เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ครอบครัวนึงซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต แต่กลับถูกตัวแทนบริษัทประกันหลอกให้ซื้อประกันใหม่ทุกปี ออกอุบายจะให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันเดิม ก่อนจะนำเงินที่ลูกค้าชำระเบี้ยไปเปิดกรมธรรม์ใหม่ เพื่อทำยอด จนเกิดความเสียหาย 60 ล้านบาท ขณะที่บริษัทประกันชีวิตต้นสังกัด ปฏิเสธรับผิดชอบ อ้างเป็นเรื่องของตัวแทน แม้จะร้องคปภ. เจรานานถึง 6 เดือน แต่แก้ปัญหาไม่ได้ ครอบครัวนี้จึงต้องลุยฟ้องแพ่งขอคืนเงินทั้งหมด ส่วนตัวแทนประกันดังกล่าว พบว่ายังคงทำหน้าที่ขายประกันตามปกติ

กองเอกสารกรมธรรม์กว่า 60 ฉบับ ที่สมาชิกในครอบครัวของผู้เสียหายรายนี้ ทำประกันชีวิตกับตัวแทนของบริษัทประกันแห่งหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2556 โดยถูกชักชวนให้ซื้อกรมธรรม์ใหม่ทุกปี  ซึ่งตัวแทนขายประกันชีวิตอ้างว่า จะได้ผลประโยชน์เพิ่มขึ้น และไม่ต้องยกเลิกกรมธรรม์เดิม แต่ภายหลังพบว่า ตัวแทนประกันนำเงินชำระค่าเบี้ยของครอบครัวนี้ ไปเปิดกรมธรรม์ฉบับใหม่โดยพลการ และยังพบว่า กรมธรรม์หลายฉบับที่ทำกับตัวแทนประกันรายนี้ เกิดความเสียหาย จนสิ้นสุดความคุ้มครอง  และไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตัวแทนประกันกล่าวอ้างไว้

ผู้เสียหาย เล่าว่า ครอบครัว ได้รู้จักตัวแทนประกันรายนี้ผ่านการแนะนำของพนักงานธนาคารซึ่งครอบครัวนี้ทำธุรกรรมกับธนาคารนี้อยู่เป็นประจำ โดยตัวแทนขายประกันแนะนำตัวว่า เป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัท จะขอดูแลการทำประกันชีวิตให้ จากนั้นเสนอขายประกันชุดแรกให้กับคนที่เป็นพ่อและแม่  โดยขอให้ยกเลิกกรมธรรม์ที่เคยทำไว้กับบริษัทอื่น เพื่อมาทำกับตัวเองเพียงเจ้าเดียว อ้างเหตุผลว่า จะได้จัดการง่ายขึ้น  และจะเป็นคนดำเนินการให้ทั้งหมด ซึ่งสมาชิกในครอบครัวเห็นว่า มีความน่าเชื่อถือและยังเป็นคนที่พนักงานธนาคารแนะนำมาจึงไว้วางใจ ทำประกันกับตัวแทนคนดังกล่าว  โดยในช่วงแรกก็ไม่มีสิ่งผิดปกติ

แต่หลังจากนั้น มีการก็ชักชวนให้ซื้อกรมธรรม์ฉบับใหม่ทุกปี โดยอ้างว่ากรมธรรม์ฉบับเก่าคุ้มทุนแล้ว ไม่ต้องจ่ายเบี้ยต่อ และไม่ต้องยกเลิก หากเปิดฉบับใหม่จะได้ความคุ้มครอง 2 เท่า และยังได้รับผลประโยชน์ครบตามที่กรมธรรม์เดิมระบุไว้  ทำให้ผู้เป็นแม่หลงเชื่อ ยอมทำประกันเพิ่มจนทางครอบครัวผู้เสียหาย มียอดชำระเบี้ยสูงถึง 12 ล้านบาทต่อปี  และยังชักชวนลูกชาย 2 คนของครอบครัว สมัครเป็นตัวแทนขายประกันในสังกัดของตนเอง  โดยอ้างว่าจะได้นำค่าคอมมิชชั่นมาเป็นส่วนลดการทำประกัน  ส่วนเรื่องการทำธุรกรรมด้านต่าง ๆ ตัวแทนขายประกันรายนี้จะเป็นคนจัดการเองทั้งหมด

