เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

มีกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part5.2 แจ้งเรื่องมายังผู้สื่อข่าวว่ามีพระเกจิชื่อดังจังหวัดขอนแก่น ส่งภาพของลับผู้ชายที่ระบุว่าเป็นพระเกจิดังกล่าวส่งไปให้ผู้ชายที่คบหากันเป็นแฟน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนช่วยตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรและเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาด้วย และหากเป็นจริงก็ไม่อยากให้พุทธศาสนาต้องมัวหมอง เพราะพระเกจิดังกล่าวมีลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทั้วประเทศ

โดยผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้ที่นำภาพดังกล่าว ส่งให้ทางเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ Part5.2 โดยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ตนเองเคยเป็นโยมอุปัฏากที่วัดของพระครูบาชื่อดังรูปนี้ โดยคอยดูแล ไปทำบุญ ไปช่วยสร้างวัด อยู่มานานพอสมควร จู่ๆมีผู้ชายคนหนึ่งทักมาหาตนเอง บอกกับตนเองฝากไปถึงครูบาว่าให้ปลดบล็อกให้หน่อย ตนเองเลยถามว่าทักมาจากไหน ซึ่งชายดังกล่าวก็ให้บอกว่า เจนทักมาพระครูบาท่านรู้ ตนเองก็ได้บอกครูบาให้ แต่ครูบาไม่ปลดบล็อกให้ ชายดังกล่าวจึงโมโห บอกว่าตัวเองเป็นแฟนครูบา คบกับครูบามาสองปีแล้ว ตนเองก็ตกใจ ถามกลับไปว่าพูดมั่วหรือเปล่า เพราะว่าตนเองเป็นลูกศิษย์ ก็พยายามถามว่ามั่วหรือเปล่า ชายดังกล่าวบอกว่าตัวเองมีหลักฐานข้อความทุกอย่าง แล้วก็ส่งภาพข้อความแช็ตที่ครูบาพูดคุยกับชายดังกล่าวมาให้ดู โดยเป็นภาพที่ชายดังกล่าว ระบุว่า เป็นครูบาส่งภาพของลับมาให้หลายภาพในแช็ตข้อความ และยังบอกอีกว่า คิดถึงอยากจุดจุดจุด ซึ่งพูดทำนองว่าต้องการมีอะไรกับครูบา โดยทั้งหมดเป็นภาพที่ชายดังกล่าวแคปหน้าจอส่งมาให้ดูเป็นภาพที่พูดคุยกันผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของครูบา ชายดังกล่าวเล่าให้ฟังอีกว่า คบหากับครูบามาสองปี ได้เสียกันแล้วหลายครั้ง แต่ข้อมูลที่เก็บมามีประมาณ 4 คน ซึ่งทุกคนตนเองมีเฟซบุ๊กทั้งหมด แต่ตอนนี้คิดว่าชายดังกล่าวน่าจะไม่ออกมาเปิดเผยแล้ว เพราะมีการพูดคุยเจรจาว่าจะจ่ายกันเป็นเงิน 120,000 บาท เพื่อปกปิดหลักฐานให้

ซึ่งหลักฐานที่ชายดังกล่าวบอกนั้น เป็นพวกคลิปวิดีโอที่มีการร่วมเพศกัน ระหว่างครูบา และชายดังกล่าวที่ออกมาพูดกับตนเอง เพราะชายดังกล่าวนั้น ต้องการเงิน เนื่องจากชายดังกล่าวนั้นเป็นคนที่ครูบาเคยส่งเสียทั้งค่าเล่าเรียน ค่าอยู่กิน และเหมือนว่าครูบาไปมีแฟนใหม่ทั้งที่อยู่ในผ้าเหลืองและจะทิ้งชายคนนี้ไป โดยชายคนนี้บอกว่า เขาเลิกกับแฟนคนเก่า เพื่อมาคบกับครูบาอย่างจริงจัง ทำไมถึงมาทิ้งกันไป ต้องการเงินเป็นค่าเสียหาย

