เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก งานนี้นางไก่ หรืออดีตหญิงไก่ เตรียมเละยิ่งกว่าไก่สับ เพราะคดีผุดเพิ่มรายวันยิ่งกว่าดอกเห็ดซะอีก งานนี้คงได้นอนคุกกันยาวๆ เพราะข่าวล่าสุดที่ได้รับรายงานมานั้น ว่ามีคดีเพิ่มขึ้นมาอีก

นางไก่จุกอีก ศาลทหาร ศาลอาญา อนุมัติหมายจับหมิ่นเบื้องสูง-ค้ามนุษย์ หลังผู้เสียหายซัดทอดพฤติกรรมจาบจ้วง ส่วน บช.น.พบความผิดหลอกสาวลาวมาทำงาน แล้วแจ้งเท็จกล่าวหาลักทรัพย์เกือบ 3 ล้านบาท รรท.น.1 เปิดเอง ช่วงปี 51-59 นางไก่ก่อความผิดต่างกรรมต่างวาระมากกว่า 100 กรรม หากพบหลักฐานชัดเจนต้องดำเนินคดีทุกกรรม พร้อมส่งตำรวจสอบปากคำ 1 ใน 2 สาวลาวที่ สภ.เชียงแสน มัดนางไก่ ด้านทนายสงกานต์พา 3 ผู้เสียหายแจ้งจับนางไก่ ทั้งหลอกเงิน และอ้างเป็นคุณหญิงข่มขู่ 4 อดีตลูกจ้างสาวที่แม่ฮ่องสอน โร่ขอความคุ้มครองพยานหวั่นเครือข่ายหญิงไก่ยังมีอยู่มาก เกรงชีวิตไม่ปลอดภัย

ภายหลัง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.สั่งกองปราบฯดำเนินคดีนางมณตา หรือไก่ หยกรัตนกาญ ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ตาม ม.112 พยายามค้ามนุษย์ และแจ้งความเท็จ และถูกส่งตัวเข้าทัณฑสถานหญิงกลางในเวลาต่อมา หลังสร้างเรื่องแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งลูกจ้างในคดีอาญา จนถูกจับติดคุกติดตารางหลายคน ขณะที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. สั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในคดีที่นางไก่แจ้งความกล่าวหาอดีตลูกจ้างที่ สน.ประชาชื่น 9 คดี เบื้องต้นพบตำรวจ บก.น.2 และ สน.ประชาชื่นเกี่ยวข้อง 16 นาย มีความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ตร.ที่ 419/2556 และ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 เรื่องการไม่ตั้งใจทำหน้าที่

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. สั่งให้ ร.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศิริเจริญนำ รอง สว. (สอบสวน) กก.1 บก.ป.ไปขออำนาจศาลทหาร ออกหมายจับนาง
มณตา หยกรัตนกาญ หรือนางไก่ ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นควรออกหมายจับนางมณตา ในความผิดฐานดังกล่าว ตามหมายจับเลขที่ 40/2559 ลงวันที่ 21 ก.ค. โดยการขออนุมัติศาลออกหมายจับครั้งนี้ สืบเนื่องจากคำให้การของ น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือน้องก้อย ผู้เสียหายขณะทำงานเป็นลูกจ้างเมื่อปี 58 พบพฤติการณ์ของนางไก่ที่มีการแอบอ้างเบื้องสูง โดยวันที่ 22 ก.ค. พนักงานสอบสวนจะไปแจ้งข้อกล่าวหานางมณตา ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง พร้อมขออายัดตัวนางมณตาต่อศาลอาญา รัชดาฯ ต่อไป

สำหรับคดีที่นางไก่ ถูกดำเนินคดีใน ม.112 นั้น พนักงานสอบสวน บก.ป. พบการกระทำความผิด 3 กรรม ในช่วงปี 55-56 และ 58 โดย 1. คดีเมื่อปี 55 พยานเป็นแม่บ้านของบริษัทจัดหางานย่านรามอินทรา ที่นางไก่รับมาทำงานให้การเป็นพยาน 2.คดีปี 56 พยานให้การว่า นางไก่ชวนมาร่วมงานบริษัททำหวย ย่านประชาชื่น ได้มีการกล่าวอวดอ้างรู้จักเจ้านายในสถาบัน 3.คดีปี 58 ที่มี น.ส.ประภาวรรณ เป็นพยาน อยู่ในช่วงเวลาประกาศ คสช.ในเรื่องการพิจารณาในคดี ม.112 ต้องขึ้นศาลทหาร ส่วนคดี ม. 112 ที่เกิดขึ้นในปี 55- 56 นั้น ยังไม่มีประกาศคสช. พนักงานสอบสวนจึงได้ขอหมายจับคดี ม.112 กับศาลอาญารัชดา จึงเป็นที่มาของหมายจับดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ช่วงสายวันเดียวกัน นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พานางวริศรา แก้วปลัง อายุ 56 ปี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำ จ.สุรินทร์ และบรรณาธิการข่าว นสพ.ท้องถิ่นฉบับหนึ่งใน จ.สุรินทร์ นางสายใย ยิ่งภูมิ อายุ 87 ปี เจ้าของสถานพยาบาลนวดแผนไทย ย่านสาทร และพระสมุห์ชวลิต กิตฺติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดท่าซุงทักษิณาราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าพบ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. เพื่อให้ปากคำ รวมทั้งแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับนางมณตา หรือนางไก่ โดยนำภาพถ่ายและเอกสารที่เกี่ยวข้อง มามอบไว้เป็นหลักฐาน

