เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ที่ สภ.เมืองตรัง นายสมาน อายุ 70 ปี กรรมการอิสลาม จ.ตรัง พร้อมนายสมัชชา อายุ 58 ปี โต๊ะอิหม่ามมัสยิดแห่งหนึ่งในอ.ย่านตาขาว พร้อมด้วยเครือข่ายทั้งศาสนาไทยพุทธและมุสลิม และตัวแทนผู้นับถือศาสนาอิสลาม จ.ตรัง นับ 10 ชีวิต ได้นำหลักฐานเข้าพบ พ.ต.ท.จรูญ สังขารา สว. (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง

โดยแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งมีการแต่งกายลักษณะคล้ายพระภิกษุสงฆ์ ได้มีการโพสต์คลิปวิดีโอผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว และในเว็บไซต์ยูทูป เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 65 ถึงพฤติกรรมที่พูดดูหมิ่นเหยียดหยามศาสนาอิสลาม บิดเบือนหลักคำสอนในอัลกุรอาน พร้อมทั้งได้เอาเท้าเหยียบอัลกุรอาน ซึ่งคลิปดังกล่าวได้มีการแชร์อย่างล้นหลามในโลกออนไลน์

ก่อนที่นายสมัชชา ได้อ่านแถลงการณ์ของสภามุสลิม ตรัง เรื่อง ขอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทางกฎหมายเพื่อให้ยุติการกระทำที่สร้างความขัดแย้งระหว่างศาสนา เนื้อหาระบุว่า จากกรณีมีพระภิกษุรูปหนึ่งได้พูดบิดเบือนหลักการคำสอนในอัลกุรอาน และได้เอาเท้าเหยียบอัลกุรอาน ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

การแสดงพฤติกรรมดังกล่าว ได้สร้างความไม่พอใจให้กับพี่น้องมุสลิมทั้งในประเทศและทั่วโลก อัลกุรอานเป็นคัมภีร์ที่มุสลิมศรัทธา เป็นธรรมนูญชีวิตของมุสลิม การกระทำของพระที่เอาเท้าเหยียบอัลกุรอาน มีเจตนาเพื่อยั่วยุให้พี่น้องมุสลิมเกิดความโกรธแค้นและเป็นการกระทำที่ดูหมิ่นศาสนาอย่างร้ายแรง อันอาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางศาสนาและอาจเกิดความรุนแรง สร้างความเกลียดชังของคนที่มีความเชื่อต่างกันได้

สภามุสลิมตรัง มีความกังวลและห่วงใยต่อเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่สุด หากยังปล่อยให้มีการการะทำเหยียบย่ำ ความเชื่อ ความศรัทธา และบิดเบือนหลักการคำสอนของศาสนาอิสลาม อาจจะเกิดความขัดแย้งทางศาสนาที่ไม่อาจควบคุมได้ สังคมจะไม่สงบสุขอีกต่อไป ดังนั้น สภามุสลิมตรัง จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ใช้อำนาจหน้าที่ จัดการกับการกระทำดูหมิ่นศาสนาบิดเบือนหลักการคำสอน และผู้ที่สร้างความขัดแย้งทางศาสนา ให้ยุติการกระทำดังกล่าว และดำเนินการทางกฎหมายอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป

พร้อมขอให้รัฐบาลเร่งสร้างความเข้าใจ ให้ความรู้ที่ถูกต้อง ปราบปรามคณะบุคคลหรือบุคคลที่พยายามสร้างความขัดแย้งทางศาสนาให้หมดไปจากสังคมไทยให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง ลุกลามบานปลายจนมีการแบ่งแยก แบ่งฝ่าย และนำไปสู่การล่มสลายของสังคมไทยซึ่งเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ และเป็นสังคมที่มีความสงบสันติมาช้านาน

ด้านนายนึก อายุ 73 ปี ชาวไทยพุทธ ที่มาร่วมแจ้งความในครั้งนี้ด้วย กล่าวว่า ตนในฐานะคนพุทธมองว่าการกระทำของพระรูปดังกล่าว ไม่ถูกต้อง ทำให้ศาสนาและสังคมแตกแยก ซึ่งทุกศาสนาสอนให้ทำความดี และอยากฝากไปบอกไปถึงพระทำกระทำดังกล่าวให้หยุด ซึ่งห่มผ้าเหลือง แต่กลับทำไม่ถูกต้องผิดศีลธรรม

ขณะที่ นายสมาน กรรมการอิสลาม จ.ตรัง กล่าวว่า อัลกุรอาน ซึ่งองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ สละทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้อัลกุรอาน ได้แปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทย เพื่อให้มุสลิมในประเทศไทย ได้เรียนรู้และทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งการกระทำของพระรูปดังกล่าวไม่ใช่พระแล้ว แต่เป็นโล้น ห่มเหลือง

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความและรับเลขคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งจะเร่งติดตามหาตัวพระรูปดังกล่าวว่าอยู่ในวัดใด จังหวัดใด เพื่อนำเข้าสู่ขบวนการตามกฎหมาย เบื้องต้นอาจเข้าข่ายผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 206 ในฐานดูหมิ่นเหยียดหยามศาสนา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งงตาแตก พระทำงานแคลอรี่ !! หนุ่มแทบหลุดขำ เจอพระปลอมมีพิรุธ รีบบอกว่าทำงานส่งของให้แคลอรี่(ชมคลิป)

ชาวบ้านสงสัย ชายแต่ตัวเหมือนพระมาเรี่ยไรเงิน แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ เป็นพระปลอม