เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

“ตร.ไซเบอร์” สอบ 30 ประเด็น “แม่แตงโม”

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.65 เวลา 10.00 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ปธ.ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยนางภนิดา ศิริยุทธโยธิน “แม่แตงโมนิดา” ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำกับ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เพื่อชี้แจงกรณีที่บังแจ็ค ปล่อยภาพที่กู้คืนมาได้จากโทรศัพท์มือถือของแตงโม

พล.ต.ท.กรไชยฯ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการเชิญนางภนิดา มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือของ “แตงโม นิดา” ที่ส่งไปให้บังแจ็ค ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อสอบถามประเด็นข้อสงสัยต่างๆ กว่า 30 ประเด็น ว่ามีความจำเป็นอย่างไรจึงส่งโทรศัพท์มือถือไปให้บังแจ็ค ทำไมถึงไว้ใจและได้ค่าตอบแทนหรือไม่อย่างไร เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี

ซึ่งหากพบว่าบังแจ็คกระทำความผิดเข้าข่ายความผิด ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 บัญญัติว่า “ถ้าความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทยได้กระทําลงนอกราชอาณาจักรไทย ให้อัยการสูงสุดหรือผู้รักษาการแทนเป็นพนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบหรือจะมอบหมายหน้าที่นั้นให้พนักงานอัยการหรือพนักงานสอบสวนคนใดเป็นผู้รับผิดชอบทําการ สอบสวนแทนก็ได้” เพื่อออกหมายแดงเข้าสู่กระบวนการติดตามตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย นอกจากนี้ยังถือว่าเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 16 นำภาพผู้เสียชีวิตไปเผยแพร่ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย

 

โดยส่วนตัวเห็นว่าบังแจ็คเป็นคนเพ้อเจ้อ ไม่ใช่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางแต่อย่างใด ซึ่งการสอบปากคำครั้งนี้ จะอนุญาตให้นางภนิดาและทนายความเข้าไปร่วมสอบปากคำกับพนักงานสอบสวนเท่านั้น จะไม่ให้บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปร่วมฟังการสอบปากคำเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้นำข้อมูลออกไปเปิดเผยสู่สาธารณชน

นางภนิดาฯ กล่าวสั้นๆ ว่า วันนี้ไม่มีความกังวลที่ต้องมาให้ปากคำ ยังมีความเชื่อมั่นในตัวบังแจ็ค เนื่องจากเป็นคนอัธยาศัยดีและมีเพื่อนในประเทศไทยอยู่เยอะ ก่อนจะเดินควงแขนนายอัจฉริยะฯ เข้าไปพบพนักงานสอบสวน

ต่อมาวันนี้ เวลา 14.00 น. ภายหลังการสอบปากคำ นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน “แม่แตงโม” พล.ต.ท.กรไชยฯ เปิดเผยว่า เบื้องต้นนางภนิดา ศิริยุทธโยธิน ให้การว่าเป็นไปตามข้อมูลที่เกิดขึ้นและได้ทราบถึงความจำเป็นที่นางภนิดาต้องให้โทรศัพท์กับบังแจ็ค เนื่องจากต้องการจะรู้ความจริง โดยภายในสัปดาห์นี้บังแจ็คจะส่งโทรศัพท์กลับคืนมา ซึ่งตนคิดว่าควรจะส่งมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ข้อมูลที่อยู่ในโทรศัพท์จะอยู่ครบหรือถูกเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น ต้องขอดูตัวเครื่องก่อน เพราะยังไม่มั่นใจในตัวบังแจ็ค ส่วนจะมีการซื้อขายโทรศัพท์หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบในเรื่องนี้ แต่ถ้ามีการซื้อขายก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องคดี ซึ่งทางนางภนิดานั้น เมื่อได้รับโทรศัพท์คืนมา ก็จะส่งให้ทางตำรวจ บช.สอท. ทันทีและในวันนี้นางภนิดายังได้มอบโทรศัพท์มือถือส่วนตัวให้กับตำรวจไซเบอร์ทำการเพื่อเก็บข้อมูลไว้แล้วเช่นกัน

ทั้งนี้ พล.ต.ท.กรไชยฯ ขออย่านำตนไปเกี่ยวข้องกับคดีของบุคคลบนเรือ เนื่องจากหน้าที่ของตนเกี่ยวข้องกับเรื่องทางเทคโนโลยีเท่านั้น โดยประเด็นกว่า 30 ประเด็นที่ได้สอบถามไป นางภนิดาก็ให้การครบถ้วน ส่วนที่บังแจ็คอ้างว่าได้รับอนุญาตจากนางพนิดาให้โพสต์นั้น นางพนิดาบอกว่าให้อนุญาตแค่บางครั้ง บางครั้งก็เป็นการโพสต์เกินสิ่งที่ตกลงกันไว้ ก็ขอให้เลิกพฤติกรรมการนำข้อมูลของแตงโมไปเผยแพร่

