมายากนะ เอาง่าย ๆ เลยค่าใช้จ่ายทางบ้านเราต้องหาเอง ที่สำคัญคือ เวลาที่เราท้อไม่มีคนมาช่วยเรา ต้องอยู่ตัวคนเดียว น้องมีวี่แววจะเข้าวงการไหม ไม่รู้อ่ะ ตอนนี้ยังซนอยู่ แต่ดูเขาก็สนใจนะคะ เคยพาไปแคสโฆษณาเขาก็ชอบ เวลาเรามาทำงานเราก็บอกได้เงินนะเขาจะถามจริงเหรอ อีกหน่อยเขาจะไปซื้อรถลัมโบร์กีนี เขาเรียนหนังสือเก่งนะ ยิ่งเรื่องของภาษาจะให้เขาเรียนรู้มากขึ้น เผื่อได้ไปต่างประเทศ แต่มีคนมาติดต่องานน้องผ่านทางอินสตาแกรมบ้างนะคะ เรายังไม่ได้เข้าไปดูเลย บางคนมาต่อค่าตัวมากเกินไป แต่ลูกเราไม่ใช่ดารา ค่าตัวก็หลักพันแล้วไม่ใช่หลักหมื่น เขาบอกไม่ไหวเราก็ไม่รู้จะทำยังไง ได้แค่ปล่อยผ่านไป รอลูกโตทีเดียวก็ได้
ช่วงนี้ไปเมืองนอกบ่อย จริงๆ ไปเมืองนอกไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหรานะ เหมือนเป็นแรงงานต่างด้าวมาก ๆ เลย คือไปร้องเพลงและคอยเก็บทริป ชีวิตค่อนข้างลำบาก ไม่ได้สบาย อยู่ก็แออัด ห้องนึงมีตั้งยี่สิบคน อัด ๆ กันอยู่ ชีวิตเราไม่ได้หรูหรา ค่อนข้างเหนื่อยด้วยซ้ำ ทำงานตั้งแต่สามทุ่ม ถึงหกโมงเช้า เคยท้อไหม ตอนแรกรับไม่ได้ ร้องไห้ทุกวันเลยค่ะ ทำไมชีวิตเราตกต่ำได้ขนาดนี้เลยเหรอ ต้องมานั่งนับศูนย์ใหม่เหรอ แต่เราก็มาคิดว่า เราก็เป็นเด็กบ้านนอกอยู่ลำปาง เติบโตมาจากดิน ทำไมจะกลับไปสู่ดินเพื่อเติบโตอีกไม่ได้ เราก็เริ่มจากศูนย์ หรือนับหนึ่งใหม่ได้จนถึงวันนี้หลายปีแล้วนะที่ทำงานและส่งลูกมา
ผลตอบแทนมันก็ยังดีกว่าที่เราอยู่เฉยๆ ที่นี่ อยู่ที่นี่เราไม่มีงานทำค่ะ อีกอย่างดาราเยอะด้วย ค่าตัวที่ได้ก็เกือบจะฟรีอยู่แล้ว บางคนต่อแล้วต่ออีก แต่แอนไม่ได้ว่าอะไรนะ แอนก็เต็มที่ของแอนแล้ว บางทีหลักพันแอนก็ไปแล้ว ไม่เลือกงานไม่ยากจนค่ะ แต่มันยังไม่โอเค เลยไปทางนู้นเลยแล้วกัน อย่างน้อยค่าเงินเขาก็สูงกว่าค่าเงินเรา อาจจะทำงานหลายชั่วโมง หรืออาจจะเป็นงานที่ทุกคนไม่ชอบ หรืออาจจะดูถูกที่ไปร้องเพลง ไปให้เขาจับหรือเปล่า ไม่ใช่แบบนั้นนะ เราไปร้องเพลงเก็บทริปธรรมดา เสร็จก็กลับบ้านนอนสบายใจ
ไม่กลัวคนมองไปขายตัว เพราะเขาไม่ได้ให้เรากิน คนที่ส่งลูกเรียนก็คือตัวเรา เพราะฉะนั้นคนที่มาพูดหรือคอมเม้นต์ด่าแอน แอนไม่สนใจ จะคิดว่าเป็นสัมภเวสี ให้มันผ่านไป ไม่ได้สนใจและก็ไม่ได้มองด้วย สุดท้ายแล้วลูกเราได้เรียนหนังสือ ได้กินข้าว และโตมาขนาดนี้ด้วยเงินของเรา มันจะมาจากไหนก็แล้วแต่ แต่มันมาจากการที่เราทำมาหากินด้วยความบริสุทธิ์ เวลาเราบินไปทำงาน ลุงกับป้าค่ะ เขาเลี้ยงน้องฑี ดีมากเลย ทำงานที่นู้น แอนต้องเซ็นสัญญาทุกๆ สามเดือนค่ะ เพราะเคยไปแบบ 25 วันแล้วเหมือนต่างด้าว เราต้องวิ่งหนีตำรวจ แต่ถ้าอยากไปถูกกฎหมาย ต้องไป 3 เดือนขึ้นไป ก็ต้องห่างลูกหน่อย แต่ก็เก็บเงินได้เป็นก้อน เพราะอยู่ที่นู้นค่าเงินมันสูง เราต้องประหยัด น่าจะออกไปจากวงการบันเทิงไทยเลยนะคะ จากตอนนั้นก็หลายปีแล้วนะ นี่ก็เริ่มๆ กลับเข้ามามีงาน เริ่มมีไปนู้นมานี่บ้าง งานละครก็เริ่มมีติดต่อมา เขาบอกให้เล่นบทแม่นะ เราบอกแม่ก็ได้ ได้หมด หัวใจตอนนี้ไม่มีใครเลย ตอนนี้อยากมีมาก ลูกไล่ให้ไปแต่งงานแล้วอ่ะ ลูกบอกเมื่อไหร่แม่จะแต่งงานสักที อยากมีน้อง แต่แอนคงไม่มีแล้วค่ะ คนเดียวก็เลี้ยงไม่ไหวแล้ว เคยมีคนนึงที่คุย แต่เหมือนเขาไม่ได้รักลูกเราจริงๆ แค่ซื้อของเล่นมาให้ ไม่ได้แปลว่าจะรักลูกเรานะ ต้องรักลูกเราด้วยค่ะ”
Cr.inn , @annie_teekayu
