เบียดกันตายฮาโลวีนอิแทวอนพุ่ง 151 ราย ส่วนมากเป็นวัยรุ่นช่วงอายุ 20 ปี ทางการเกาหลีใต้รายงานล่าสุดว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการเบียดกันตายในพื้นที่อิแทวอนของกรุงโซล เพิ่มขึ้นแล้วอย่างน้อยเป็น 151 ราย
รวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 82 ราย โดยผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่ เป็นเพียงวัยรุ่นในช่วงอายุ 20 ปีที่มาฉลองงานปาร์ตี้ฮาโลวีนกันนับแสน บนถนนเส้นตรงเดี่ยวของสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนเขตอิแทวอน สำนักงานดับเพลิงของทางการเกาหลีใต้ระบุว่า ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บหลายสิบรายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว
ในขณะที่ตัวเลขการเบียดกันตายในถนนของเขตอิแทวอนเมื่อช่วงค่ำของวันเสาร์ที่ผ่านมา (29 ต.ค.) ยังคงพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ ทางการเชื่อว่าความสูญเสียในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการที่ผู้คนจำนวนมากบนถนนเส้นเดียวเบียดตัวกันในพื้นที่ใกล้โรงแรมฮามิลตัน จุดจัดงานปาร์ตี้ฮาโลวีนหลักของกรุงโซลในครั้งนี้ หลังจากเริ่มมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเบียดกันบนถนนอิแทวอน เจ้าหน้าที่เหตุฉุกเฉินของทางการกว่า 400 นาย รวมถึงรถของทางการกว่า 140 คันได้เข้ากู้ภัยในพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจเท่าที่สามารถส่งเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้
ปัจจุบันนี้ ทางการยังคงสืบสวนหาตัวเลขที่แน่ชัดว่ามีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บกี่ราย จากรายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นประชาชนในวัยช่วง 20 ปีเท่านั้น ในขณะที่พยานในที่เกิดเหตุระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจประสบกับความยากลำบากในการควบคุมฝูงชนที่เบียดตัวกันแน่น ทั้งนี้ การฉลองปาร์ตี้ฮาโลวีนในครั้งนี้ของพื้นที่อิแทวอน นับเป็นการฉลองครั้งแรกหลังจากที่รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศยกเลิกมาตรการคุมการระบาดโควิด-19 ทั้งการใส่หน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล จากรายงานล่าสุดระบุว่า ในบรรดาผู้เสียชีวิต 151 ราย ที่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นในช่วงวัย 20 ปี ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 82 ราย อย่างไรก็ดี ผู้เสียชีวิต 19 รายในนั้นเป็นชาวต่างชาติ ในขณะที่มีตัวเลขชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บ 15 รายในเหตุการเบียดกันครั้งนี้
รายงานบางแห่งระบุว่า ประชาชนในพื้นที่ปาร์ตี้เริ่มเบียดเสียดกัน เมื่อมีผู้ได้ยินว่ามีดาราผู้มีชื่อเสียง ที่ทางรายงานไม่ได้ระบุว่าเป็นใคร เดินทางมายังบาร์แห่งหนึ่งของพื้นที่อิแทวอน อย่างไรก็ดี ทางการเกาหลีใต้ยืนยันว่า ตนกำลังเดินหน้าสืบสวนสอบสวนต้นเหตุที่แท้จริงของเหตุการเบียดกันตายในครั้งนี้อยู่ ยุนซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้สั่งให้ทางการเร่งสืบสวนสอบสวนเหตุสลดในครั้งนี้แล้ว และสั่งการให้เจ้าหน้าหน้าที่เดินหน้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผู้นำทั่วโลก เช่น โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ได้ส่งสารแสดงความเสียใจต่อเหตุสลดในครั้งนี้มายังเกาหลีใต้แล้ว
เหตุสลดเบียดกันตายในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากการฉลองฮาโลวีน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานกว่าแสนราย ในพื้นที่อิแทวอนของกรุงโซล โดยผู้เข้าร่วมงานมีการเบียดเสียดกันบนถนนเส้นเดียวทางตรง ซึ่งเป็นถนนที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนในกลางกรุงโซล พยานในที่เกิดเหตุรายงานพบเหตุคนเบียดกันจนมีคนหมดสติ ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ชีพจะเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ตามมาด้วยรายงานพบคนหัวใจหยุดเต้นหลายสิบรายทั่วทั้งบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนที่รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจะมีพุ่งสูงขึ้นถึง 151 ราย
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (30 ต.ค.) เพื่อแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของเหยื่อจากเหตุสลดในครั้งนี้ และขอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บ “ฟื้นตัวโดยเร็ววัน” ยุนระบุว่า ตนรู้สึก “ทุกข์ใจ” อย่างมากที่พบรายงานมหันตภัยในครั้งนี้ ณ ใจกลางเมืองหลวงของประเทศ พร้อมจะมีการออกมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะเดียวกันอีกในอนาคต ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ยังประกาศช่วงเวลาไว้ทุกข์ “จนกว่าการรับมือกับอุบัติเหตุจะได้รับบทสรุป” โดยอุบัติเหตุเบียดกันตายในปาร์ตี้ฮาโลวีนครั้งนี้ นับเป็นเหตุร้ายแรงที่สุดที่เกิดในเกาหลีใต้ นับตั้งแต่เหตุการณ์เรือล่มเมื่อปี 2557 ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 304 ราย โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเพียงแค่เด็กวัยมัธยม
การเบียดกันตายในกรุงโซลครั้งนี้ นับเป็นเหตุเบียดกันตายที่รุนแรงที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ มีประชาชนชาวซาอุดีอาระเบีย 2,000 ราย เสียชีวิตจากเหตุเบียดกันตาย ขณะกำลังประกอบพิธีฮัจญ์ ณ กรุงเมกกะของซาอุดีอาระเบียเมื่อปี 2558 นอกจากนี้ ยังมีเหตุเบียดกันตายในสนามฟุตบอลของพื้นที่ชวาตะวันออกของอินโดนีเซีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 130 ราย รวมถึงในอินเดียที่มีรายงานผู้เสียชีวิต 115 ราย จากเหตุเบียดกันตายและจมน้ำจากการกระโดดจากสะพาน ในงานเทศกาลทางศาสนาฮินดูในมัธยประเทศเมื่อปี 2556
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เหตุสลดในอิสราเอล ผู้คนมาร่วมงานเทศกาลนับแสน เหยียบกันตายเกือบครึ่งร้อย