เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

หลังจากที่เป็นกระแสข่าวเม้าท์อยู่นาน ประเด็นมีบ้านเล็กบ้านน้อย โโดยมีคำใบ้เอียงซ้าย และ#หนาวแสงนีออน จนนำไปสู่การโยงซุปตาร์สาวชมพู่อารยา เอฮาร์เก็ตกับสามีนักธุรกิจน็อตวิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์และเป็นประเด็นร้อนแรงอยู่ช่วงหนึ่ง โดยทั้งคู่ไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวแต่อย่างใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ล่าสุดวันนี้ (10 ..66) “ชมพู่ได้ออกงานอีเวนต์และได้เปิดใจถึงประเด็นดังกล่าว ให้หลายคนได้หายสงสัยกันไปเลย

กระแสข่าวมีบ้านเล็ก ?

ก็ไม่ใช่แล้วไง เลี้ยวผ่านไปแล้ว ความรู้สึกจริงๆ ไม่มีใครชอบให้มาแตะครอบครัว เราให้คุณค่ากับสถาบันครอบครัวถ้าเกิดขึ้นกับครอบครัวใครก็ไม่มีใครชอบหรอก ก็มีคุยกับน็อต ไม่ได้คุยแบบวีนๆ อะไรนะ (ขำ) คุยกันดีๆ ใครทำอะไรเราแบบนี้มากกว่า จะใช้คำว่าแปลกใจมั้ย ขอใช้คำว่าผิดหวังมากกว่า เราอยู่ของเราโดยที่เราไม่เคยรังแกใคร

กับน้องที่ทำงานที่โดนโยงแทนธนัชชาได้มีการคุยมั้ย ?

ก็ไม่ได้คุย เพราะไม่ใช่จุดที่ต้องไปเคลียร์ ไม่ต้องคุยกัน ถ้าเดือดร้อนก็เดือนร้อนกันทุกฝ่าย สำหรับคุณน็อตเขาก็โฟกัสที่ความรู้สึกเรา และก็แล้วแต่งเราว่าจะทำยังไง

 

น็อตในฐานะหัวหน้าครอบครัวเขาเสียใจขนาดไหน?

เขาก็บอกว่าความรู้สึกเราคืออะไร อย่างแรกที่โฟกัสเลยก็คือความรู้สึกเรา แล้วแต่เราว่าอยากจะยังไง

กับเคสนี้เราลอยตัวเหนือดรามาเหมือนเคยไหม หรือเป็นเรื่องที่รู้สึกว่าปล่อยผ่านไม่ได้นะ?

ก็อย่างที่บอกค่ะว่า ถ้าชมจะบอกว่าชมไม่รู้สึกอะไรเลย ก็คงโกหก คือต้องแบ่งออกเป็น 2 กรณีนะ ข้อหนึ่งคือว่า พอมีข่าวมันจะมีเรื่องของความเข้าใจของสังคม คนที่มองเข้ามา ซึ่งตรงนี้ชมรู้อยู่แล้วว่าห้ามอะไรใครไม่ได้ ใครจะคิดอะไรยังไง หรือใครจะบอกยังไง ชมไม่สามารถทำให้ทุกคนมองเห็นหรือคิดอย่างที่เราให้คิดเหมือนกันหมดทั้งประเทศ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เราอยู่วงการมาเรารู้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นตรงนี้คงต้องปล่อย ไม่รู้จะไปดีลกับมันทำไม คงต้องปล่อย แต่อีกจุดที่ว่าเราอยู่ของเราดีๆ ทำไมถึงเกิดขึ้นกับเรา


ตามหาต้นตอไหม
?

ชมไม่ต้องตามหาต้นตอก็มีคนบอกอยู่แล้ว เรื่องฟ้องร้องคงไม่เพราะเด็กๆ ยังเล็กอยู่ ส่วนคนที่ซัพพอร์ตชมเยอะ ต้องขอบคุณทุกๆ คนที่รักครอบครัวเราด้วย ซาบซึ้งจริงๆ

ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตสามีภรรยามามั่นใจใน ถามเป็นหัวหน้าครอบครัวของเขาขนาดไหน?

ถ้าให้พูดก็เหมือนเราออกตัวแทนเขา เลยไม่รู้สึกว่าต้องออกมาอธิบาย ส่วนคุณน็อตก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะมองเขายังไง เราไม่มีหน้าที่ที่จะต้องมาอธิบายว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้มั่นใจเพราะเรารู้จัก และมีภาพความฝันด้วยกัน มันไม่ควรมาถูกทำลายด้วยเรื่องนี้ เรามีภาพใหญ่ มีความฝันที่อยากจะไปด้วยกัน

เขาเคยมาเล่าไหมว่ามีคนพยายามจะเข้าหาเขา เพราะเขามีเสน่ห์?

ที่ผ่านมาชมไม่ได้โฟกัสว่าหรือมานั่งจับผิดว่าคนนี้มองเขา หรือคนนี้จะมาอะไร หรือดูหิว เราไม่เคยไปโฟกัสตรงนั้น ถ้าจะบอกว่าเขาหล่อและฮอตคนเลยจับตาก็ไม่ทราบเหมือนกัน เราห้ามความคิดคนไม่ได้ เขาอยากจะคิดอะไรก็เอาที่สบายใจ แม้แต่วันนี้ที่คนดูสัมภาษณ์นี้จบจะคิดยังไงก็ได้ ชมรู้สึกว่ายิ่งทำให้เราได้บอนด์นิ่ง และกลับมามองเป้าหมายด้วยกัน จับมือกันแน่นมากขึ้นด้วยซ้ำ