เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 10 ส.ค. พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ จันจะนะ สว.สส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท จับกุมนายวิศิษฐ์ ปิ่นทอง อายุ 31 ปี ชาวอ่างทอง และนายวันชัย จั่นเรือง อายุ 20 ปี ชาวพิจิตร พร้อมของกลางเงินสด 2,880 บาท กระเป๋าสตางต์ 1 ใบ ไขควง 1 ด้าม และร่ม 1 คัน โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ปากซอยพหลโยธิน 1 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท กำลังออกตรวจตราพื้นที่อยู่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงทรัพย์ผู้เสียหายจากบริเวณทางลงทางด่วนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กำลังวิ่งหลบหนีมาตามถนนพหลโยธิน จึงรีบนำกำลังไปตรวจสอบพบนายณัฐชัย ปัญญาใจ อายุ 33 ปี พนักงานร้านเคเอฟซี สาขาห้างเซ็นจูรี่ พร้อมพลเมืองดีช่วยกันจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนอาไว้ได้ในสภาพสะบักสะบอมพร้อมของกลางดังกล่าว โดยมีนายทองดำ ศรีสารคาม อายุ 41 ปีรปภ. ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บถูกไขควงแทงเข้าที่ปาก ชี้ตัวยืนยันให้จับกุม เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบปากคำที่สน.พญาไท
นายณัฐชัย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเพิ่งเลิกงาน และกำลังจะขี่รถจยย.กลับบ้าน เมื่อมาถึงบริเวณใต้ทางด่วนจุดเกิดเหตุ พบผู้ต้องหาทั้งสองคนกำลังช่วยกันเอาร่มตีและพยายามจะใช้ไขควงแทงผู้เสียหายเพื่อจะชิงทรัพย์ ตนจึงรีบขี่รถเข้าไปช่วยเหลือ ทำให้คนร้ายตกใจรีบวิ่งหนีออกมายังถนนใหญ่ ตนจึงขี่รถไล่ตามไป จนกระทั่งถึงบริเวณหน้าเซเว่นก็ตะโกนให้ชาวบ้านในละแวกนั้นช่วยกันจับตัวเอาไว้ได้ ก่อนแจ้งให้ตำรวจมารับตัวไปดำเนินคดี
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพ โดยนายวิศิษฐ์ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยถูกตำรวจ สน.บางซื่อ จับข้อหาลักทรัพย์ติดคุกอยู่นานประมาณ 2 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมาไม่กี่เดือนจึงยังไม่มีงานทำ อาศัยนอนอยู่ในปั๊มน้ำมัน ปตท.สนามเป้า และอาศัยข้าววัดกินประทังชีวิตไปวันๆ ก่อนเกิดเหตุเลยชวนนายวันชัยคนเร่ร่อนที่นอนอยู่ในปั๊มด้วยกันออกหาเหยื่อชิงทรัพย์หาเงินมาใช้จ่าย จนกระทั่งมาเจอผู้เสียหายเดินอยู่ จึงตรงเข้าไปใช้ไขควงจี้ ส่วนนายวันชัยใช้ร่มตี แต่มีพลเมืองดีเข้ามาเห็นก่อนเลยพากันวิ่งหนีแต่ก็ไปไม่รอด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธ และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา – เดลินิวส์