นางสายใย ยิ่งภูมิ ให้การกับ พ.ต.ท.วรพงษ์ ภคเวส รอง ผกก.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. ว่าถูกนางไก่ร่วมมือกับพระครูปลัดสุรสิทธิ์ สีลคุโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดยี่ป่า อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา หลอกเงินไป 2.8 ล้านบาท โดยอ้างเป็นคุณหญิงสนิทสนมกับท่านผู้หญิง สามารถขอเครื่องราชฯชั้นสายสะพายให้ได้ และจะได้เป็นคุณหญิง ทำให้หลงเชื่อโอนเงินไป หลังจากรู้ถูกหลอกได้แจ้งความดำเนินคดี และร้องเรียนต่อเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ขณะที่พระสมุห์ชวลิต กิตฺติเมธี ให้ปากคำถึงพฤติกรรมนางไก่ และพวกข่มขู่ หลังเข้าไปตรวจสอบรื้อวัดยี่ป่า ตามคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 57 สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเจ้าคณะอำเภอบางไทร สั่งให้ตนเข้าตรวจสอบการบุกรุกที่รกร้าง หลังมีผู้ร้องเรียนว่า มีพระสงฆ์บุกรุกพื้นที่วัดร้างสร้างเป็นสำนักสงฆ์ มีเป้าหมายยกฐานะให้เป็นวัด พบพระครูปลัดสุรสิทธิ์ สีลคุโณ อ้างเป็นเจ้าอาวาสนำชายฉกรรจ์มาข่มขู่ ต่อมาปี 58 นางไก่ได้ปรากฏตัวมาข่มขู่ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ข้อพิพาทนี้ยุติไปแล้ว เนื่องจากเจ้าอาวาสวัดยี่ป่าและพวกได้ออกจากวัดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยมีผู้แจ้งเบาะแสความเคลื่อนไหวของเจ้าอาวาสรูปนี้ ไปอยู่ที่ จ.เชียงราย เบื้องต้นอยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบปากคำ หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริงตามที่ถูกกล่าวหาก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนนางวริศราให้การเบื้องต้นว่า สมัยที่อาศัยอยู่ใน จ.พิษณุโลก มีธุรกิจร้านอาหาร รวมทั้งยังเป็นบรรณาธิการ นสพ.ท้องถิ่น ได้ถูกนางไก่ฟ้องหมิ่นประมาท กลั่นแกล้งสร้างความเดือดร้อนให้หลายเรื่อง จนต้องย้ายไปอยู่ที่ จ.สุรินทร์ โดยก่อนหน้านี้ช่วงปี 36- 40 ตนเป็นประธานสมาพันธ์ธุรกิจบันเทิง จะมีการเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียนเป็นประจำทุกเดือนๆ นางไก่ได้เสนอตัวออกค่าใช้จ่ายเลี้ยงเด็ก แต่สุดท้ายกลับไม่ยอมจ่ายเงินกว่า 2 แสนบาท ภายหลังได้มีการไกล่เกลี่ยแต่ไม่เป็นผล กลับถูกนางไก่แจ้งความในข้อหากรรโชกทรัพย์ อัยการสั่งไม่ฟ้องคดี นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่นางไก่ฟ้องหมิ่นประมาทรวมแล้วกว่า 10 คดี

ด้านความเคลื่อนไหวที่กองบัญชาการตำรวจ นครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 11.30 น.วันเดียวกัน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เปิดเผยว่า ล่าสุดศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับนางมณตา ข้อหาค้ามนุษย์ ตามหมายจับที่ 1411/59 ลงวันที่ 21 ก.ค.59 กรณีนางไก่หลอกลวงหญิงชาวเขา 3 คน มาทำงานรับใช้แรงงานแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ เหตุเกิดที่บ้านนางมณตา ย่านประชาชื่น เมื่อเดือน พ.ค.51-ต.ค.53 สั่งให้ชุดสืบสวนสอบสวนไปสอบปากคำผู้เสียหายที่ จ.แม่ฮ่องสอน จากนั้นพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น รวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นศาลอาญาขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับดังกล่าว ผู้ต้องหาได้กระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ นอกจากนี้ตั้งแต่ปี 51-59 นางไก่ได้กระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระมากกว่า 100 กรรม หากชุดสืบสวนสอบสวนพบพยานหลักฐานชัดเจน ต้องดำเนินคดีทุกกรรมที่เคยก่อเหตุ

