เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เปิดจุดเปลี่ยนจากชื่อ !!! ไพรวัลย์ มาเป็น แพรรี่ พร้อมยอมรับการใช้ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่ายๆหลังจากสึกออกมาเป็นฆราวาส

เมื่อ ไพรวัลย์ หรือชื่อปัจจุบันที่แฟนๆตั้งให้คือ แพรรี่ ได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษ ในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้มาเล่าเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมาพร้อมกับเปิดทุกช่วงเวลาถึง แพรรี่ ที่ได้มาใช้คือแฟนๆตั้งให้ พร้อมเปิดใจถึงการสึกออกมาเป็นฆราวาส

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

-ดับซ่า…!! “มวยไทย” เหนือ “กุน ขแมร์” นักชกไทยดับซ่านักชกเขมร เจอซัดนับยก 2 (มีคลิป)

-บุกทลาย…!! โรงงานผลิตลูกชิ้นเถื่อน เจอผสมสารปนเปื้อน ส่งขายทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑล กว่า 41 แห่ง

ถาม ที่มาของชื่อ แพรรี่ คือ
ไพรวัลย์ : มีคนตั้งให้ค่ะ เป็นแฟนคลับตั้งให้ เพราะว่าตอนหลังตอนช่วงที่กลับไปอยู่บ้านก็ทำค้าขาย จากขายทุเรียนก็มาขายน้ำพริก และพอขายน้ำพริกลุคเราคนไม่ได้จำเราในมาดของผู้ชายแมนๆ ไปแล้วคนก็รู้ว่าเราคือLGBT อะไรอย่างนี้ แล้วภาพเรามันเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆของการเป็น ไม่ได้เป็นพ่อค้าคนรู้จักเราว่าเราเป็นแม่ค้า พอเรามาขายน้ำพริกคนก็เลยตั้งชื่อให้เพราะว่าถ้าน้ำพริกไพรวัลย์อย่างนี้ก็ดูไม่มีอะไร ก็ดูไม่น่าสนใจคนก็เลยเปลี่ยนชื่อเราจากไพรวัลย์เป็นแพรรี่

ถาม บางคนอาจจะบอกว่าช็อตฟีล เพราะเราเห็นตั้งแต่ตอนเป็นพระมหาไพรวัลย์ มาเป็นทิดไพรวัลย์ แล้วก็มาเป็นแพรรี่ ต้องถามก่อนว่าฟิตแบคจากผู้คน เห็นความเปลี่ยนแปลงของไพรวัลย์ เราต้องเจออะไรบ้าง
ไพรวัลย์ : เจอเยอะค่ะ คนที่เห็นด้วยก็มี คนที่ไม่เห็นด้วยก็มี คนที่ชื่นชมเขามากคนด่าก็เยอะ แน่นอนจะให้คนชมเราหมดไม่ได้ค่ะ ถามว่ารู้สึกอย่างไรบ้างกับฟีดแบ็คนานัปการที่เจอใช่ไหมคะ เรารับทั้งหมดเลยความคิดเห็นทั้งหมดที่คนอื่นมีต่อเรา แต่ว่าใดๆคือสิ่งที่เราเป็นคือ เราก็ต้องเป็นสิ่งที่เราเลือกแล้วเลือกแล้วว่าเราจะเป็นแล้วเราก็ปล่อยให้เป็น เป็นอย่างที่มันควรจะเป็นก็คือใครที่เขายังชื่นชอบเราอยากติดตามเราต่อไป Support เราในลุคใหม่ในบทบาทใหม่ ที่เราเป็นในตัวตนของเราแบบใหม่ก็ดีไป เราก็เข้าใจ ส่วนใครที่เขาไม่พร้อมจะรับและรับไม่ได้ เหมือนเราบอกว่าถ้าใครรับเราในเวอร์ชั่นที่เป็นกะเทย แล้วเรามาพูดธรรมะให้สาระ ถ้ารับเราไม่ได้ในเวอร์ชั่นนี้ในฟังก์ชั่นนี้ เราก็ไม่ใช่ตัวเลือกของท่านเหล่านั้นอีกต่อไป ของคนเหล่านั้นอีกต่อไป แล้วก็เป็นจริงๆเพราะว่าหลายคนก็แบบเลิกติดตามไปอะไรไป เราก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามนั้น เพราะเราเข้าใจว่ามันอย่างไร

