เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

แม่โวยนำลูกชายวัย 1 ขวบเศษ ไปฝากเลี้ยงวันแรก เนอร์สเซอรีโทรมาแจ้งว่าออกไปกินข้าว กลับมาเจอลูกตัวเขียวนอนคว่ำหน้าเอาผ้าปิดจมูกไม่หายใจ หมอบอกโคม่าเปอร์เซ็นรอดไม่มี แม่เผยช็อกแทบไม่มีสติ เนอร์สเซอรีละเลยปล่อยเด็กนอนลำพังไม่ดูแล คาใจวงจรปิดพังเปิดดูไม่ได้

นางสาวพัชรา ยิ่งยงสันต์ เล่าว่าเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนเองได้นำ ‘น้องกุน’ ลูกชายวัย 1 ขวบ 11 เดือน จ้างฝากเลี้ยงที่เนอสเซอรี่แห่งหนึ่งย่านหนองจอก กทม. ใกล้กับบ้านพัก ต่อมาครูซึ่งเป็นพี่เลี้ยงโทรมาแจ้งว่าน้องไม่หายใจแล้วอ้างว่าผ้าปิดจมูก ก่อนที่ทางเนอร์สเซอรีจะรีบนำนำส่งโรงพยาบาล หมอบอกตอนนี้โอกาสรอดแทบจะไม่มี ขอดูกล้องวงจรปิดเนอร์สเซอรีบอกใช้ไม่ได้

แม่ของน้องกุน เล่าทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ธ.ค.65 ตนได้พาลูกไปลองทดสอบก่อนเป็นสัปดาห์ ว่าลูกจะสามารถอยู่เนอร์สเซอรีได้หรือไม่ ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจเอาเทส เขาบอกมีกล้องวงจรปิดคุณแม่สามารถเปิดดูได้แต่จะไม่ให้ดูตลอด ตนก็มั่นใจว่ามีกล้องวงจรปิด กระทั่ง ม.ค. 66 ตนกับสามีก็จะสลับกันเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน ถ้าตนไปทำงานสามีจะเป็นคนดูแล

แต่เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 66 ตนกับสามีต้องไปทำงานทั้งคู่ จึงนำลูกไปฝากเลี้ยงที่เนอร์สเซอรี เป็นวันแรก โดยเวลา 10.42 น.ครูได้ส่งคลิปของน้องกุน ขณะดื่มนมมาให้คุณแม่ดู จากนั้นเวลา 12.42 น. ตนทักแชตไลน์ไปถามว่าน้องกินข้าวมั้ย นอนหลับหรือเปล่า แต่เนอร์สเซอรี่ไม่อ่านไลน์และไม่ตอบกลับ กระทั่ง 14.23 น. ทางเนอร์สเซอรี่ โทรมาแจ้งว่าน้องไม่หายใจแล้ว เขาบอกว่าน้องนอนเอาผ้าปิดจมูกตัวเอง คุณแม่บอกว่าผ้าผืนดังกล่าวไม่หนา เป็นผ้าผืนที่น้องติดมาตั้งแต่เกิด

ทางเนอร์สเซอรียังย้ำแจ้งกับคุณแม่อีกว่า น้องเอาผ้าปิดจมูกหยุดหายใจตั้งแต่อยู่เนอร์สเซอรีแล้ว จากนั้นเนอร์สเซอรี ได้นำส่งโรงพยาบาลตัวเขียวหมดแล้ว ทางโรงพยาบาลปั๊มหัวใจขึ้นมาและไม่สามารถรักษาต่อได้เพราะไม่มีเครื่องช่วยหายใจเด็ก จึงส่งตัวไปรักษาโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง โรงพยาบาลแห่งที่สอง บอกว่าน้องขาดหายใจมานาน ตอนนี้โคม่าเปอร์เซ็นรอดไม่มี ตนจึงให้หมอช่วยประคองอาการให้หน่อย จะให้หยุดรักษาเลยตนยังทำใจไม่ได้ หมอบอกกับแม่ตรงๆ ว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ที่เด็ก 1 ขวบ 11 เดือน นอนแล้วจะเอาผ้าปิดจมูก หมอเรียกไปคุยและบอกว่า อยากให้เคสของตนส่งต่อให้พ่อแม่คนอื่น

ทั้งนี้คุณแม่ ได้ไปของดูกล้องวงจรปิด ทางเนอร์สเซอรี่บอกว่ากล้องพัง ตนจึงพยายามสอบถามถึงเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ยืนยันคำเดิมว่าน้องเอาผ้าปิดจมูก แต่ที่คุณแม่ติดใจเพราะไม่มีกล้องวงจรปิดให้ดู แม่ก็อยากรู้ว่าเป็นไปตามที่เนอร์สเซอรีบอกจริงๆ หรือเปล่า ทำไมกล้องจึงพังจังหวะเหมาะเจาะ อย่างไรก็ตามตนได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานนีตำรวจ ซึ่งตำรวจก็ได้ไปขอดูกล้องวงจรปิด เนอร์สเซอรีอ้างว่ากล้องพังเพราะไม่ได้ใช้งานนาน

คุณแม่ บอกว่า “อยากเรียกร้องให้เนอร์สเซอรีออกมาชี้แจง โดยส่วนตัวถ้าไม่มีวงจรปิดตนจะไปเอาลูกไปฝากเลี้ยงอยู่แล้ว แต่ตอนที่จะไปเขายืนยันว่ามีกล้องวงจรปิดจึงกล้าเอาไป พอเกิดเรื่องปรากฎว่ากล้องใช้ไม่ได้ มันเกิดกับเด็กไม่รู้เรื่อง เนอร์สเซอรีเปิดถูกหลักหรือเปล่าตนก็ไม่รู้ แต่ที่แม่เลือกเพราะอยู่ใกล้บ้าน กล้องไม่ดีรับเลี้ยงเด็กได้อย่างไร มันไม่ยุติธรรมสำหรับตน ความปลอดภัยมันไม่มี”

นางสาวพัชรา ไม่เชื่อว่าผ้าปิดจมูกแล้วทำให้น้องไม่หายใจ ไม่ได้คิดว่าน้องโดนทำร้าย แต่เขาละเลยเกินไปหรือเปล่า โดยช่วงเกิดเหตุทางครูพี่เลี้ยงบอกว่าออกไปกินข้าวตอน 13.15 น. กลับมาดูอีกทีประมาณ 14.00 น. เห็นน้องนอนคว่ำหน้าเอาผ้าปิดจมูกเหมือนเอาปิดหน้า เห็นตัวเขียวไม่หายใจ ก่อนจะโทรมาแจ้งใวห้คุณแม่ทราบ ช็อกไปหมดแทบไม่มีสติ

ทีมข่าวโทรสอบถามไปยังเนอร์สเซอรี บอกว่ายังไม่สะดวกให้ข้อมูลแล้วก็ตัดสายทิ้ง นอกจากนี้มีคลิปเสียงที่คุณแม่ โทรหาเนอร์สเซอรีเพื่อสอบถามขอดูกล้องวงจรปิด น้องเป็นอย่างนี้จะต้องดูกล้อง ซึ่งทางเนอสเซอรี่บอกว่าดูไม่ได้ เข้าใจว่าคุณแม่ไม่โอเค

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สิ้นสุดคดีดัง!!! รับเลี้ยงเด็กเถื่อนจนเด็กเสีย เมื่อปี61แม่ลั่น!!! ทวงความยุติธรรมให้ลูกแล้ว

รับไม่ได้! สาวแฉสถานรับเลี้ยงเด็กสุดฉาว จับเด็กมัดมือ-เท้า ผูกติดเปล