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวถึงหญิงชาวลาว 2 คน เหยื่อที่ถูกนางไก่หรือมณตาแจ้งความดำเนินคดีลักทรัพย์ด้วยว่า หญิงชาวลาวทั้งคู่เดินทางเข้ามาทำงานกับนางไก่เมื่อปี 54 หลังหนีออกจากบ้านนางไก่ ทั้งที่สวมชุดนอน ถูกนางมณตาแจ้งความดำเนินคดีข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ 12 รายการ มูลค่า 2,927,000 บาท ทั้งคู่ปฏิเสธ เจ้าหน้าที่ได้พยายามประสานให้ทั้ง 2 คนมาพบ เพื่อต้องการให้ความเป็นธรรมแก่ผู้บริสุทธิ์ และให้นานาชาติเห็นว่า ประเทศไทย รัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ บช.น. สามารถให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคนได้ เมื่อถามว่า ตำรวจจะขอเพิกถอนหมายจับหญิงชาวลาวได้หรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ต้องมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง แต่กรณีดังกล่าวเกิดตั้งแต่ปี 54 ผู้ถูกกล่าวหาไม่อยู่ จึงไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ภายหลังถึงมารู้พฤติกรรมนางไก่ ตอนนี้ทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาอยู่ที่ลาว ขนาดลูกอายุ 5 เดือนป่วยยังไม่กล้าพาข้ามมารักษาที่ไทย ได้ประสานกระทรวงยุติธรรมแล้ว ชาวลาวทั้งคู่มีหมายจับ เมื่อปรากฏต่อหน้าตำรวจก็ต้องจับ ต้องควบคุมตัว แต่พนักงานสอบสวนจะให้ประกันตัว โดยประสานกองทุนยุติธรรมช่วยเหลือเรื่องหลักทรัพย์ จากนั้นส่งเรื่องให้อัยการพิจารณาต่อไป

ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีความที่นางไก่ไปแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น มีความผิดฐานบกพร่องต่อหน้าที่ 16 นายนั้น พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า จะดูว่ามีการสรุปความเห็นมาอย่างไร ไม่ต้องกังวลว่าจะมีการช่วยเหลือปกปิด ยึดหลักความถูกต้องเป็นหลัก ยังไม่พบความผิดอาญาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เบื้องต้นมีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ทั้งนี้นางมณตาอาจจะหลอกลวงสร้างภาพให้หลงเชื่อว่ามีอิทธิพลรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ บางคนจิตใจอ่อนไหวรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็อาจหลงเชื่อ ต้องดูทั้งหมดว่าทุจริตหรือไม่ แต่ถ้าเกรงใจก็ถือว่าไม่ทุจริต ต้องให้ความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม จะตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าคณะ เมื่อถามอีกว่า มีตำรวจบกพร่องเพิ่มขึ้นมาอีก 1-2 คนย้ายออกนอกหน่วยไปแล้ว พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ถ้าอยู่นอกหน่วยก็ส่งเรื่องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ให้ต้นสังกัดดำเนินการต่อไป

มีรายงานว่า ชุดสืบสวนสอบสวนคดีนางไก่ สามารถติดต่อนางกาบแก้ว 1 ใน 2 หญิงชาวลาว อดีตสาวใช้ เหยื่อที่ถูกนางไก่แจ้งความดำเนินคดีข้อหาร่วมกันลักทรัพย์มูลค่าเกือบ 3 ล้านบาท ได้แล้ว โดย พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รอง ผบช.น. จะนำชุดสอบสวนไปสอบปากคำในฐานะผู้เสียหาย และพยานเพื่อดำเนินคดีนางไก่ ข้อหาแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษ ที่ สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย ในเช้าวันที่ 22 ก.ค. ส่วนสาวชาวลาวอีกคนที่ถูกนางไก่แจ้งความดำเนินคดีกลั่นแกล้งพร้อมกับนางกาบแก้ว ทราบชื่อแล้วคือ น.ส.ธรรมา แต่ขณะนี้ยังตามหาตัวไม่เจอ

ส่วนที่ สภ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ได้มี 4 อดีตลูกจ้างหญิงนางไก่ เข้าขอความคุ้มครองจาก น.ส.พัชรีรัตน์ จิรสถิตสิน พนักงานกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะเครือข่ายของนางไก่ยังมีอยู่อีกจำนวนมาก อีกทั้งยังเคยเข้ามาในพื้นที่ก่อนหน้านี้ โดย น.ส.พัชรีรัตน์เผยว่า อดีตลูกจ้างนางไก่ทั้ง 4 คน ขอให้เข้าคุ้มครองแบบทั่วไป คือขอให้มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเยี่ยมเยียนและดูแลที่
บ้านตามความเหมาะสม

ที่มา – ไทยรัฐ