เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีข่าวเศร้าการจากไปของ “น้องทีน” หรือ นายสดายุ ศุภผลศิริ เจ้าของร้าน “อ้วนตรึ้ม กะเพราตะหลิวตัด” จากเด็กไร้บ้านสู้ชีวิตจนมีชื่อเสียงได้เสียชีวิตลงเมื่อคืนวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น

ล่าสุด ที่ วัดนินสุขาราม ศาลา 1 บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ โดยมีร่างน้องทีนอยู่บนเตียงรดน้ำศพ และมีโลงศพขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหลัง

จากการสอบถาม นายชีพ ไชยนันต์ พ่อของน้องทีน ยืนยันว่า ไม่ได้ทิ้งลูก แต่ในวันที่แยกออกมา ไม่อยากให้ลูกมาลำบากด้วย มันมีปัจจัยหลายอย่าง ทำให้ติดต่อหากันยาก ส่วนใหญ่รู้ข่าวจากในโซเชียล เมื่อเห็นว่าเขามีอาชีพแล้ว ก็ไม่อยากเข้าไปยุ่ง หรือแสดงตัว กลัวจะดูไม่ดี เพราะลูกจะได้เดินด้วยตัวเองในสิ่งที่รัก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา ตนมาหาลูกแต่ไม่เจอ มารู้อีกที ลูกก็เข้าโรงพยาบาลแล้ว ตอนคุยกันผ่านไลน์ ตอนแรกก็เห็นว่าอาการดีขึ้น แต่อยู่ๆ อาการทรุดและเสียชีวิต พอรู้ข่าวใจหายมาก ที่ผ่านมาตนภูมิใจและรักลูกมาก อยากให้เกิดเป็นลูกอีก

พ่อน้องทีน กล่าวอีกว่า ตอนที่ตนแยกบ้านออกมายังไม่เป็นแบบนี้ จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้มีบ้าน น้องทีนอยู่กับย่าเขา ตนได้ข่าวอีกทีก็คือบ้านไม่มีแล้ว ได้รู้เรื่องนี้จากรายการหนึ่งจึงติดต่อไปทางน้องและ ต่อศักดิ์ โดยส่วนตัวคิดว่า ต่อศักดิ์เป็นคนโอเค น้องก็ค่อนข้างเข้ากันกับเขา แล้วเขาน่าจะมีอะไรที่ให้น้องสะดวกกว่าทางตน

“ผมพูดได้คำเดียวว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กที่กตัญญูมาก คำว่ากตัญญูในที่นี้ไม่ใช่แค่กตัญญูกับญาติตัวเอง แต่เป็นทุกคนที่ให้เขา แล้วเขาจะให้ตอบ เขาจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนต่อๆ ไป ผมเลยภูมิใจในตัวเขา แต่จะมาประกาศไม่ได้ว่าเป็นลูกผม เพราะมีเรื่องราวหลายอย่างที่มากกว่านั้น หรือมากกว่าจะอธิบายได้หมด ผมภูมิใจตั้งแต่เขาอยู่กับย่า แล้วดูแลย่าแทนผมได้ เหมือนรุ่นสู่รุ่น แต่ตอนที่ผมจากไปตอนนั้นก็เข้าใจว่าเขากับย่าอยู่กันได้ โดยที่ผมไม่รู้ว่าหลังจากตอนนั้นจะเกิดอะไรขึ้น ผมคิดว่าที่น้องทีนมีทุกวันนี้เพราะขยันและกตัญญู

ในฐานะที่ผมเป็นพ่อ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ตัวติดกัน แต่ผมภูมิใจมากกับเด็กคนนี้ ผมภูมิใจทุกครั้งที่ได้ดูคลิปวิดีโอ ภูมิใจทุกครั้งที่มีคนพูดถึงเขา ผมก็ดูอยู่ห่างๆ ผมพูดได้เลยว่าเขาเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคน คนที่คิดว่าท้อหากมาดูน้องแล้วจะมีกำลังใจขึ้นอีกเยอะ”

ทางด้าน ด้านยายแจ๋ว หรือ นางอำนวย พลานบุญ อายุ 63 ปี ยายของน้องทีน ระบุว่า ตั้งแต่น้องทีนเกิดมา พ่อแม่ยังอยู่ด้วยกัน แต่ตอนหลังมีปัญหากัน ย่าก็เลี้ยงมาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต และพอย่าเสียชีวิต ยายก็ช่วยดูแลต่ออยู่พักหนึ่ง ก่อนจะมีคนมารับไปอุปการะ ยืนยันไม่ได้ทอดทิ้งหลาน ที่ผ่านมาตอนที่หลานป่วยเข้าโรงพยาบาลคิดว่าอาการคงจะดีขึ้นแล้ว เลยไม่ได้ไปเยี่ยม เพราะต้องทำงานและดูแลคนพิการติดเตียงที่บ้าน ไม่ค่อยมีเวลาได้เจอกัน ต่างคนต่างทำมาหากินเลี้ยงตัวเอง ที่ผ่านมา ยายภูมิใจที่หลานเป็นคนขยันเลี้ยงดูตัวเอง อยากให้หลานไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่ต้องลำบาก และเหนื่อยเหมือนที่ผ่านมา