ด้านนายอัจฉริยะฯ เปิดเผยว่า สาเหตุที่นางภนิดายอมส่งโทรศัพท์มือถือให้บังแจ็ค เพราะอ้างว่าสามารถช่วยปลดล็อคโทรศัพท์มือถือของแตงโมได้ โดยยืนยันว่าไม่มีเรื่องเงินค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการซื้อโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ ยืนยันว่าได้หารือกับนางภนิดาแล้ว เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล พร้อมที่จะเปิดข้อมูลหลักฐานสำคัญทุกอย่าง โดยขณะนี้ทราบว่านาฬิกากับสร้อยคอของแตงโมหายไปและอยู่ระหว่างการติดตามข้อมูลสิ่งของที่สูญหายนี้มากกว่าที่จะให้น้ำหนักกับพยานหลักฐานต่างๆ ที่บังแจ็คกล่าวอ้าง และในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ตนจะไปร้องเรียนแพทยสภา ให้ตรวจสอบจริยธรรม แพทย์คนหนึ่งที่ให้คำแนะนำกับพนักงานสอบสวนคดีนี้ จากนั้นจะเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดกับเอกชนรายหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องคราบเลือดที่พบบนเรือ ที่กองบังคับการปราบปราม

ขณะที่นางภนิดาฯ ยืนยันว่าไม่ทราบว่าในประเทศไทย มีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถกู้โทรศัพท์มือถือได้ เพราะก่อนหน้านี้ได้ติดต่อกับบริษัทซึ่งเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้กู้โทรศัพท์มือถือแล้ว แต่ในขณะเดียวกันมีผู้สื่อข่าวสำนักข่าวหนึ่ง แนะนำให้รับโทรศัพท์ของบังแจ็ค ที่ก่อนหน้านี้พยายามติดต่อมาตลอด จนตนตัดสินใจพูดคุยกับบังแจ็ค ซึ่งอ้างว่าทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือทุกอย่าง โดยมีผู้มาสารภาพกับบังแจ็ค ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือทั้งหมดเป็นเช่นไร จึงทำให้ตัดสินใจส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็ค ส่วนการที่บังแจ็คอ้างว่าได้โอนจำนวน 300,000 บาท ให้นั้นไม่ได้เป็นการจ่ายค่าโทรศัพท์ แต่เป็นการโอนเงินระหว่างประเทศผ่านเวสเทิร์นยูเนี่ยนให้กับพยานคนหนึ่งในคดี ที่ได้มาเล่าความจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทราบ แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดว่าเป็นใคร ซึ่งขณะนี้บังแจ็คยืนยันว่าจะส่งโทรศัพท์คืนกลับมาให้ โดยในโทรศัพท์มือถือไม่มีภาพโป๊หรือข้อมูลที่ไม่เหมาะสมแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามตนไม่รู้สึกว่าการส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็คจะเป็นการตัดสินใจผิดพลาด เพราะตนอยากรู้ความจริง ขณะนั้นรู้สึกจนปัญญาแล้ว

ขณะที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ (ส.ส.เต้) ได้เดินทางตามมาทีหลังการสอบปากคำนางภนิดาแล้วเสร็จ เปิดเผยว่า วันนี้ได้มาให้กำลังใจนางภนิดาและนายอัจฉริยะ รวมทั้งพูดคุยสอบถามในรายละเอียดของเอกสารราชการและเอกสารทางธุรกรรมต่างๆ ที่เป็นหลักฐานเตรียมไว้ฟ้องตรงในคดีฆาตกรรม โดยจะยื่นฟ้องศาลภายในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ โดยขณะนี้ตนเองยังมีกำลังใจยังดีอยู่ แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมถึงมีความพยายามจะสกัดกระบวนการพิสูจน์ความจริง เหมือนกลัวว่ากระบวนการยุติธรรมจะเป็นไปในแนวทางที่ดีขึ้น ส่วนบังแจ็คถือเป็นคนที่นางภนิดาไว้ใจ ก็ต้องรักษาน้ำใจกัน แม้ว่าอัจฉริยะจะไม่ให้ราคาก็ตาม ซึ่งการรักษาน้ำใจเป็นยุทธวิธี เพื่อให้บังแจ็คส่งโทรศัพท์มือถือของแตงโมคืนมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

โดนฟาดแร๊งงง เบิร์ด เงียบเป็นเป่าสาก หลังชาวเน็ต ติง ไม่ช่วยเหลือ แตงโม ล่าสุด เบิร์ด เคลื่อนไหว..แบบนี้  

2 ราศีสุดปัง!! เส้นทางความรัก งาน เงิน เฟื่องฟู หมอช้าง เปิดดวง คือ..!!