หลังจากนั้นตนเองในฐานะที่เป็นลูกศิษย์ จึงเข้าไปสอบถามกับทางครูบาว่าใช่เรื่องจริงไหม ซึ่งทางครูบาเองก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง และครูบาบอกอีกว่าขอชีวิตใหม่ได้ไหม ไม่อยากให้เปิดโปงเรื่องนี้ ซึ่งตนเองบอกกับครูบาว่า ถ้าไม่อยากให้เปิดโปง ครูบาต้องทำให้เห็นก่อนว่า สำนึกจริงๆและจะไม่ทำอีก โดยให้เข้าถ้ำ เพื่อปฏิบัติธรรม 1 เดือน โดยตนเองเป็นคนนิมนต์ไปเอง ช่วงที่มีข่าวว่าท่านไปธุดงค์ 1 เดือน หลังมีข่าวช้างคู่บารมีหายและมีโจรเข้ามาลักทรัพย์ในกุฏิครูบา พร้อมแนะนำว่า ถ้าพระครูบาไปเข้าถ้ำแล้ว ถ้าเปลี่ยนชีวิตใหม่ทำใหม่ ตนเองก็ให้โอกาสได้ ตนเองจะไม่พูดเรื่องนี้ และตนเองยังแนะนำให้ปิดเฟซบุ๊กที่ติดต่อกับผู้ชายแล้วเปิดเฟซบุ๊กใหม่ แต่ปรากฎว่าท่านครูบาไม่สามารถทำได้ ไปคุยกับผู้ชายคนอื่นอีก ตนเองจึงมองว่าเรื่องนี้ควรที่จะมีการออกมาเปิดเผย เพราะคนมาทำบุญกับครูบาเยอะ มีอยู่ทั่วประเทศ ที่มากราบไหว้ ตนเองมองแล้วรู้สึกไม่โอเค บอกอีกว่า พฤติกรรมแบบนี้ของครูบามีมานานและมีมาต่อเนื่อง เท่าที่ตนเองมีข้อมูลในมือก็เป็นผู้ชายทั้งหมดรวม 4 คน ตนเองสงสารคนเฒ่าคนแก่ ที่มีจิตศรัทธาในบารมีครูบาที่สร้างสมมาจนมีลูกศิษย์ลูกหาอยู่ทั่วประเทศ ตนเองไม่เข้าไปหลายเดือนแล้ว พอตนเองออกไปก็ได้ยินว่าครูบาไปพูดให้ตนเองเสียหาย บอกว่าตนเองเอาเงินวัดไป ซึ่งตนเองไม่เคยเอาไปและ มีแต่เอาเงินไปทำบุญทุกบาททุกสตางค์ตนเองมีหลักฐานหมด

นอกจากนี้ ลูกศิษย์คนดังกล่าวยังเล่าอีกว่า เคยมีญาติโยมมีจิตศรัทธานำเงินมาถวายสมทบสร้างหลังคาวิหารวัดจำนวน 1 ล้านบาท แต่ครูบาไม่ได้นำเงินจำนวนนี้มาทำหลังคาแต่อย่างใด แต่นำเงินไปเลี้ยงผู้ชายหมด และตนเองก็อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินของครูบาด้วย เพราะโอนให้ผู้ชายวันหนึ่งเยอะมาก แถมมีการโพสต์ข้อความว่า ซื้อความสุขให้ตัวเอง ก่อนเงินหาใหม่ ทำให้ตนเองยิ่งรู้สึกไม่โอเค เพราะเอาเงินจากคนทำบุญไปเลี้ยงผู้ชาย ตนเองยืนยันว่าเรื่องที่กล่าวหาครูบานั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ทุกอย่างมีหลักฐานเป็นข้อความแช็ตที่ครูบาคุยกับผู้ชายทั้งหมด ซึ่งเองได้มีโอกาสดูโทรศัพท์ของครูบาจึงได้แคปหน้าจอเป็นหลักฐานทั้งหมดเก็บไว้ด้วย แต่ในส่วนของคลิปที่ชายดังกล่าวบอกว่ามีอะไรลึกซึ้งกับครูบานั้น ตนเองทนดูไม่ได้จึงไม่ได้ให้ชายดังกล่าวส่งมา และไม่ได้คิดจะทำลาย แต่ให้โอกาสแล้วไม่กลับตัวตนเอง จึงออกมาเปิดเผยกับเพจต่างๆในตอนนี้ โดยตนเองจะนำเอกสารหลักฐานต่างๆมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน เพื่อให้เรื่องดังกล่าวนั้นมีการตรวจสอบตามขั้นตอน ยืนยันว่าไม่เคยคิดจะทำลายล้างพุทธศาสนา หรือทำลายครูบาด้วยเหตุส่วนตัว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นยืนยันว่า เป็นเรื่องจริง

ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังลูกศิษย์ของครูบาที่วัด เพื่อจะสอบถามให้ความเป็นธรรมกับทางครูบา โดยเบื้องต้นทางลูกศิษย์แจ้งว่า ทางครูบาทราบเรื่องแล้ว แต่ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ โดยเรื่องดังกล่าวนั้นจะขอประชุมทางสงฆ์ก่อน และให้ทางทนายความดำเนินการในส่วนต่างๆแล้ว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ก่อนหน้านี้นั้น ทางครูบา ได้เคยประกาศตามหาช้างพังแม่บัวนา ซึ่งเป็นช้างที่แม่น้ำหนึ่งไถ่ชีวิตมาถวายเป็นช้างคู่บุญจำนวน 2 ตัวเป็นเงิน 1.3 ล้านบาท ก่อนที่ช้างพังแม่บัวนาจะกลับมาที่วัด นอกจากนี้ครูบารูปนี้ยังเป็นเกจิชื่อดัง มีชื่อเสียงในการขุดพระโบราณ ซึ่งนั่งสมาธิสามารถชี้จุดว่ามีพระฝังดินอยู่ พร้อมทั้งวาดภาพพระพุทธรูปที่จะขุดเจอและชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธาจำนวนมาก รวมทั้งนักการเมืองคนมีสีต่างๆทั่วประเทศก็ศรัทธาเลื่อมใส จากการขุดพระของครูบาไ ติดตามการขุดพระ ซึ่งการขุดแต่ละครั้งนั้นสร้างความแปลกใจและความเหลือเชื่อ ซึ่งยังไม่สามารถพิสูจน์ได้จนถึงปัจจุบัน ในช่วงที่มีการขุดพระนั้นมีมาหลายปีแล้ว โดยครูบาได้นั่งสมาธิกำหนดจุดขุดทั้งในน้ำ บนดิน ในบ้านคน ซึ่งส่วนใหญ่ก็พบพระตามที่ครูบาวาดภาพ ก่อนจะไปขุดและพอขุดก็พบว่าเป็นพระพุทธรูปปางต่างๆตามที่ครูบาวาด และล่าสุดเมื่อ 5 วันที่ผ่านมา ครูบาได้โพสต์ภาพขณะนั่งสมาธิอยู่สถานที่แห่งหนึ่ง ลักษณะเหมือนเป็นถ้ำ ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมข้อความระบุว่า “เจ็บ แต่ไม่พูด เสียใจ แต่ไม่ให้ใครเห็นน้ำตา แค้นในใจ แต่ไม่แสดงอาการ ให้มันถูกใจเขา ให้มันผิดใจเราเสีย ย่อมเสียทุกอย่างเพื่อให้ถูกใจเขา เมตตาเขา เขาถึงแทงข้างหลัง สมเราแล้วที่ได้เกิดมาเป็นนักรบ รบต่ออุปสรรค ทุกประการ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แฉ 2 พระฉาว รับบริจาคไถ่ชีวิตโค กระบือบังหน้า ใช้ชีวิตหรูหรา เที่ยวฟุ่มเฟือย

ฉาว วงการสงฆ์ สื่อดังแฉพระ มั่วสีกา ติดการพนัน ยืมเงินยูทูปเบอร์ พิธีกรดังก็เคยโดนยืม ?