ส่วน นายต่อศักดิ์ รุ่งทอง หรือ พี่ต่อ คนที่ดูแลน้อง กล่าวว่า เมื่อวานที่อยู่ด้วยกันน้องเขาหมดแรงและหมดสติไปรอบหนึ่งแล้ว เลยแจ้งพยาบาลว่าขอ ไปซื้อเกลือแร่ให้น้องได้ไหม ก็เลยไปซื้อน้ำเกลือแร่มาให้ดื่ม แล้วน้องก็พอคุยได้อะไรได้ พอหลังจากนั้นน้องก็อ้วกอีกสองครั้งแล้วก็หมดสติ มารู้อีกทีก็ที่ว่าเริ่มทำการปั๊มหัวใจน้องและไม่ตอบสนอง และไม่สามารถให้ยาอะไรได้

เด็กคนนี้ให้ทำอะไรก็ทำได้หมด ขอให้แค่ได้ทำเพื่อแลกข้าวหนึ่งจาน แต่ที่ผมมาเปลี่ยนนิสัยน้องเขา คอยด่าเขาคอยเตือนเขา เพราะชีวิตเขาต้องเดินต่อไปไม่ใช่ เพื่อทำเพื่อแลกข้าวหนึ่งจาน ผมบอกเขาทุกครั้งเลยว่าอย่าท้อและอย่าไปสนใจสายตาคนอื่นเขาจะยังไงก็แล้วแต่ เอ็งไม่ได้ไปปล้นเขา จะขายของได้เท่าไรก็ทำไป ได้ไม่ได้ก็ทำไป ขอให้เพียงแค่ทำและลงมือทำ ในส่วนที่เขาดังเพราะผมอยากให้เขาดัง อยากให้พ่อแม่เขามาเจอและได้พบกัน

สำหรับปัญหาเรื่องโลงศพและการหาวัดที่ฌาปนกิจน้อง ที่ต้องหากันถึง 3 วัดนั้น นายกฤษฎา พงศ์พานิช อายุ 54 ปี แอดมินเพจ ของดีบางแค กล่าวว่า ก่อนหน้านี้จะนำร่างน้องทีนไปไว้ที่วัดนินมานรดี ซึ่งอยู่ใกล้บ้านน้องมากที่สุด แต่เนื่องด้วยว่า น้ำหนักตัวของน้อง 210 กิโลกรัม ถึง 220 กิโลกรัม และโลงมีขนาดใหญ่ ทำให้ไม่สามารถ เข้าเตาเผาได้ ทำให้ยากลำบากต่อการเผาเลยเลื่อนไปขอวัดม่วงบางแค เพื่อทำการฌาปนกิจ แต่เนื่องด้วยวัดม่วงเคยมีการซ่อมเตาเผามาแล้วกลัวว่าเตาจะไม่แข็งแรง จึงย้ายมาเผาร่างน้องที่วัดนินสุขาราม

ขณะที่ นายเล็ก เกิดน้อย อายุ 42 ปี หัวหน้าเจ้าหน้าที่วัด กล่าวว่า วัดเคยเผาศพที่มีขนาดน้ำหนักตัวเยอะขนาดนี้มาแล้ว และก่อนหน้านี้ทางวัดได้เคยเผาศพโดยใช้ระยะเวลาในการเผานานๆ จึงมั่นใจว่าทางวัดสามารถเผาศพของน้องได้ ในส่วนการเผาศพของน้องคาดว่าจะใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง จึงมั่นใจว่าทางวัดสามารถเผาร่างน้องได้หมด ในส่วนปัญหาในการยกร่างน้องเข้าโลง น้องนั้นมีขนาดใหญ่และน้ำหนักเยอะซึ่งต้องใช้คนในการยกร่างน้องประมาณ 10 กว่าคน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวเศร้า น้องทีน เจ้าของร้านอ้วนตรึ้ม กะเพราตะหลิวตัด เสียชีวิตแล้ว

ชีวิตสุดอาภัพ! ตาวอนช่วยรักษาหลาน 13 หนัก 200 กว่าพูดไม่ได้ ต้องนั่งหลับ