ด้านผู้เสียหายรายนี้จึงเริ่มสังหรณ์ใจ หลังมีความผิดปกติเกิดขึ้นในช่วง ปี 2563 หลังตัวแทนมาเก็บเบี้ยประกันของพ่อและแม่รวม  4 กรมธรรม์ เป็นเงิน 2 ล้านบาท แต่กลับนำเบี้ยประกันไปเปิดกรมธรรม์ใหม่ให้กับน้องสาว โดยไม่แจ้งให้ทางครอบครัวทราบ จึงเริ่มสงสัยและได้เรียกตัวแทนประกันมาพูดคุย  แต่กลับพยายามเสนอให้คนในครอบครัวยอมรับกรมธรรม์ฉบับใหม่ที่ทำขึ้น  ผู้เสียหายจึงทวงถามถึงกรมธรรม์ที่เคยทำไว้ในช่วงที่ผ่านมา ว่ายังมีความคุ้มครองอยู่หรือไม่     แต่ทางตัวแทนประกันกับให้คำตอบได้ไม่ชัดเจน จนต้องมีการนัดพูดคุยกันถึง 5 ครั้ง กว่าจะยอมรับว่ากรมธรรม์หลายฉบับที่ทำให้ครอบครัวเกิดความเสียหาย นำเงินที่ลูกค้าชำระเบี้ยประกันของกรมธรรม์ฉบับเก่าไปเปิดกรมธรรม์ฉบับใหม่  และที่อ้างว่า ไม่ต้องจ่ายกรมธรรม์เดิม จะได้รับผลประโยชน์ครบตามกำหนดนั้น ไม่เป็นความจริง  และยังยอมรับด้วยว่าที่ทำไป  เนื่องจากต้องการผลงาน  ต้องการทำยอดเพื่อให้ได้ค่าคอมมิชชั่นที่มากขึ้น

โดยจากการกระทำของตัวแทนประกันรายนี้  มีกรมธรรม์ที่เกิดปัญหา รวม  65 ฉบับ แบ่งเป็น  กรมธรรม์ที่สิ้นผลบังคับใช้ 10 ฉบับ  ติดสถานะกู้ชำระเบี้ยอัตโนมัติ 36 ฉบับ ขยายระยะเวลาอัตโนมัติ 6 ฉบับ ถูกลดทุนประกัน 13 ฉบับ รวมความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แม้ตอนแรกตัวแทนประกันชีวิตรายนี้จะยอมรับผิด แต่สุดท้ายกลับปัดความรับผิดชอบ  จึงร้องเรียนไปที่บริษัทประกันชีวิตต้นสังกัด แต่ก็ถูกปฎิเสธความรับผิดชอบ อ้างว่าเป็นเรื่องของตัวแทน จึงได้นำเรื่องไปร้องกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. ซึ่งมีการเจรจากับตัวแทนและบริษัทผ่านคปภ. ถึง 6 เดือน แต่สุดท้ายไม่สามารถแก้ปัญหาได้  ผู้เสียหายจึงฟ้องแพ่งขอให้คืนเงินที่จ่ายไป ซึ่งขณะคดีอยู่ระหว่างการสืบพยานในศาลชั้นต้น

แต่ระหว่างนี้ผู้เสียหายกังวลว่า จะมีคนที่ถูกหลอกเหมือนกับครอบครัวของตนเอง เนื่องจากยังมีผู้เสียหาย รายอื่นที่ถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน และเป็นคดีฟ้องร้องกันอยู่ด้วย โดยตอนนี้ผู้เสียหายระบุว่า ตัวแทนประกันรายนี้  ยังคงทำหน้าที่ขายประกันตามปกติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ม.33เฮต่อ…!! ครม.ไฟเขียว ลดเงินสมทบ กองทุนประกันสังคม 3 เดือน ต.ค.-ธ.ค. 65

เช็กสิทธิ…!! ผู้ประกันตน ม.33 ม.39 อายุ 55 ปี รับบำเหน็จ บำนาญ ชราภาพ ผ่านพร้อมเพย์