เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 59 ที่บริเวณหน่วยออกเสียงประชามตินอกเขตจังหวัด ที่หน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จังหวัดบุรีรัมย์ มีน.ส.จาริยาภรณ์ จิตย์มาตย์ อายุ 25 ปี เป็นครูอยู่ที่โรงเรียนบ้านดอนสมบูรณ์ ต.ดงอีจาน ต.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ก็ได้เดินทางมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติ ที่หน่วยออกเสียงนอกเขตที่จังหวัดดังกล่าวในครั้งนี้ด้วย ซึ่งหลังจากใช้สิทธิเสร็จเรียบร้อยแล้วขณะกำลังจะเดินทางกลับ น.ส.จาริยาภรณ์ ก็เห็นสร้อยคอทองคำตกอยู่บริเวณพื้นข้างหน่วยออกเสียง จึงเก็บขึ้นมาดูก็พบเป็นทองคำจริงน้ำหนัก 50 สตางค์ จากนั้นได้นำมาแจ้งทางกรรมการประจำหน่วย ก่อนที่กรรมการจะพาไปแจ้งกับทาง กกต.เพื่อประกาศตามหาเจ้าของ จากนั้น น.ส.จาริยาภรณ์ ก็ได้ส่งมอบสร้อยคอทองคำที่เก็บได้ให้กับทาง กกต.ไว้ เพื่อส่งคืนให้กับเจ้าของ เพราะตนเองต้องรีบเดินทางกลับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้กล่าวชื่นชมในความมีน้ำใจของคุณครูคนดังกล่าวด้วย
ต่อมาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง น.ส.สุรีรัตน์ สารพล อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ ต.ดงเจริญ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร เป็นเจ้าพนักงานจัดเก็บข้อมูลการเงิน อบต.นิคม อ.สตึก ก็ได้มาแจ้งกับทาง กกต.ว่าทำทองหล่นหาย ทาง กกต. จึงได้สอบถามรายละเอียดของทองที่หาย ซึ่ง น.ส.สุรีรัตน์ ก็สามารถระบุลักษณะของทองได้ตรงกัน จึงได้ทำการส่งมอบสร้อยคอทองคำดังกล่าวคืนให้กับ น.ส.สุรีรัตน์ โดยมี พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.บุรีรัมย์ พร้อม นายวิทยา จิตรมาศ ผอ.กกต. ร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งมอบทองคืนด้วย
น.ส.สุรีรัตน์ เปิดเผยว่า ตอนเช้าได้ขับรถจากที่พักมุ่งหน้ามามาใช้สิทธิออกเสียงประชามตินอกเขตจังหวัดที่ กกต. โดยสวมสร้อยคำทองคำเส้นดังกล่าวมาด้วย แต่เมื่อกลับไปถึงที่พักก็ไม่เห็นทองที่คอแล้วรู้สึกตกใจมาก จึงมั่นใจว่าน่าจะหล่นที่ กกต. เพราะไม่ได้แวะที่ไหน จึงรีบกลับไปตามหาก็ทราบว่ามีคนเก็บไว้แล้วนำไปแจ้งทาง กกต. จึงได้ไปติดต่อกับทาง กกต. เมื่อเห็นสร้อยทองของตัวเองก็รู้สึกดีใจมาก เพราะทองเส้นดังกล่าวเป็นของขวัญที่แม่ซื้อให้ตอนเรียนจบก่อนจะได้ทำงาน ทั้งบอกว่าตอนแรกไม่คิดว่าจะได้คืน จึงอยากฝากขอบคุณในน้ำใจของคนที่เก็บได้แล้วนำมาส่งคืนด้วย
“ตอนที่เห็นทองก็ไม่เเน่ใจว่าเป็นทองจริงหรือทองปลอม แต่ก็นำมาแจ้งกับกรรมการประจำหน่วย เพราะคิดว่าเจ้าของคงอยากได้คืน ประกอบกับตนเองก็เป็นครู จึงอยากเป็นแบบอย่างให้สังคมและเยาวชนในการทำความดี หากเก็บสิ่งของได้ก็ควรจะส่งคืนให้กับเจ้าของ เพราะสิ่งของบางอย่างก็มีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าราคาของสิ่งของ และเชื่อว่าคนที่ทำหายก็คงจะทุกข์ใจหากไม่ได้สิ่งของคืน” ด้านครูสาวกล่าว
ที่มา – workpointtv.com