ถาม แน่นอนเวลาที่เราเห็นฟีดแบ็กต่างๆนานามากมาย หลายๆคนที่นั่งอยู่ตรงนี้เคยพูดเสมอว่าฟีดแบ็กแรงๆหลายๆครั้งที่มีผลกระทบต่อใจ กับตัวแพร์รี่เองเป็นไหมไพรวัลย์ : ถ้าเราบอกว่ามันไม่มีเลยมันก็ดูปลอมไป แน่นอนว่ามันมีมันก็บั่นทอนความรู้สึก แต่ว่าใดๆมันบั่นทอน มันมีความบั่นทอนอยู่บ้าง แต่มันไม่มากพอที่มันจะแบบหยุดในสิ่งที่เราอยากจะทำหรือเราอยากจะเป็น เพราะเรารู้สึกว่าเราจะเป็นคน อาจจะเป็นข้อดีหรือข้อเสียเราไม่มั่นใจ แต่เราเป็นคนที่ถ้าเราทำอะไรเราจะเชื่อมั่นในตัวเอง เพราะเราเป็นคนแบบชอบคุยกับตัวเอง เวลาที่เราทำอะไรเราก็จะคุยกับตัวเราเองให้เหตุผลกับตัวเราเองว่าถ้าเราทำแบบนี้เราเลือกจะทำอย่างนี้ เรามีเหตุผลอะไรซัพพอร์ตตัวเรา และไม่ใช่ว่าซัพพอร์ตเพื่อบอกก้บคนอื่น แต่บอกกับตัวเรา บอกกับครอบครัวเราอย่างไรว่า… เราจะเป็นแบบนี้เราเลือกที่จะทำอย่างนี้

ถาม ตั้งแต่สึกออกมาช่วงไหนเป็นช่วงที่เรารู้สึกว่า… หวั่นไหวหรือกระทบกระเทือนใจตัวเองมากที่สุด
ไพวัลย์ : ก็ตอนที่เจอดรามาครั้งแรกเลยดรามาหนักหลังจากสึกที่เรามองว่าเราไม่ใช่ ภาพของเราเป็นพระมหาไพวัลย์ แบบที่เขาเคยเอ็นดู เขามองเราว่าเรากลายเป็นคนแบบ ออกมาแล้วเรากลายเป็นคนแบบมาหลงผู้ชาย มาบ้าผู้ชาย เรื่องที่อยากจะทำไม่ทำแล้ว เรื่องที่จะปฏิรูปศาสนา เรื่องที่เคยพูดอะไรที่คนตามแล้วเขาได้สาระ ไม่ทำแล้วหลงโลกไปแล้ว หลงอยู่ในโลกฆราวาส ในแสงสีไปแล้วอันนั้นคือ หนักสุด ทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับเรา เราแค่รู้สึกว่าทำไมตัดสินเราเร็วจัง !! ทำไมอยากเห็นผลลัพธ์ภาพลักษณ์ในตัวเราเร็วจัง ทำไมไม่ให้เวลาเราในการค้นหาตัวเองบ้าง เราลองผิดลองถูกบ้างเพราะเราก็เพิ่งออกมา ตอนนั้นยังไม่ถึงปีเลยค่ะยังไม่กี่เดือนเอง มันเหมือนช่วงที่เรากำลังแบบ ต้องการทำอะไรซักอย่างเพื่อการค้นพบ หรือการค้นหาตัวตนของเราด้วย

ถาม ปรับตัวปรับใจอย่างไร
ไพวัลย์ : ยากอยู่ค่ะพี่ฉอด เราก็ต้องหาอะไรที่มันเป็นแบบ มาทำให้จิตใจของเรามันมีพลังอยากใช้คำว่าอย่างนี้ แล้วตอนที่เรามีดรามาเรากลับบ้านเลย เพราะเรารู้สึกว่าบ้านคือพื้นที่ที่ปลอดภัยของเรา เพราะเรากลับไปบ้านเราคุยกับแม่ยังรู้เรื่องอยู่ แม่เข้าใจในสิ่งที่เราทำ ญาติพี่น้องเราก็เข้าใจ รู้สึกว่าอยู่กับโซเชียลอย่างนี้ แล้วพอคนไม่เข้าใจ แล้วมันก็ไม่มีประโยชน์แล้วที่จะต้องมานั่งอธิบาย มานั่งพูดอะไรในชั่วโมงที่คนไม่พร้อมฟังเรา เราได้บทเรียนว่ามันไม่มีประโยชน์อย่าไปพยายามพูดอะไรในเวลาที่คุณยังไม่พร้อม หรือยังไม่อยากที่จะฟังเรา

ถาม แต่คนที่เราเป็นห่วงที่สุดก็คือคุณพ่อคุณแม่ แล้วคุณพ่อคุณแม่ว่าอย่างไรบ้าง
ไพวัลย์ : คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยว่าอะไรในตัวเราเลย ในสิ่งที่เราทำมีแต่คอยซัพพอร์ตและให้กำลังใจ

สามารถชมคลิป ย้อนหลัง ได้ในรายการ CLUB FRIDAY SHOW ผลิตโดย CHANGE2561 ทางยูทูป :

by TVPOOL ONLINE